“แผนที่ชี้รวย” ฉบับนี้ขอต้อนรับนักลงทุนทุกท่านขึ้นขบวนรถไฟเหาะของสินทรัพย์เสี่ยงที่ขึ้นลง อย่างระห่ำ และวิธีขึ้นลงรถไฟให้ด้านล่าง ตามแบบฉบับของ Mr. Wealth Map รัดเข็มขัดให้แน่นและกวาดสายตาอ่านได้เลย
ไม่ว่าจะเป็นตลาดหุ้นทั่วโลก หรือ สินทรัพย์ดิจิทัล บิทคอยน์ อีเธอเลียม ตอนนี้กำลังวูบวาบยิ่งกว่านั่งรถไฟเหาะ จนต้องบันทึกสถิติไว้ สำหรับดาวโจนส์ ตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา ที่เปิดตลาดในวันจันทร์ที่ 24 มกราคม 2565 ร่วงแรงนับพันจุด ก่อนที่ท้ายตลาดในวันนั้น จะมีแรงซื้อกลับเข้ามาปิดบวกได้เล็กน้อย จนคนที่ขายช่วงหล่นไปพันจุด นั้งกุมขมับ ตาปริบๆ
ขณะที่บิทคอยน์ที่เคยได้เห็นในบริเวณสูงสุด 68,925 เหรียญ ก็วูบลงไปที่ 33,000 เหรียญสหรัฐ ก่อนจะเด้งขึ้นมาได้บ้าง
สิ่งที่ทำให้ตลาดหุ้นโลกผันผวนนั้นเกิดจาก 2 เรื่องในอนาคตที่ สะเทือนปัจจุบัน เรื่องแรกคือ อนาคตการขึ้นดอกเบี้ย ที่วันนี้ชัดเจนแล้วว่า ธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด ต้องใช้อาวุธหนักขึ้นในการต่อกรกับเงินเฟ้อที่ทำให้ข้าวของแพง ซึ่งที่เฟ้อก็เกิดจากเงินที่สหรัฐปล่อยมาเองช่วงเกิดโควิดนั้นแหละ ส่วนหนึ่งก็ไปเข้าหุ้น ส่วนหนึ่งก็เข้าสินทรัพย์ดิจิทัล ส่วนหนึ่งก็เข้าสินค้าโภคภัณฑ์ ส่วนหนึ่งก็นำไปบริโภค
คราวนี้พอเศรษฐกิจเริ่มกลับมา เกิดซัพพลายช็อต ไม่มีของพอผลิต ส่งสินค้า ทำให้ราคาขึ้น แรกๆ เฟดก็มองเป็นเรื่องชั่วคราว แต่นานไปผลกระทบยิ่งใหญ่ เงินเฟ้อยิ่งพุ่ง “ประธานาธิบดี โจ ไบเดน” ก็ยิ่งกดดันเฟด การแตะเบรกอาจจะไม่พอ ต้องกระทืบเบรก ทั้งขึ้นดอกเบี้ยมีนาคมนี้ และดึงสภาพคล่องออกจากตลาด ถามว่า เงินที่เคยเอนจอยกับสินทรัพย์เสี่ยงอย่างหุ้นสหรัฐ หรือ เหรียญต่างๆ ในปีที่แล้ว ก็เลยมีแววหด ยิ่งกระทืบเบรกให้เร็วขึ้น ก็ยิ่งสยิว
อีกเรื่องที่สะท้านเข้ามาก็คือ ความเสี่ยงโอกาสใช้กำลังทางทหารของรัสเซียต่อยูเครน ซึ่งส่งผลกระทบหนักต่อหุ้นยุโรปที่มีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการพึ่งพาพลังงานจากรัสเซียในระดับที่สูง ขณะที่สหรัฐฯเองในฐานะคู่ปะทะ ก็โดนด้วย แต่เรื่องนี้ยังเป็นสิ่งที่ต้องจับตาเพราะยังไม่มีระเบิดลูกแรกโจมตีรัสเซีย และเชื่อว่าสหรัฐคงไม่อยากที่จะลุยช่วงนี้ ไม่เช่นนั้นราคาน้ำมันพุ่งแรง จะกดดันเงินเฟ้ออีก
อันที่จริงด้วยการร่วงลงมาแรงมากของหุ้นโลก และ เหรียญต่างๆ ฉะนั้นไม่แปลกก็หลังการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ 26 มกราคมจะมีการรีบาวน์ของสินทรัพย์บ้าง แต่เทรนด์ยาวของหุ้นสหรัฐที่เศรษฐกิจไม่ได้บูมเหมือนปีที่แล้ว ต้องบอกว่าหมดรอบ ส่วนบิทคอยน์ต้องรอดูสภาพว่า พอเงินหดจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป
ขณะที่นักลงทุนรายใหญ่อย่าง “เสี่ยยักษ์ วิชัย วชิรพงศ์” มองภาพว่าระเบิดอยู่ข้างหน้าลูกใหญ่ เพราะคนกู้เงินมาเล่น ขณะที่ภาคเศรษฐกิจจริงยังมียังมี NPL พวก SMEs ค้างหนี้อยู่ แม้แต่ตั๋วB/Eบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ให้ดอกเบี้ย 7% คือมีคนกลุ่มหนึ่งร้อนเงิน ส่วน ดอกเบี้ย เงินเฟ้อ ที่รออยู่ข้างหน้าก็มีข่าวร้ายดักอยู่ ถ้าเราไม่ได้เซียนจริง ไม่ได้เก่งจริง ใจเย็นๆ ช่วงนี้ ให้รอจังหวะลงต้องมีแน่
ส่วนหุ้นที่โดดเด่นช่วงนี้บล.ยูโอบีเคย์เฮียน ให้จับตาไปที่ PTTEP ที่รับเต็มๆ กับราคาน้ำมัน จากการที่ฮึ่มๆ ช่วงนี้ ส่วนการถอนตัวของโททาล (Total Energy) ที่ถือหุ้น 31% ในแหล่งผลิตยาดานา ในพม่า ทำให้ผู้ถือหุ้นที่เหลืออย่าง PTTEP (25%), Chevron (28%) และรัฐบาลพม่า (15%) มีแนวโน้มได้ปันส่วนแบ่งผลการดำเนินงานที่มากขึ้น ซึ่งคิดเป็นกำไรที่จะเพิ่มขึ้นของ PTTEP ประมาณ 2-3% ทั้งนี้ความเสี่ยงสำคัญคือหากพม่าถูกคว่ำบาตรจนไม่สามารถรับรายได้จากการผลิตในพม่าได้ จะมีผลกระทบต่อกำไรของ PTTEP ประมาณ 15% ของคาดการณ์กำไรในปัจจุบัน
หุ้นโลกสะท้าน หุ้นไทยก็สะทกเป็นเรื่องปกติ ตอนนี้กังวลได้แต่อย่ามาก เศรษฐกิจไทยปีนี้จะโตกว่าปีก่อน สวนทางกับสหรัฐที่เริ่มถอย โดยฉพาะยิ่งไทยใกล้เข้าสู่การเลือกตั้ง เงินก็จะสะพัดขึ้น
อย่างล่าสุด ครม. ออกแพ็คเก็จจัดให้ด้านการบริโภคเต็มไปหมด ทั้ง (1) โครงการคนละครึ่ง เฟส 4 (1 ก.พ. ถึง 30 เม.ย. 65) จํานวน 29 ล้านสิทธิ โดยผู้มีสิทธิจะได้รับวงเงินคนละ 1,200 บาท เพื่อใช้จ่ายในระยะเวลา 3 เดือน วงเงินกว่า 3.5 หมื่นล้านบาท (2) เพิ่มสิทธิ ในโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 4 อีก 2 ล้านสิทธิ วงเงินรวม 1.3 หมื่นล้าน บาท และ (3) เพิ่มเงินในบัตรสวัสดิการวงเงิน 8,070 ล้านบาท และความช่วยเหลือพิเศษ 1,352 ล้านบาท
พวกนี้บวกหุ้นในกลุ่มที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว และหุ้นในกลุ่มการบริโภคในประเทศ โดยเฉพาะหุ้นค้าปลีกที่วันนี้ราคายังต่ำเตี้ยเรี่ยดิน บล.เอเชียเวลท์ ให้หลายตัว CPF CPALL CPN ERW MINT SHR AAV BAFS AOT เลือก CPALL เป็นหุ้นเด่น นะคร้าบบบบ…สวัสดี!!
เพิ่มเราเป็นเพื่อนได้แล้ววันนี้!....
ทีมงาน INN WHY? รายการเพื่อผู้บริโภค ร่วมปฏิวัติความคิด ปรับเปลี่ยนชีวิต ก้าวสู่ความมั่นคง หลังเกษียณ
ติดตามเราได้ที่ไลน์แอด @INNWHY.TV หรือ Facebook.com/INNWHY.TV และ Youtube.com/c/innwhy
Contact us : INNWHY31@gmail.com