ช่วง 1-2 วันที่ผ่านมากับกระแสแบนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากประเทศแอฟริกาใต้ในหลายๆ ประเทศทั่วโลก เหตุผลเพราะว่าสถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19 กำลังกลับมาเลวร้ายอีกครั้ง ด้วยการกลายพันธุ์ของสายพันธุ์ใหม่ที่เรียกว่า B.1.1.529 ซึ่งผู้เชี่ยวชาญหลายคนชี้ว่า “เป็นสายพันธุ์ที่อันตรายที่สุดเท่าที่เคยเจอมา” เนื่องจากมันมีการกลายพันธุ์มากกว่า 30 ตำแหน่งจากการวิจัยแค่เบื้องต้น
โดย ‘สิงคโปร์’ เป็นประเทศล่าสุดที่เข้าร่วมการแบนนักท่องเที่ยวจากแอฟริกาใต้ รวมไปถึงนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากแอฟริกาใต้มาก่อน ไม่อนุญาตให้เข้าประเทศ อย่างเช่น อังกฤษ, ตุรกี และ อิสราเอล
ทั้งนี้ ในวัน 26 พ.ย. (ตามเวลายุโรป) องค์การอนามัยโลก (WHO) มีวาระการประชุมด่วนในหัวข้อเกี่ยวกับไวรัสสายพันธุ์ใหม่ B.1.1.529 ที่กำลังแพร่ระบาดอย่างหนักในแอฟริกาใต้ โดยประเมินว่าการแพร่ระบาดอยู่ในจุดวิกฤต และน่ากังวล ขณะเดียวกัน ศาสตราจารย์ Tulio de Oliveira ผู้อำนวยการศูนย์ตอบสนองโรคระบาดและนวัตกรรมในแอฟริกาใต้ ยอมรับว่า ไวรัสสายพันธุ์ใหม่ดังกล่าวอาจมีการกลายพันธุ์มากถึง 50 ตำแหน่งด้วยกัน ซึ่งต้องใช้เวลาในการศึกษาเพิ่มเติม
สิ่งที่น่ากังวลอีกอย่างก็คือ “ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าประสิทธิภาพของวัคซีนในปัจจุบันจะยับยั้ง หรือต่อต้านไวรัสสายพันธุ์ใหม่ได้มากแค่ไหน”
ขณะที่ Tom Peacock นักไวรัสวิทยาจาก Imperial Department of Infectious Disease ในสหราชอาณาจักร ได้พูดว่า “ความแตกต่างของสายพันธุ์ใหม่ B.1.1.529 กับสายพันธุ์ที่มีก่อนหน้านั้นอยู่ตรงที่ อัตราการกระจายตัว การแตกกิ่งของสายพันธุ์ที่มีความยาวมากกว่า นอกจากนี้ยังเกิดการกลายพันธุ์ที่โปรตีนหนาม (Spike) โดยการเชื้อโควิดจะเข้าไปจับกับ Receptor หรือตัวรับในเซลล์ร่างกายของมนุษย์ ก่อนจะเข้าสู่กระบวนการการติดเชื้อ หมายความว่าเราจะดูได้ยากมากขึ้นว่าใครเป็นผู้ป่วยติดเชื้อโควิด ดังนั้น ยอมรับว่าสายพันธุ์นี้มีความน่าห่วงมากกว่าสายพันธุ์อื่นที่เราเคยเจอมา”
ดร.Michelle Groom จาก สถาบันแห่งชาติโรคติดต่อแห่งชาติแอฟริกาใต้ (NICD) ได้แนะนำข้อควรปฏิบัติที่ตอนนี้เราทำได้และควรทำอย่างเคร่งครัด อย่างเช่น การฉีดวัคซีน, สวมหน้ากากอนามัย, การล้างมือบ่อยเท่าที่จะทำได้, รักษาระยะห่างทางสังคม และพยายามอยู่ในพื้นที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก เพื่อลดการแพร่กระจายของไวรัส อย่างไรก็ตาม เราคงต้องติดตามการวิจัยจากหลายประเทศเพิ่มเติม เพราะสายพันธุ์นี้คือสิ่งใหม่ และยังไม่มีใครที่ให้ข้อมูลได้อย่างครบถ้วนในตอนนี้
ล่าสุดนี้ทางองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ตั้งชื่อให้เชื้อกลายพันธุ์นี้ว่า “โอไมครอน” (Omicron-ภาษากรีก) เป็นเชื้อไวรัสตัวที่ 5 ในกลุ่ม ต่อจาก อัลฟา เบตา แกมมา และเดลตา
เพิ่มเราเป็นเพื่อนได้แล้ววันนี้!....
ทีมงาน INN WHY? รายการเพื่อผู้บริโภค ร่วมปฏิวัติความคิด ปรับเปลี่ยนชีวิต ก้าวสู่ความมั่นคง หลังเกษียณ
ติดตามเราได้ที่ไลน์แอด @INNWHY.TV หรือ Facebook.com/INNWHY.TV และ Youtube.com/c/innwhy
Contact us : INNWHY31@gmail.com