TQM  เปิดผลประกอบการปี 63 กำไรพุ่ง 702 ล้านบาท โควิดดันเบี้ยทะลุเป้าอยู่ที่ 15,020 ล้านบาท จ่ายปันผล 1.15 บาทต่อหุ้น มั่นใจปี 64 ยอดขายกว่า 25,000 ล้านบาท

ดร.อัญชลิน พรรณนิภา ประธาน บริษัท ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TQM (ซ้าย) และ ดร.นภัสนันท์ พรรณนิภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (ขวา)

 

ดร.อัญชลิน พรรณนิภา ประธาน บริษัท ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TQM เปิดเผยว่า ในปี 2563 สิ่งที่ส่งผลให้ภาพรวมธุรกิจ TQM เติบโตตามเป้ายังคงเป็นผลิตภัณฑ์ประกันภัยหลักๆ ของบริษัท แต่จากวิกฤตการณ์ไวรัสโควิด-19 ทำให้ปีที่ผ่านมาเป็นที่ท้าทายและสร้างโอกาสครั้งสำคัญให้แก่ TQM เป็นอย่างมาก เนื่องด้วยผู้บริโภคหันมาสนใจทำประกันสุขภาพ โดยเฉพาะประกันสุขภาพแบบเฉพาะโรค อย่างประกันโควิด-19 ที่มียอดขายทะลุล้านกรมธรรม์ ซึ่งในปัจจุบันผู้บริโภคยังคงมีการสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่องทั้งที่เป็นลูกค้าต่ออายุและลูกค้ารายใหม่ โดยเฉพาะจากการระบาดรอบใหม่ส่งผลให้ผู้บริโภคกังวลและเกิดการต่ออายุประกันมากขึ้น นับเป็นปรากฏการณ์ใหม่ของวงการประกันภัยและ TQM ขณะเดียวกัน วิกฤติโควิดกลับเป็นตัวช่วยเร่งในการผลักดันให้ TQM ได้นำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ ทั้งด้านงานขายและงานบริการอย่างเต็มประสิทธิภาพ ลูกค้าเกิดการเรียนรู้ในการซื้อและรับบริการด้านประกันภัยผ่านช่องทางออนไลน์กับ TQM เป็นการตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านดิจิทัลอินชัวร์รันส์โบรคเกอร์   

กำไรปิดแข็งแกร่งนิวไฮต่อเนื่องเติบโตกว่า 38%

สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานปี 2563 บริษัทฯ มีรายได้รวม 3,136 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.7% โดยเป็นรายได้จากการให้บริการ เป็นจำนวน 3,082.5 ล้านบาท และรายได้จากดอกเบี้ยและผลตอบแทนจากเงินลงทุน 53.5 ล้านบาท ภายใต้การบริหารจัดการการทำงานและควบคุมค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรเพิ่มสูงขึ้น โดยกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 1,565 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 311.2 ล้านบาท คิดเป็น 24.8% ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 702 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 194.7  ล้านบาท คิดเป็น 38.4%

“ผลงานปี 2563 TQM ยังคงแข็งแกร่งซึ่งเป็นผลมาจากการเตรียมความพร้อมทั้งในแง่เทคโนโลยีที่รองรับทั้งงานขายและงานบริการ และด้านบุคลากรที่พร้อมขานรับและปฏิบัติตามนโยบายของบริษัทฯ นำไปสู่การปรับเปลี่ยนกลยุทธ์และรูปแบบการทำงานได้อย่างรวดเร็ว พร้อมด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์และช่องทางการขายที่สอดรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปได้ทันสถานการณ์ ซึ่งโควิดทำให้ TQM มีลูกค้าเพิ่มขึ้นจากฐานลูกค้าเดิมที่มีอยู่แล้วกว่า 2 ล้านรายทั่วประเทศ กลับเพิ่มขึ้นอีกกว่า 1 ล้านราย รวมเป็น 3 ล้านรายจากการซื้อประกันโควิดภายในระยะเวลา 3 เดือน”

ทั้งนี้ จากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2564 มีมติจ่ายเงินปันผล 1.15 บาทต่อหุ้น ซึ่งกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นได้รับสิทธิ (RD) วันที่ 10 มีนาคม 2564 และจ่ายเงินปันผลในวันที่ 14 พฤษภาคม 2564

ปี ’64 ลุยดิจิทัลทรานฟอร์ม เจาะลูกค้าทุก Segment พร้อมเสริมทัพบุกลูกค้าองค์กร 

ด้าน ดร.นภัสนันท์ พรรณนิภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า  สำหรับกลยุทธ์และการดำเนินงานของ TQM ในปี 2564 ยังคงเดินหน้าเพื่อการเป็นผู้นำเทรนด์ดิจิทัลอินชัวร์รันส์โบรคเกอร์ โดยการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภค เน้นความคุ้มครองที่คุ้มค่าคุ้มราคาและมีผลิตภัณฑ์ประกันให้เลือกหลากหลาย และมีแผนที่จะส่งนวัตกรรมประกันภัยประเภทต่างๆ ออกมาอย่างต่อเนื่องในปีนี้กว่า 20 ผลิตภัณฑ์ประกัน รวมถึงมุ่งสู่การทำตลาดลูกค้าองค์กรมากขึ้นด้วยแผน Corporate Solutions ที่มีทั้งงานขายและงานบริการแบบครบวงจร

พร้อมทั้งมุ่งพัฒนาและใช้เทคโนโลยีในโครงการ TQM Transformations ทั้งการพัฒนา Mobile Application ภายใต้บริการ TQM24 เป็นบริการ  “เคลม ดู ต่อ จ่าย” เพื่อความสะดวกของลูกค้าที่สามารถดาวน์โหลดไว้ในมือถือทำให้อุ่นใจอยู่เสมอ สำหรับแผนงาน TQM Digital Transformations ในปีนี้จะนำเทคโนโลยีมาพัฒนาเพื่อตอบโจทย์ลูกค้ายิ่งขึ้น อาทิ มุ่งขยายงานขายประกันบ้านด้วย Home Platform ที่ลูกค้าสามารถทราบความเสี่ยงของบ้าน และมีบริการเรียกร้องค่าสินไหมผ่านระบบ Home Platform นอกจากนี้ยังได้ร่วมกับพันธมิตรในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เพื่อคิดค้นผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ ให้ตอบสนองพฤติกรรมของลูกค้าทุกเพศ ทุกวัย ทั้งนี้ แผน TQM Digital Transformations นี้เพื่อเป็นการช่วยสนับสนุนในการขยายงานขายและงานบริการให้แก่ TQM และกลุ่มบริษัทในเครือ

เสริมแกร่งด้วยกลยุทธ์หลัก 5 ด้าน จับตา M&A เพิ่มยอดเบี้ยประกันทะลุ 25,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมาตลาดอีคอมเมิร์ชมีการเติบโตอย่างน่าสนใจ จากการระบาดของโควิด-19 กระตุ้นให้อัตราการค้าขายผ่านช่องทางออนไลน์สูงขึ้นรวมถึงตลาดประกันภัยด้วย ดังนั้น ในปี 2564 TQM จึงจะเริ่มโฟกัสกับกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย โดยสร้างความต้องการที่เหมาะสมและตอบโจทย์ในทุกเจนเนอร์เรชั่น ขยายช่องทางการขายที่ไม่ได้มีเพียงเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชั่น แต่จะเพิ่มช่องทางที่สะดวกอื่น ๆ อีก เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีในการซื้อประกัน นอกจากนี้ ยังมีนโยบายในการร่วมลงทุนหรือเข้าซื้อกิจการของบริษัทที่จะให้การสนับสนุนและส่งเสริมธุรกิจระหว่างกัน เพื่อเสริมศักยภาพของ TQM ให้เติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ 50,000 ล้านบาท ภายในปี 2569

สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2564 ของ TQM ยังคงขับเคลื่อนด้วย 5 กลยุทธ์หลักขององค์กรตามแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี คือ

1.Strengthen existing channels  การรักษาฐานลูกค้าเดิมไว้ด้วยผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายโดยแบ่งความต้องการของลูกค้าตามราย Segment พร้อมขยายช่องทางการขายทั้งออนไลน์-ออฟไลน์ และรุกตลาดลูกค้าองค์กรมากขึ้นด้วยงานขายและบริการกับบริการรับให้คำปรึกษาด้านการจัดการสินไหมทดแทนแบบครบวงจร (Corporate Solutions)

2.Grow sales through cross-selling นำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันที่เพิ่มโอกาสในการขายกับลูกค้าเดิมมากยิ่งขึ้น

3. Enhance insurance ecosystem through strategic partnership การร่วมกับพันธมิตรผ่านโครงการ TQM Transformations เพื่อนำเทคโนโลยีมาปรับใช้กับระบบงานของ TQM และกลุ่มบริษัท ให้เกิดความเชื่อมโยงแบบไร้รอยต่อระหว่างลูกค้าและบริษัทฯ ด้วยแนวคิด ‘ลูกค้าเข้าถึงเรา เราเข้าถึงลูกค้า’

4. Grow inorganic through M&A การร่วมลงทุนหรือเข้าซื้อกิจการของบริษัทที่มีธุรกิจที่จะเป็นการส่งเสริมระหว่างกัน เช่น การร่วมลงทุนใน บริษัท ที คิว อาร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TQR ซึ่งเดิม TQM เป็นพันมิตรทางธุรกิจกับ TQR มานานในแง่ของผู้พัฒนาผลิตภัณฑ์และผู้จำหน่าย  ดังนั้น โดยโครงสร้างธุรกิจของทั้ง 2 บริษัท เป็นการสนับสนุนซึ่งกันและกัน ทั้งนี้ ด้านการลงทุนนั้นในอนาคต TQM เองมีแผนขยายธุรกิจที่จะเกี่ยวข้องสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจ ขณะเดียวกัน TQR ก็หาพันธมิตรเพิ่มเสริมความแข็งแกร่งในอนาคตอยู่ด้วยเช่นกัน

5. Expand regional เตรียมแผนขยายตลาดไปยังต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มที่กลุ่มลูกค้าซึ่งเป็นตลาดที่น่าสนใจและมีกำลังซื้อสูงในกลุ่มประเทศ CLMV เช่น กัมพูชา และลาว ที่ได้ดำเนินการไปแล้วและอยู่ระหว่างพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมเพื่อส่งมอบให้ผู้บริโภค

อย่างไรก็ตาม หัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจของ TQM ยังคงเน้นงานบริการที่มุ่งตอบโจทย์ตลาดและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างตรงจุด โดยเฉพาะในยุคนิวนอร์มอลเช่นปัจจุบัน ดร.นภัสนันท์กล่าว

เพิ่มเราเป็นเพื่อนได้แล้ววันนี้!....