วิริยะฯ กวาดเบี้ยรวมปี 67 ไป 40,879 ล้านบาท โต 2% ครองส่วนแบ่งตลาดประกันวินาศภัย 14.3% อันดับ 1 ติดต่อกันเป็นปีที่ 33 ตั้งเป้าปี 68 โตไม่น้อยกว่า 3.7% ลุยกระดับ “บริการ-เครือข่าย-บุคลากร” ไตรมาส 2 รุกประกัน “EV2+” และ “สุขภาพ Deduct-Copay”
นายอมร ทองธิว กรรมการผู้จัดการ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2567 บริษัทฯ ยังคงสามารถรักษาความเป็นผู้นำตลาดประกันวินาศภัยได้อย่างเหนียวแน่น ด้วยการครองส่วนแบ่งตลาดประกันวินาศภัย อันดับ 1 ติดต่อกันเป็นปีที่ 33 อยู่ที่ 14.3% โดยประกันภัยรถยนต์พอร์ตหลักของบริษัทฯ ยังคงรักษาอันดับ 1 ได้เช่นกันอยู่ที่ 22.6% หลังจากบริษัทดำเนินงานด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทุกด้านทั้ง รถยนต์ อุบัติเหตุ สุขภาพ ที่อยู่อาศัย ฯลฯ c]tพัฒนากระบวนการให้บริการลูกค้าอย่างครบวงจร
โดยผลประกอบการในปี 2567 นั้นนายอมรกล่าวว่า มีกำไร 3,000 ล้านบาท ด้วยบี้ยประกันภัยรับตรงรวม 40,879 ล้านบาท เติบโต 2% แบ่งเป็นเบี้ยประกันภัยรถยนต์ (Motor) 36,380 ล้านบาท เติบโต 2.1% และเบี้ยประกันภัยที่ไม่ใช่รถยนต์ (Non-Motor) 4,499 ล้านบาท เติบโต 1.2% อีกทั้งยังคงมั่นคงแข็งแกร่งด้วยสินทรัพย์ที่มีอยู่ถึง 70,904 ล้านบาท และอัตราความพอเพียงของเงินกองทุน (CAR) 220% ซึ่งอยู่ในระดับที่สูงกว่ามาตรฐานของเงินกองทุนฯ ตามที่กฎหมายกำหนดไว้
“ในปี 2568 บริษัทฯ ตั้งเป้าเบี้ยประกันภัยรับตรงอยู่ที่ 42,569 ล้านบาท ซึ่งมองกำไรไว้เท่าปี 2567 คือ 3,000 ล้านบาท โดยต้องเติบโตขึ้นไม่น้อยกว่า 3.7% ราว 1,500 ล้านบาท แบ่งเป็น ประกันภัยรถยนต์ 37,591 ล้านบาท เติบโต 3.3% และประกันภัยที่ไม่ใช่รถยนต์ 4,978 ล้านบาท เติบโต 11% ซึ่งจะเห็นว่าในปีนี้ บริษัทฯ จะเน้นการเติบโตของนอนมอเตอร์ให้มีความสมดุลมากยิ่งขึ้น”
นายอมร เปิดเผยต่อไปอีกว่า แผนการดำเนินงานในปี 2568 บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์และการบริการเพื่อตอบสนองความพึงพอใจของลูกค้า พร้อมส่งมอบประสบการณ์ “มากกว่าความคุ้มครอง คือ ความคุ้มค่า” ให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้ บริษัทฯ จะดำเนินกลยุทธ์ภายใต้แนวคิด “ใช้ทุกวิให้คุ้มค่า” ด้วยการยกระดับคุณภาพ Touchpoint การขยาย Ecosystem คู่ค้า และการพัฒนาศักยภาพบุคลากร Personal Skill เพื่อให้การเติบโตของงานมอเตอร์และนอนมอเตอร์เป็นไปตามเป้าหมาย
สำหรับกลยุทธ์แรกยกระดับคุณภาพและความพร้อมในการให้บริการ ทุกจุดที่ลูกค้าได้สัมผัสแบรนด์ (Touchpoint) ผ่านช่องทางบริการต่างๆ เช่น การขยายงานตัวแทนและนายหน้าประกันวินาศภัยจาก 3,800 รายให้ได้อีกกว่า 200 ราย ในเมืองรอง เช่น อุทัยธานี บึงกาฬ นครพนม กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด มหาสารคาม ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส รวมถึงยกระดับความรู้และศักยภาพของตัวแทนและนายหน้าฯ ให้สามารถแนะนำผลิตภัณฑ์ได้อย่างครอบคลุมทั้งประกันภัยมอเตอร์และนอนมอเตอร์
พัฒนาจุดบริการทั้งสาขา ศูนย์บริการสินไหมทดแทน และจุดบริการในห้างสรรพสินค้า (V-Station) กว่าเพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงการบริการได้ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ รวมถึงการยกระดับงานขายและการให้บริการผ่าน Line OA ทั้งในส่วนของวิริยะประกันภัย และวิริยะประกันสุขภาพ ให้กลายเป็น One Stop Service ที่สามารถให้บริการด้านงานขายและงานบริการได้อย่างครบวงจร
และยกระดับประสิทธิภาพการออกตรวจสอบอุบัติเหตุ ด้วยการวาง “จุดรอตรวจสอบอุบัติเหตุ” หรือจุดพักคอยของเจ้าหน้าที่ในการรอเพื่อออกตรวจสอบอุบัติเหตุอย่างเหมาะสม เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถไปถึงจุดเกิดเหตุภายในระยะเวลาที่กำหนด รวมทั้งการยกระดับบริการ ณ จุดเกิดเหตุให้มีความครบถ้วน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าได้อุ่นใจในทุกสถานการณ์ ซึ่งปัจจุบัน บริษัทฯ มีจุดรอตรวจสอบอุบัติเหตุกระจายอยู่ทั่วประเทศกว่า 20 จุด และมีเป้าหมายจะขยายเป็น 30 จุด ภายในปีนี้
กลยุทธ์ที่สอง ขยายเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับระบบนิเวศของบริการ (Ecosystem) ได้แก่ เพิ่มตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ให้ครอบคลุมทุกแบรนด์ทั่วประเทศ พัฒนาศักยภาพศูนย์ซ่อมมาตรฐานของวิริยะฯ รองรับการให้บริการซ่อมรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ขยายเครือข่ายพันธมิตรศูนย์ซ่อมเฉพาะทาง เช่น ศูนย์ซ่อมรถหรู (Luxury Car) และศูนย์ซ่อมรถขนส่ง ขยายเครือข่ายพันธมิตรโรงพยาบาลกว่า 500 แห่งต่อเนื่องเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้เอาประกันภัยสุขภาพ และเพิ่ม Exclusive Partner จาก 65 แบรนด์ สู่ 80 แบรนด์ในปีนี้
กลยทธ์ที่สาม ยกระดับศักยภาพบุคลากรวิริยะประกันภัย Personal Skill ที่มีอยู่กว่า 6,900 คน ตั้งแต่ระดับบริหารไปจนถึงระดับปฏิบัติการ ได้แก่ 1. พัฒนาศักยภาพตาม Road Map ของแต่ละตำแหน่งงานและช่วงอายุงาน พร้อมตั้งเป้าหมายในการพัฒนาผู้บริหารตามแผน Individual Development Plan (IDP) เพื่อสรรหาและพัฒนาบุคลากรที่มีศักยภาพสูง มีความรู้ ทักษะ และความเชี่ยวชาญ สำหรับเตรียมความพร้อมให้กับผู้บริหารรุ่นใหม่ในอนาคต
- พัฒนาความรู้และเสริมทักษะใหม่ ๆ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงไปของเทคโนโลยี เช่น เทคโนโลยี AI เทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า ฯลฯ 3. พัฒนาระบบ Online Training ให้พนักงานสามารถเข้าถึงการเรียนรู้ด้วยตนเองได้ทุกที่ ทุกเวลา 4. เสริมความรู้เรื่องผลิตภัณฑ์มอเตอร์และนอนมอเตอร์ ความรู้เกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ให้พนักงานทุกส่วนงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งงานสินไหมทดแทนส่วนหน้าและส่วนหลัง รวมถึงฝ่ายรับประกันภัย เพื่อให้สามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้บริษัทจะมีการพัฒนาประกันภัยประเภท 5 (2+,3+) คุ้มครองภัยน้ำท่วมซ่อมอู่ทั่วไป และประเภท 5 (2+) รถไฟฟ้าซ่อมห้าง (EV2+) ส่วนประกันภัยนอนมอเตอร์ บริษัทฯ มีแผนในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยสุขภาพและอุบัติเหตุ โดยเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าทั้งแบบมีความรับผิดส่วนแรก Deduct และแบบร่วมจ่าย Copay ผลิตภัณฑ์ประกันภัยโจรกรรมรถจักรยานยนต์
“บริษัทฯ มุ่งมั่นพัฒนาบริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งมอบบริการที่เป็นเลิศ ทั้งความใส่ใจในบริการ สร้างความมั่นใจ วางใจ และทันใจให้ผู้ถือกรมธรรม์วิริยะประกันภัยกว่า 8 ล้านกรมธรรม์ ได้รับประสบการณ์ ‘ใช้ทุกวิให้คุ้มค่า’ โดยมีหัวใจสำคัญคือบุคลากรวิริยะประกันภัยทุกส่วนงานเป็นแรงขับเคลื่อนนำพาองค์กรไปสู่เป้าหมาย โอกาสนี้บริษัทยังได้เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ ภายใต้แนวคิด “ใช้ทุกวิให้คุ้มค่า” อีกด้วย” นายอมร กล่าว
เพิ่มเราเป็นเพื่อนได้แล้ววันนี้!....
ทีมงาน INN WHY? รายการเพื่อผู้บริโภค ร่วมปฏิวัติความคิด ปรับเปลี่ยนชีวิต ก้าวสู่ความมั่นคง หลังเกษียณ
ติดตามเราได้ที่ไลน์แอด @INNWHY.TV หรือ Facebook.com/INNWHY.TV และ Youtube.com/c/innwhy
Contact us : INNWHY31@gmail.com