โตเกียวมารีนประกันชีวิตสวนโควิดเดินหน้าเพิ่มกว่า 10 สาขา เหนือ-อีสาน เปิดป้ายสำนักงานฯ ลำพูน

“โตเกียวมารีนประกันชีวิต” สวนโควิด! เดินหน้าเพิ่มกว่า 10 สาขา “เหนือ-อีสาน” เปิดป้ายสำนักงานฯ ลำพูน ปักธงโตต่อเนื่องขยายองค์กรขนาดกลางสู่ทิศทาง “คนตัวใหญ่” อนาคต

ดร.สมโพชน์ เกียรติไกรวัล ประธานที่ปรึกษาสำนักกรรมการผู้จัดการ และสายงานตัวแทน บริษัท โตเกียวมารีนประกันชีวิต (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงการเติบโตช่องทางตัวแทนในช่วงครึ่งปีแรก 2564 ต่อเนื่องจากครึ่งปีหลัง 2563 ราม 8 เดือนมานี้ว่า มีการเติบโตสูงมากทั้งจำนวนตัวแทนที่เพิ่มขึ้นจนล่าสุดสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2564 มีกว่า 7,500 คน ในระยะแค่ 2 เดือนในปีนี้มีผู้คนให้ความสนใจเข้าร่วมมากขึ้นกว่า 500 คน จากหลากหลายพื้นที่กระจายไปทั่วประเทศ ทำให้บริษัทฯ ต้องเร่งดำเนินการเปิดสำนักงานสาขารองรับเพิ่มขึ้น

“ในรอบ 8 เดือนที่ผ่านมา บริษัทฯ เปิดสาขาใหม่เพิ่มนับ 10 สาขา เริ่มตั้งแต่ แม่สอดจังหวัดตาก พิษณุโลก อุตรดิตถ์ เชียงคำ สารคาม สกลนคร อุดรธานี เชียงราย ขอนแก่น อำเภอสังขะจังหวัดสุรินทร์ และในวันอาทิตย์ที่ 7 มีนาคม 2564 นี้จะเปิดที่ลำพูน ซึ่งเป็นตึกเดี่ยวเฉพาะสำนักงานสาขาโตเกียวมารีน อยู่ติดถนนลำพูน-เชียงใหม่ นับเป็นสาขาที่ใหญ่โตพอสมควร” ดร.สมโพชน์ กล่าว และว่า

บริษัทฯ ยังเตรียมจะเปิดใหม่เพิ่มอีกหลายพื้นที่อย่างเช่น ร้อยเอ็ด สิงห์บุรี และมุกดาหาร รวมถึงอำเภอปราสาทจังหวัดสุรินทร์ โดยบางพื้นที่ได้มีการเลือกสรรสถานที่ไปบ้างแล้ว ทำให้ปัจจุบันโตเกียวมารีนประกันชีวิตสามารถรองรับการทำงานของฝ่ายขายตัวแทนครอบคลุมมากขึ้นด้วยจำนวนสาขาที่เปิดไปแล้วกว่า 30 แห่ง

นอกจากนั้นการที่บริษัทได้ออกผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพเหมาจ่าย สัญญาเพิ่มเติม โตเกียว กู๊ด เฮลธ์ (Tokio Good Health) ไปเมื่อกลางเดือนมกราคม ก็เป็นส่วนสนับสนุนให้การลงพื้นที่ทำงานของฝ่ายขายตัวแทนได้รับการตอบรับดีมากจากลูกค้า ซึ่งตัดสินใจซื้อด้วยมองเห็นผลประโยชน์ตามแพ็คเก็จที่ครอบคลุมตอบโจทย์มากขึ้น พร้อมยังมีเบี้ยประกันภัยที่ต่ำเมื่อเทียบกับตลาดทั่วไป

“ของเราลูกค้าสามารถเลือกเริ่มต้นความคุ้มครองเหมาจ่ายตั้งแต่ 500,000 บาท ขณะที่ในตลาดทั่วไปเหมาจ่ายเริ่มต้นกันที่ 2-3 ล้านบาทขึ้นไป เบี้ยประกันฯ ก็จะสูง ทำให้เราสามารถตอบโจทย์กลุ่มคนที่มีรายได้ไม่สูงนักได้ ซึ่งเขาได้ทั้งความคุ้มครองจากประกันสุขภาพที่ครอบคลุมทั้งการเหมาจ่ายค่ารักษาพยาบาล รวมทั้งเรื่องของ OPD เรื่องตรวจสุขภาพ ซึ่งคิดว่าเราเป็นผลิตภัณฑ์เดียวในตลาดที่ให้ประโยชน์กับผู้เอาประกันฯ ที่คุ้มค่าที่สุดในขณะนี้”

ดร.สมโพชน์ กล่าวต่อว่า การตอบรับจากลูกค้าในส่วนประกันสุขภาพที่เพิ่มเติมใหม่นี้เป็นไปอย่างดี โดยประเมินยอดขายเบื้องต้นในระยะ 2 เดือนมีเข้ามามากขึ้นกว่าร้อยละ 20 ของยอดทั้งหมด

ทั้งนี้นอกจากผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพเหมาจ่ายเพิ่มเติมดังกล่าวแล้ว ในส่วนสนับสนุนงานขายของตัวแทนด้านเทคโนโลยีแอพพลิเคชั่น Fast Track เครื่องมือที่จะช่วยเพิ่มสมรรถนะให้กับตัวแทนในการนำเสนอและปิดการขายได้รวดเร็วยิ่งขึ้นนั้นนับเป็นเครื่องมือที่ช่วยได้ดีมากขึ้นจนทำให้ตัวแทนส่งงานขายผ่าน Fast Track เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 70 ของการส่งผลทั้งหมดในปัจจุบัน

ส่วนแอพพลิเคชั่นสำหรับบริการลูกค้าที่ใช้ชื่อเรียกว่า Touch Point ก็เป็นที่นิยมมากขึ้นตามลำดับ เพราะลูกค้ามีความสะดวกในการเข้าเช็ครายละเอียดข้อมูลกรมธรรม์ของตัวเอง รวมถึงการเช็คประวัติการเรียกร้องสินไหม ประวัติการชำระเบี้ย ใบแจ้งเตือนกำหนดชำระเบี้ย และการดาวน์โหลดใบรับรองการชำระเบี้ยเพื่อใช้ในการลดหย่อนภาษีประจำปี อีกทั้งยังเป็นช่องทางในการติดต่อบริษัทได้สะดวกยิ่งขึ้นนั่นเอง

“Touch Point เป็นแอพที่เราทำขึ้นเพื่อให้ลูกค้าได้รับความสะดวกรวดเร็ว และเพื่อให้ลูกค้ารู้จักและใช้งานเพิ่มมากขึ้น เราก็มีการจับฉลากแจกทองคำให้กับลูกค้าที่โหลดแอพไปใช้งาน เพื่อเป็นการสร้างแรงจูงใจให้ลูกค้าที่หันมาสนใจใช้แอพพลิเคชั่นต่อเนื่องในทุกไตรมาสด้วย”