ครั้งหนึ่งในชีวิต ไปพิชิต “ย่าติง”

 
หายจากบล็อกไปหลายวัน ไปเที่ยวมาค่า ไม่ได้กลับมามือเปล่านะคะ เอาเรื่องราวมาแบ่งปันให้ชมด้วยเช่นเคย
ครั้งนี้คือไปนานสุดถึง 8 วัน นี่นานสุดของการเที่ยวของเราแล้วล่ะ 555
 
#อย่ากลัวที่จะกล้า กล้าที่จะทำ เพราะเราทำมาแล้ว ใครไม่ติง…ที่นี่ ย่าติง ประเทศจีน 🇨🇳️ #ครั้งหนึ่งในชีวิตที่พิชิตย่าติง
กล้าที่จะลางานไปเที่ยวยาวๆ ถึง 8 วัน (ทั้งที่วันลาหมดเกลี้ยงตั้งแต่ต้นปีล่ะ 555) 😂
กล้าที่จะเอาเงินเก็บไปจ่ายเที่ยวแบบไม่เสียดาย (ดีกว่าเอาไปให้คนอื่นยืมแล้วไม่ได้คืนเสียอีกนะเออ 🤣
กล้าที่จะไปที่อากาศหนาวๆ ติดลบทั้งที่ตัวเองเป็นคนขี้หนาว 🤣
กล้าที่จะไปเดินเทรลทางโหดๆ ยากๆ ทั้งที่ไม่ได้ฟิตร่างกาย 🤣
กล้าที่จะไปร่วมทางกับคนแปลกหน้าทั้งที่ไม่เคยรู้จักกัน !! และเราก็ได้ไปพิชิตมาแล้ว ย่าติงมีอะไรอยากบอก⁉️
 
#ปักหมุดย่าติง 📌 หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสุดโหด สุดสวยในสายตาเรา สวยที่สุดตั้งแต่เคยเที่ยวมาก็ว่าได้ 
ดูจะโม้เกินไปเนอะ แต่รู้สึกแบบนั้นจริงๆ ค่ะ 555 ไปมาแล้วจึงเอามาแบ่งปันเล่ากันต่อ ณ ที่ระดับความสูง 4550 เมตรจากระดับน้ำทะเล 
ที่เราใช้เวลาเดินเท้าลากสังขารขึ้นไปกลับ 12 กิโลเมตร ใช้เวลากว่า 8 ชั่วโมง โดยมีเพียงน้ำเปล่าขวดเดียวเอาไว้จิบ แบกเป้ พกกล้องถ่ายรูป 
ไม้เท้าไว้คำยัน และออกซิเจนกระป๋องเท่านั้นสำหรับเดินไปพิชิตความสูงของย่าติง
ไปดูกันเหอะ ลุยๆๆๆๆ อ้อ ช่วงระหว่างทางเราก็อัพเฟสได้ด้วยนะคะ สัญญาณ TruemoveH ก็ยังมีค่า แต่พอขึ้นไปบนสุดแล้วจะดับสนิท 

ต้องรีบบอกโชเซียลก่อน อิอิ

สองข้างทางมันสวยมาก สองข้างทางมันว้าวมาก 😍 ตื่นตาตื่นใจกับวิวอลังการตรงหน้า 
ภาพชุดนี้ใช้แต่มือถือ #HuaweiP20Pro ถ่ายไป 95% ค่ะ ไม่รู้จะแบกกล้องใหญ่ไปด้วยทำไม 🙄 ถึงเวลาถ่ายกลับขี้เกียจจะยกมาถ่าย 
รู้แค่ว่า มันหนาว มันเหนื่อย และต้องไปให้ถึงที่หมายให้ได้
 เป้าหมายของเราคือ #ทะเลสาบน้ำนม และ #ทะเลสาบห้าสี เราไปพิชิตมาแล้ว 💖💓💖
 
ทริปนี้ของเราหลักๆ คือ Kunming Shangri-la Yading ตามหาเส้นขอบฟ้าที่หายไป คุนหมิง แชงกรีล่า ย่าติงนะคะ
แต่ขอลงไฮไลท์ของทริปนี้ก่อนเลย นั่นคือย่าติง ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ เดี๋ยวเอามาให้ชมทีหลังค่า

สำหรับเส้นทางการเดินทางในครั้งนี้เราใช้เวลาทั้งสิ้น 8 วันด้วยกัน

 

เส้นทางเดินเท้าระหว่างทางไปทะเลสาปน้ำนม และทะเลสาปห้าสี คือเป้าหมายของเรา
ตอนนี้มีทำทางบันไดแบบชันให้เดินขึ้นเรื่อยๆ มีเพียงเชือกเกาะ

บันไดไม้ก็จริงแต่ระยะทางชันมากและมีโขดหินซอกแซกตามเส้นทางเดิน

 
เส้นทางนี้มีให้เลือกสองแบบ คือ 
1. นั่งรถไป 6 กิโล แล้วเดินต่ออีก 6 กิโล ค่ารถ 80 หยวน 
2. คือเดินเพรียวๆ 12 กิโล ไม่เสียเงินสักหยวน
แน่นอนว่าในทริปทั้งหมดเลือกข้อ 1 ค่ะ สรุปเดินทั้งหมดไปกลับ 12 กิโล
 
 
 
ทางเดินเริ่มต้นดูดีเนอะ คือทำทางดีมาก เดินผ่านทางเดินไม้อย่างสบายๆ นี่คือเริ่มต้นจริง จิ้งงงง

ค่าเข้าอุทยานย่าติง (รวมค่ารถในอุทยาน (150+120) = 270 หยวน *ได้ 2 วัน) 

ค่ารถวันแรก 120 หยวนวันสองเหลือ 60 หยวน ถ้าใครนอนด้านในอุทยาน เสียค่ารถแค่ครั้งเดียว 
เราเลือกนอนในอุทยาน 1 คืนค่ะ และเที่ยวย่าติง 2 วัน
 
 
 
ทางเดินเริ่มต้นของย่าติง
เต็มไปด้วยวิวสวยๆ แบบว้าวๆ ให้ถ่ายรูปเก็บเป็นที่ระลึกกันหน่อย
นี่เป็นสาเหตุที่ว่าเดินช้ากว่าใครเขา เพราะเอาแต่ถ่ายรูปชมวิวไปด้วยนี่เอง 🤣🤣
 
 
พอทางเดินไม้หายไป ก็จะกลายเป็นทางเดินพื้นดินและหินธรรมดาๆ รวมทั้งมีม้าไว้บริการสำหรับขี่แบบเท่ๆ 
พาไปส่งยังด่านต่อไป แต่ไม่ใช่ด่านที่ถึงจุดหมายเลยนะ ยังไงก็ต้องเดินเท้าไปต่ออยู่ดี
ม้าในช่วงที่ 2 จะเยอะมากกก เวลาเดินต้องคอยหลบหลีกสารพัด ไม่ให้เหยียบขี้ม้า ซึ่งก็ยาก 
ไม่มีใครที่ไม่เหยียบโดนขี้ม้าเลยก็ว่าได้ 555 โดนทุกคน
 
 
 
วิวรอบข้างมันบรรเจิดมาก
มาในช่วงฤดูกาลใบไม้เปลียนสีด้วย เริ่มเหลืองๆ แล้วสวยดีไปอีกแบบน้า

ในภาพนี้คือวันที่ 15 ตุลาคม 2561 ที่ผ่านมาค่ะ

 
 
สเต็ปสอง ทางหินขุรุขระไปเรื่อยๆ ไม้เท้าค้ำยันยังไม่พอ
ทริปนี้สถานที่แบบนี้รองเท้าเดินเทรลสำคัญที่สุดจริงๆค่ะ
เราว่าเราเลือกมาดีแล้วนะ ตอนลงมานี่ถึงต้องเอาเล็บจิกเท้ากันเลยทีเดียว มันเจ็บเอาเรื่องเหมือนกันน้า
 
 
 
วิวข้างทางเดินมันว้าวมากกกก
เวลาหยุดเดินเพื่อถ่ายภาพนะบอกเลย มีหนาว ลมเย็นมาเรื่อยๆ มือนี่แข็งโป๊ก 555

พอเดินไปเรื่อยๆร่างกายก็จะอุ่นๆ หยุดเดินก็หนาว
เอ้าเอาไงดีล่ะเนี่ย

 
 
หึๆ ใครไม่มีไม้เท้าค้ำยันมาด้วยบอกเลย โหด
เอ้ยกุมขมับ จะมีช่วงหนึ่งที่เป็นน้ำแซมมาด้วยลื่นเอาเรื่องเหมือนกัน
นี่คือต้องปีนขึ้นไปบนนั้นให้ได้ 

จุดนี้ม้าจะไม่มาถึงแล้วนะคะ จะมาส่งเพียงแค่นี้แล้วให้เดินต่อไปเอง

 
 
แว๊กกกก เมื่อรู้ตัวว่าไม่ไหว ไม่ใช่สิ ดมไว้ก่อนเป็นยอดดี
เราไม่รู้หรอกว่าอาการขาดอ็อกซิเจนเป็นยังไง ก็เอามาสูดพ่นๆ ดมก่อนตอนนั่งพักไง
พอปีนเสร็จภารกิจ อ็อกซิเจนเราเหลือเยอะมากก ก็ทิ้งไปค่ะ
ค่าอ็อกซิเจนกระป๋องละ 30 หยวน เท่ากับ 142.50 บาท 
เก็บบรรยากาศรอบข้างมาให้ชมกันหน่อย ว่าไม่ได้มีแต่เราสูดดมอ็อกซิเจนกันนะ
ร้อยละ 90 ที่ขึ้นมาบนนี้ต่างก็สุดดมกันตอนนั่งพักระหว่างทางกันหมดเลยล่ะจ้าาาา ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติมากกก
 
 
 
มาถึงครึ่งทางหรือยังไม่รู้
รู้แค่ว่า เก็บภาพไปเรื่อยๆ เดินไปเรื่อยๆ เหนื่อยๆ เราก็พัก
แค่นั้นพอ มีช่วงเวลาที่คิดท้อบ้าง แค่คิดจริงๆ แต่ขาเรา ใจเราบอก ก็ต้องไปให้ถึงให้ได้แหละ ไหนๆ ก็มาเที่ยวแล้ว
 
 
 
 
ระหว่างทาง กับธงมนต์ตรา ที่มีให้เก็บภาพเป็นพร๊อพสวยๆ ด้วยค่ะ มีอยู่ 2 จุด โบกปลิวเวลาต้องลม
 
ตอนนี้เลยครึ่งทางมาแล้ว เป็นบันไดไม้สลับกับก้อนหิน กับคนที่ดมอ็อกซิเจนไปเรื่อยๆ 555
เราจะเห็นภาพนี้ตลอดทางเดิน
 
 
ก่อนจะถึงทะเลสาปน้ำนมและทะเลสาปห้าสี บนนี้ก็มีห้องน้ำให้ปลดทุกข์ด้วยนะจ๊ะ อิอิ
คนต่อแถวกันปลดทุกข์บนสวรรค์จริงๆเชียว
เราน่ะเดินตลอด 8 ชั่วโมงเหลือเชื่อ ไม่เข้าห้องน้ำและไม่ปวดเบาปวดหนักด้วย
ต้องขอบคุณร่างกายตัวเองที่ยังมีแรงขนาดนี้ แม่ไม่ได้ออกกำลังกายฟิตๆ มาก็ตาม
 
ณ เวลานี้บอกเลย เราใกล้ถึงที่หมายแล้วค่ะ !!!
 
 
 
ยังมีเรียวแรงที่จะเดินไปได้เรื่อยๆ ตามทางเดินตอนนี้เค้าจะทำบันไดไม้คล่อมกับพื้นหินไว้แล้ว
ดีกว่าปีก่อน จากเพื่อนที่เคยมาปีก่อนบอกว่า ปีนี้เดินง่ายกว่าเยอะ แต่ก็ยังเหนื่อยเหมือนเดิม 555
 
 
 
นั่นไง !! ทะเลสาปน้ำนม รอเราอยู่ตรงหน้าแล้ว มันว๊าวมาก
สีสดใสฟ้ากลางหุบเขาแบบนั้น เหมือนเป็นสิ่งมหัศจรรย์อย่างยิ่ง คุ้มค่ากับการมาเยือนจริงๆ
 

 
 
ถึงแล้วววว
นี่แหละที่เรียกว่า ทะเลสาปน้ำนม (牛奶海หนิวหน่ายไฮ่ )
สีมันสวยมากกกก ฉากหลังมันงามมากกก
เหมือนกับภาพวาด เหมือนกับภาพที่เราเคยเห็นตามอินเตอร์เน็ตที่เราคิดว่าคงไมมีโอกาสได้มายืนที่นี่
แต่แค่คิดเราไม่ลงมือทำ ไม่ลงเท้าที่จะเดินมา เราก็มาไม่ถึง
มันสวยมากจริงๆ เห็นแล้วตะลึงเลยค่า 

หยิกๆ ตัวเองว่ามันคือความจริงนะ มันไม่ใช่ความฝัน แต่หยิกไม่ได้หรอก มือเราชาด้วยความหนาวไปหมดแล้ว 555

 
เพี้ยนเพลีย
 
เก็บภาพเป็นที่ระลึกหน่อย
ว่ามาถึงแล้ววว (牛奶海หนิวหน่ายไฮ่ )
 
 

 

ไม่รอช้าที่จะเอาพร๊อพมาด้วยนั่นคือธงชาติไทย ให้ร่วมเป็นหนึ่งในการบันทึกความทรงจำของเรา
ที่ดั้นด้นขึ้นมาถึงตรงนี้ได้แล้วนะเออ

เชียร์ ไทยแลนด์ปู้นๆ

 
เพี้ยนสู้สู้
 
เดินต่อไปยังทะเลสาป 5 สีเพียง 500 เมตร
แต่เป็นทางที่โหดสัสมากกกกก เหนื่อยโฮก
เลยหันหลังไปมองทะเลสาปน้ำนมที่เราจากมา เออมันสวยงามจริงๆ

และถึงแล้วล่ะ นี่เหรอ ทะเลสาปห้าสีที่เรียกกัน
เบื้องหลังเป็นฉากภูเขาหิมะสวยๆ อย่างยิ่งใหญ่ มันงามมากกก
มีที่ถ่ายรูปสวยๆ หลายจุดนะ บนนี้สูงด้วย หนาวด้วย
ลมแรงมากด้วย เราเก็บภาพได้นิดหน่อย แล้วต้องไปต่อ
เพราะหากลุ่มไม่เจอแล้วจ้าา 555

 
 
ภาพมุมกว้างๆ ของทะเลสาป 5 สีบนย่าติงกันนะ นักท่องเที่ยวคนอื่นๆ จะขึ้นมาเรื่อยๆ สลับกันไป
ในความคิดเรานะคะ ทะเลสาปน้ำนมสีสันจะสวยว๊าวกว่ามาก แต่ทางขึ้นทะเลสาปห้าสีจะโหดมาก 555
สรุปแค่นี้แหละจ้าา สำหรับสองเป้าหมายที่เราไปพิชิตกันมา สำเร็จ เราทำสำเร็จแล้วนะ
 

 
แต่…. ยังต้องเดินกลับทางเดิมอีก 6 กิโล แบบทำเวลาด้วยนี่สิ ตอนเดินลงจิกเท้ามาก
เจ็บด้วย โอ้ยยย ทรมานเหมือนกันตอนเดินลง แม้จะเลือกใช้รองเท้าเดินเทรลโดยเฉพาะเราก็ยังเจ็ลอยู่ดีนะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น 
เราก้ผ่านเหตุการณ์เหล่านั้นมาได้แล้ว อย่างภูมิใจ ด้วยพละกำลังกาย และใจของเราเองล้วนๆ 
 
 
เสร็จสิ้นเป้าหมาย การพิชิตย่าติงสำเร็จแล้ว กับความสูง 4550 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล
ใช้เวลารวมทั้งสิ้น 8 ชั่่วโมง 12 กิโลเมตร

ตอนขึ้นไปบอกไม่ไหวแล้วนะเหนื่อยๆ ไม่เอาอีกแล้วจะไม่มาแล้วห้ามชวน
พอลงมาถึงพื้นดิน เห้ย สนุกดีเหมือนกันนะแบบนี้ 555
รู้สึกมีความสุข ที่ได้ไต่ขึ้นไป
รู้สึกมีพลังที่ได้ทำสำเร็จ
และรู้สึกสนุก กับสิ่งที่ผ่าน กับสิ่งที่ทำ
โอกาสมีอีก เราจะไม่รั้งรอ

ย่าติง เราไปมาแล้วนะ สักครั้งหนึ่งในชีวิต ที่ต้องไปพิชิต 

 
เราทำได้แล้ว !!

เพิ่มเราเป็นเพื่อนได้แล้ววันนี้!....