“แผนที่ชี้รวย” โดย Wealthy Man มาแล้ว พร้อมชี้โอกาสแม้กระทั่งอยู่ในวิกฤตก็ตาม อย่างกรณี “หมูแพง” อย่างน่าตกอกตกใจ ในตลาดขายกันกิโลกรัมละ 200-300 บาท แพงหูฉี่ แต่หากใครตามสถานการณ์จะรู้ว่าสถานการณ์แพง แบบนี้ไม่ได้เกิดจากต้นทุน แต่เกิดจาก “ซัพพลายหมู” ที่หายไปรู้ไว้ว่าปกติไทยจะมี “ซัพพลายหมูขุน” 19 ล้านตัว คนไทยบริโภค 18 ล้านตัว ส่งออกซัก 1 ล้านตัว แต่วันนี้เท่าที่เช็คเหลือหมูในประเทศ 13 ล้านตัว แบบนี้ชัดทันที ซัพพลาย ขาดเยอะราคาหมูก็เลยวิ่งขึ้นตามกลไกตลาด

มีเสียงลือกันถึงสาเหตุที่ “ซัพพลายหมู” หายก่อนหน้านี้ เกิดจากโรคระบาดการติดเชื้อ ASF หรือ African Swine Fever เรียกง่ายๆ โรคอหิวาต์​แอฟริกา​ในหมูนั้นแหละ จนต้องมีการแอบทำลาย แต่ไทยก็ไม่เคยประกาศว่ามีเชื้อนี้อยู่ นั้นเพราะว่า เชื้อนี้น่ากังวลเพราะ ไวรัส ที่มีความคงทนสูงในสภาพแวดล้อม​ โดยอยู่ในสภาพแวดล้อมได้นาน​ และอยู่ในเนื้อสุกรแช่แข็งได้หลายปี ซึ่งเชื้อตัวนี้ได้ระบาดในภูมิภาคนี้ทั้งจีน เวียดนามมานาน ต้องทำลายจำกัดการส่งออก เรื่องใหญ่!!!

ซึ่งล่าสุดกรมปศุสัตว์ได้ยอมรับแล้วว่ามีเชื้อ AFS ในไทยจริง และมีการจำกัดการขนส่งในเขตที่พบคือ นครปฐม สิ่งที่ต้องตามต่อนั้นก็คือว่าแบบนี้หมะแพงแค่ไหนงั้นลองมาดูวงจรการเลี้ยงหมู เลี้ยงแม่พันธ์ 8 เดือน จากนั้นรอตั้งท้อง 3 เดือน ได้ลูกหมูก็ต้องเลี้ยงอนุบาล 1 เดือน จึงเข้ากระบวนการขุนอีก 6 เดือน นี่ยังไม่รวมกับกระบวนการเริ่มต้น คำนวนแบบนี้ชัดแล้วว่าซัพพลายขาดอย่างต่ำๆ ไปอีก 1 ปี ธุรกิจเลี้ยงหมูฟาร์มปิดยังได้ประโยชน์อีกยาว แม้ส่งออกไม่ได้ แต่ขายในไทยก็ตังค์เยอะรอดูกำไร CPF-TFG แล้วกัน เพราะ ต้นทุนอาหารสัตว์เลี้ยงหมูไม่ได้แพงมากยิ่งทำลายหมูเยอะ ยิ่งทำให้ดีมานด์อาหารสัตว์ลดลง ได้เปรียบทั้งขึ้นทั้งล่อง!

ลงทุนช่วงนี้ต้องติดตามนโยบายธนาคารกลางสหรัฐ ที่ภาพมันชัดแล้วในเรื่องของการขึ้นดอกเบี้ยปีนี้ เพื่อสกัดเงินเฟ้อด้วยเทรนด์ดอกเบี้ยขาขึ้นอย่างนี้ หุ้น บริษัทประกัน” เลยถูกโฟกัสว่านี่คือวัฏจักรขาขึ้นเรื่องนี้นักคณิตศาสตร์ประกันภัยชื่อดังอย่าง “อาจารย์ทอมมี่ แอคชัวรี” พิเชฐ เจียรมณีทวีสิน อธิบายง่ายๆ แต่ชัดเจนว่าต้นทุนของบริษัทประกันภัยคือผลตอบแทนหากตลาดดอกเบี้ยขาขึ้น ให้ผลตอบแทนมาก บริษัทประกันก็จะสำรองเงินจากเบี้ยที่เก็บมาลดลง

สมมุติเดิมเก็บเบี้ย 100 บาท ช่วงดอกเบี้ยขาลงอาจจะต้องสำรอง 40 บาท และนำ 60 บาทไปหาผลตอบแทน แต่พอดอกเบี้ยขาขึ้นประเมินผลตอบแทนมากขึ้นก็อาจจะสำรองแค่ 30 บาท และนำ 70 บาท ไปหาผลตอบแทนงานนี้ต้นทุนการตั้งสำรองที่ลดลง นอกจากจะทำให้การบันทึกบัญชีมีกำไรมากบริษัทประกันยังจะได้เงินไปหาผลตอบแทนเยอะด้วยน้ำขึ้นให้รีบสอย

พูดถึงบริษัทประกันที่ฮอตในเชิงการลงทุน หนีไม่พ้น TIPH หรือ บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ที่นับตั้งแต่ประสานร่างรวมตัวหุ้นประกันวินาศภัย และประกันชีวิตสำเร็จ เข้าเทรดในชื่อใหม่ เมื่อวันที่ 7 กันยายน ราคาหุ้นก็ปรับตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง จาก 33 บาท ขึ้นไปสูงสุดที่ 90 บาท ตอนนี้อยู่ที่ราวๆ 70 บาท รถไฟถอยมารับแล้ว อย่าลืม TIPH ได้รับคัดเลือกเข้าคำนวณดัชนี FTSE SET Index Series รอบใหม่ มีผล 20 ธ.ค.ปีที่ผ่านมาด้วย

ส่วนผลประกอบการจากกำไรสุทธิปี 2561 อยู่ที่ 1,531 ล้านบาท ปี2562 อยู่ที่ 1,863 ล้านบาท ปี 2563 อยู่ที่ 2,065 ล้านบาท ส่วน 9 เดือนปี 2564 อยู่ที่ 1,609 ล้านบาท สูงกว่า 9 เดือนปี 2563 ที่อยู่ในระดับ 1,594 ล้านบาท แม้มีประกันโควิดแต่ก็บริหารพอร์ตได้ดี ขณะที่ผู้บริหารอย่าง “สมพร สืบถวิลกุล” CEO ใหญ่ก็สมองไว สรรหาประกันเด่นๆ มาสร้างความฮือฮาได้โดยตลอด  

เพิ่มเราเป็นเพื่อนได้แล้ววันนี้!....