ดอกเบี้ยต่ำกระทบอุตฯประกันชีวิตแบกสัญญาลูกค้า

ต่อกรณี ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีมติ 5 ต่อ 2 เสียงให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% จาก 1.50% มาอยู่ที่ 1.25% ต่อปีเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2562 นั้น ล่าสุดภาคธุรกิจประกันชีวิตโดย นายสมโพชน์ เกียรติไกรวัล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (DCEO) บมจ.โตเกียวมารีนประกันชีวิต (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายยอมรับว่ามีผลกระทบต่อบริษัทประกันชีวิตทั้งอุตสาหกรรมเนื่องจากผลตอบแทนการลงทุนด้านต่างๆลดลง เมื่อลดลงไปกระทบต่อผลิตภัณฑ์ที่ขายอยู่ในตลาดซึ่งต้องการันตีผลตอบแทนและต้องจ่ายผลตอบแทนคืนตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับลูกค้าเลยเกิดปัญหาว่า หากดอกเบี้ยลดลงเยอะ

“ตอนนี้ดอกเบี้ย 10%ต่อปีลดลงเหลือ 1%เศษกลายเป็นว่า แบบประกันที่เน้นการออมเงินสะสมทรัพย์ (Endowment) กระทบกันทั้งตลาดหลายบริษัทหยุดขาย หลายบริษัท repricing เพราะหากขายต่อไปโดยไม่ระมัดระวังมีโอกาสต้องเพิ่มเงินสำรองเพราะผลตอบแทนจากการลงทุนต่ำลงแต่แบบประกันยังต้องรับผิดชอบกับลูกค้าอยู่ก็มีผลกระทบกับเรื่อง product ขณะนี้ ซึ่งในส่วนของบริษัทเองต้องดำเนินธุรกิจด้วยความระมัดระวัง ควบคุมต้นทุนธุรกิจเนื่องจากเป็นธุรกิจการเงินเราจะแข่งขันกับคู่แข่งได้จะต้องตัวเราเองไม่ให้มีต้นทุนที่สูงเกินไปเพื่อให้ธุรกิจเดินต่อไปได้” นายสมโพชน์กล่าว

ดังนั้นการประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลงครั้งนี้จึงย่อมส่งผลกระทบอย่างแน่นอนและส่งผลกระทบต่อในเรื่องของอัตราดอกเบี้ยในตลาดโดยทั่วไปด้วย แต่ก็คิดว่า ลูกค้ายังมองธุรกิจของบริษัท โตเกียวมารีนประกันชีวิตในภาพลักษณ์ที่ดีอยู่ ซึ่งลุกค้าก็อาจพิจารณาความมั่นคงของบริษัทประกันชีวิตเป็นรายบริษัทไป โดยดูว่าบริษัทไหนมีความมั่นคงขนาดไหน มีอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุน หรือ CAR RATIO (คาร์ เรโช) ขนาดไหน หากบริษัทประกันชีวิตรายไหนต่ำกว่า 140 ถึงขั้น ICU ได้ และถ้าใครมีสูงกว่านี้ถือว่ามีการวางสำรองต่างๆที่เพียงพอ

นายสมโพชน์กล่าวด้วยว่า สถานการณ์ดอกเบี้ยลดลง การมองหาแหล่งที่ไปของเม็ดเงินในตลาดประกันชีวิตมีมากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาธุรกิจประกันชีวิตของบมจ.โตเกียวมารีนประกันชีวิตช่วงปี 2562 ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า ทำให้มีอัตราการเติบโตถึง 150% เพราะลูกค้ายุคนี้จะเหนื่อยกับการมองหาผลตอบแทนจากการลงทุน

อย่างไรก็ตามเบี้ยรวมทั้งอุตสาหกรรมยังติดลบอยู่ ขณะที่โตเกียวมารีนประกันชีวิตทำได้มีผลประกอบการที่ดี แต่ก็ต้องเข้าใจด้วยว่าการขายประกันที่ผ่านมา ไม่ค่อยมีความชัดเจน เฉพาะอย่างยิ่งช่วงลูกค้าส่งเบี้ยปีต่ออายุ ทำให้กรมธรรม์เกิดการ Lap กันเยอะมาก ปีต่ออายุติดลบ ขณะที่ตามปกติแล้วเบี้ยปีแรกและปีต่ออายุเมื่อรวมกันแล้วต้องบวก แต่ปีสองปีมานี้เอาเบี้ยปีแรกมารวมกับปีต่ออายุแล้วยังติดลบจนถึงขณะนี้ติดลบประมาณเกือบ 5% นี่คืออุตสาหกรรมที่เกิดขึ้นจริง.

เพิ่มเราเป็นเพื่อนได้แล้ววันนี้!....