“สุทัศษา เหล่าหงษ์เกียรติ” “แตกต่าง..ทำให้มีวันนี้!!”

“สุทัศษา เหล่าหงษ์เกียรติ”

“แตกต่าง..ทำให้มีวันนี้!!”

วันนี้ INNWHY ได้ถอดแนวคิดและประสบการณ์นักธุรกิจที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการธุรกิจเสื้อผ้าแฟชั่นมาร่วม 30 ปี ตั้งแต่เธออายุได้เพียง 20 ปีเศษ กระทั่งถึงวันนี้ยอดผลิตเสื้อผ้าไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า มาฝากกัน กับวิถีความสำเร็จของ “The Coach” ผู้สร้างธุรกิจที่น่าศึกษาคนหนึ่งของประเทศไทย

เธอผู้นั้นคือ “คุณสุทัศษา เหล่าหงษ์เกียรติ” กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสดีไซน์เทรดดิ้ง จำกัด เจ้าของธุรกิจเสื้อผ้า แฟชั่นแบรนด์เนม Zein (ซีน) Haas (แฮส) Onboard (ออน บอร์ด) และเจ้าของสถานที่ท่องเที่ยว เดอะ เวเนเซีย ชะอำ-หัวหิน โรงแรม เมอร์ริท รีสอร์ท แอนด์ สปา สมุย หรือ Merit Wellness & Mind Retreat Resort Samui

และนี่คือโอกาสที่ INN WHY นำมาร่วมแบ่งปันประสบการณ์เพื่อสร้างแรงบันดาลใจสำหรับเหล่า Start Up ที่เตรียมตัวก้าวสู่การเป็นนักธุรกิจยุคใหม่ให้เดินไปสู่เป้าหมายตามที่วางไว้

“คุณสุทัศษา” เล่าถึงประสบการณ์ของการดำเนินธุรกิจเสื้อผ้าแฟชั่นที่วันนี้ได้พาเธอก้าวสู่เป้าหมายตามตั้งใจไว้ คือ การได้เป็นเจ้าของธุรกิจเสื้อผ้าแฟชั่น และเป็นธุรกิจที่ยังดำรงอยู่ในปัจจุบัน เธอบอกว่า การที่คนเราจะประสบความสำเร็จได้นั้นจะต้องมี Coach เพราะคำแนะนำของ Coach คนแรกมีความสำคัญมาก!!

อย่างตัวเธอได้เริ่มทำธุรกิจด้วยตัวเองมาตั้งแต่อายุ 20 ปีต้นๆ โดยช่วงที่เรียนจบใหม่ๆ ได้ทำงานหาประสบการณ์ก่อน แต่ไม่นานนักเพราะช่วงที่เรียนจบเธอได้ค้นพบความฝันของตัวเองและอยากทำตามฝัน คือ อยากเป็นเจ้าของธุรกิจ อะไรสักอย่าง เลยเริ่มจากอะไรที่ชอบและใกล้ตัวที่สุดก่อน

แต่ช่วงเรียนจบมหาวิทยาลัยใหม่ๆ นั้นได้เลือกทำธุรกิจเครื่องประดับขายไประยะหนึ่ง ช่วงนั้นได้รู้จักกับ GM คนแรกของห้างฯโซโก้ตรงแยกราชประสงค์ ความรู้จักและได้สนทนาพูดคุยกันเธอบอกว่า สามารถจับ คีย์เวิร์ด สำคัญหนึ่งที่ GM ท่านนั้นพูดกับเธอว่า…ให้ส่งเครื่องประดับมาขายที่นี่ แต่ Product ต้องมีความแตกต่างไม่เหมือนคนอื่นนะ

ซึ่งคำว่า “แตกต่าง” ในวันนั้นวันที่เริ่มต้นทำธุรกิจเป็น Start Up ใหม่ๆ ได้ทำให้เธอจดจำและสามารถสร้างธุรกิจอยู่ได้ในวันนี้

เธอบอกว่า เขาคือ Coach คนแรก คำแนะนำของ Coach คนแรกเป็นสิ่งสำคัญมาก และคำแนะนำนั้นได้ถูกเทรนสู่ทีมงานของธุรกิจเสื้อผ้าทั้งหมด ซึ่งเธอกล่าวว่า ตอนนี้เสื้อผ้าแม้จะไม่ได้ดังเปรี้ยงปร้างอะไรแต่การผลิตป้อนลูกค้าวันนี้ก็ผลิตไม่ทัน

จากธุรกิจเครื่องประดับมาสู่ธุรกิจเสื้อผ้าแฟชั่นได้อย่างไรนั้น “คุณสุทัศษา” เล่าวว่า เธอได้ค้นพบตัวเองว่าเป็นคนชอบการแต่งตัว ชอบเสื้อผ้า รักของสวย ๆ งาม ๆ ตามสไตล์ผู้หญิง จากตอนนั้นที่ได้เริ่มจากทำเครื่องประดับขาย เช่น สร้อยคอ ต่างหู ฯลฯ พอทำไประยะหนึ่ง ได้เริ่มคิดถึงเสื้อผ้า เพราะเวลาเดินหาซื้อเสื้อผ้าที่เหมาะกับบุคลิกของตัวเองมักหาที่ถูกใจไม่ได้

เธอบอกว่าเป็นเพราะ “…เสื้อผ้า…เป็นเรื่องของสไตล์ไม่ใช่เรื่องการดีไซน์ เพราะสไตล์มีอิทธิพลต่อการแต่งตัว…”

หลังจากนั้นได้เริ่มศึกษาธุรกิจเสื้อผ้าอย่างจริงจัง เริ่มมองหา Concept ของสินค้า มองหาความแตกต่างของสินค้าเดียวกันในตลาด ดูจากไลฟ์สไตล์ว่าคนส่วนใหญ่ชอบแต่งตัวแบบไหน ตลาดนี้มีจุดอ่อนอะไรบ้างแล้วตัวเองมีจุดแข็งอะไรบ้าง แล้วจะสร้างจุดแข็งขึ้นมาได้อย่างไร

“สิ่งสำคัญเหล่านี้เป็น Mind Set การทำธุรกิจเสมอและจะทำให้เรามองเห็น “ความแตกต่าง” ของตลาด ซึ่งถือเป็นคีย์เวิร์ดของความยั่งยืนเหมือนเราเปิดสนามใหม่ให้กับตัวเอง ”

“คุณสุทัศษา” เล่าว่า ธุรกิจที่ทำมาถึงปัจจุบันสิ่งที่ขาดไม่ได้คือการยึดหลักการดำเนินธุรกิจแบบตรงไปตรงมาและ Simple สำหรับลูกค้าจริงๆ แบรนด์ของเธอจึงถูกตั้งโจทย์ตามสไตล์ลูกค้าเป็นหรือตามที่ลูกค้าต้องการ อาจมีเปลี่ยนสีหรือเปลี่ยนแบบบ้างแต่ไม่ได้เปลี่ยนสไตล์ ดังนั้น เสื้อผ้าของเธอจึงเป็นเรื่องของสไตล์ไม่ใช่เรื่องการดีไซน์ เพราะสไตล์มีอิทธิพลต่อการแต่งตัว

อย่างเวลาลูกค้าอยู่ในสไตล์ของตัวเอง ถ้ามิกซ์แอนด์แมทซ์ได้ก็จะสามารถดึงจุดเด่นของตัวเราออกมาได้ ซึ่งแบรนด์ของเธอก็สามารถแนะนำลูกค้าได้มากขึ้น เพราะลูกค้าที่มาซื้อเสื้อผ้านั้นเธอมองว่า ไม่ได้มาซื้อเสื้อผ้า แต่มาซื้อความหวัง ที่หวังว่าใส่แล้วจะดูดีขึ้น เหมือนกับการซื้อเครื่องสำอางที่ไม่รู้ว่าซื้ออะไรมาบ้างแต่การซื้อคือหวังเพื่อที่จะให้ตัวเราสวยขึ้น ดูดีขึ้น

ดังนั้น สินค้าแต่ละแบรนด์ที่วางจำหน่ายอยู่บนห้างสรรพสินค้าชั้นนำจะเห็นว่า มีโปรโมชั่นเซลล์ตลอดทั้งปี และที่สำคัญเซลล์จากราคาปกติในอัตราที่สูงมากถึง 70-80% เพื่อให้ลูกค้าสมหวังที่ใส่แล้วช่วยให้ดูดีขึ้น

ส่วนการดำเนินธุรกิจซึ่งแน่นอนว่า เธอได้เผชิญทั้งกับปัญหาและอุปสรรคแต่ก็ไม่ได้ทำให้ธุรกิจหยุดเดินได้เพราะเธอบอกว่า ทุกปัญหาสำหรับตัวเธอแล้วคือ โอกาส ซึ่งเป็นเหมือนตัวเพิ่มพลังให้เราได้พัฒนาต่อไปข้างหน้า เฉพาะอย่างยิ่งคนเราถ้าได้รับการฝึกฝนตัวเองให้มองเห็นสถานการณ์ต่างๆ จะช่วยให้จับโอกาสได้ตลอดเวลา หากเรามุ่งมั่นมองแต่ปัญหาก็จะมองไม่เห็นโอกาสดีๆ ที่เข้ามาได้

“คุณสุทัศษา” บอกว่า เป็นเหมือนกับการค้นพบในสิ่งที่เราชอบ เมื่อได้เดินเข้าไปหาสิ่งนั้นแล้ว ประตูก็จะเริ่มเปิดกว้างมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เราได้พบโอกาสที่เปิดให้สำหรับผู้ที่เดินเข้าหาโอกาสนั้น แล้วเราจะมองเห็นว่า ในสิ่งที่เราชอบนั้นทำได้อย่างไรให้กลายเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ได้

“…ไม่ใช่เราเก่งและขณะเดียวกันก็ไม่ใช่แค่เรามีความฝันเท่านั้น แต่ต้องลงมือทำด้วย เพราะฝันแล้วประสบความสำเร็จคือ ฝันแล้วมุ่งมั่นที่จะทำ เพื่อให้สิ่งที่เราต้องการหรือสิ่งที่เราฝัน เราจะต้องทำความฝันให้เป็นจริงให้ได้ ดังนั้นความมุ่งมั่นนี่แหล่ะ คือ สิ่งที่ทำให้เรามีความพยายามและไม่ท้อแท้กับมัน ถ้าได้ทำแล้วก็จะไม่มีคำว่าล้มเหลวถ้าเราไม่ล้มเลิก…”

“…เวลาเรามองเห็นปัญหา ให้มองทุกปัญหาเป็นโอกาส จะช่วยให้เราก้าวข้ามได้อย่างสมาร์ท…”

“คุณสุทัศษา” เล่าว่า มีทีมงานคนหนึ่งทำงานด้วยความขยันขันแข็ง ตั้งใจเป็นอย่างมาก และทำงานด้วยกันมานาน อยู่มาวันหนึ่งต้องการลาออกขึ้นมาด้วยเหตุผลบางอย่าง ซึ่งก็ได้แนะนำทีมไปว่า ถ้าคุณลาออกตอนนี้ ง่ายมากแค่เซ็นให้ออกง่ายมากแต่ถ้าลาออกในขณะที่ทำงานยังไม่ประสบความสำเร็จ อายคนอื่นเขานะ คนเราต้องพิสูจน์ฝีมือก่อน สำเร็จแล้วค่อยลาออกจะดูมีศักดิ์ศรีกว่า และวันนี้ทีมคนนี้ก็อยู่จนสามารถสร้างยอดขายได้ประสบความสำเร็จ

โดยคำว่า ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่นี้ สิ่งสำคัญมากๆคือ ความขยัน เพราะเป็นพื้นฐานของการนำไปสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของธุรกิจด้วย ธุรกิจเสื้อผ้าเป็นธุรกิจที่ในทุกช่วงความต้องการของคนมีความเปลี่ยนเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาต้องก้าวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา

ทั้งนี้นอกจากความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่หลายคนอาจมองที่ทรัพย์สินเงินทอง แต่สำหรับเธอความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่และมีคุณค่าทางใจที่ยิ่งใหญ่ไม่ได้ซึ่งไม่ได้หมายความแค่เงินทอง หากแต่หมายรวมถึงการที่ได้ช่วยเหลือคนอื่นได้ด้วย เพราะเมื่อบริษัทใหญ่โตขึ้น เมื่อนั้นทีมงานจะมีโอกาสประสบความสำเร็จ มีความก้าวหน้า มีความเติบโตที่จะสร้างรายได้ และสร้างคุณค่าให้กับตัวเองได้มากขึ้น ซึ่งเธอได้ฝากทิ้งท้ายด้วยกำลังใจที่เธอยึดเป็นหลักการทำงานมาตลอดว่า

“…เวลาเรามองเห็นปัญหา ให้มองทุกปัญหาเป็นโอกาส จะช่วยให้เราก้าวข้ามทุกปัญหาได้อย่างสมาร์ท…”

และนี่คือ! โค้ชตัวจริง! อีกคนหนึ่งในอาชีพ “นักดีไซด์เนอร์” และเป็นเจ้าของธุรกิจเสื้อผ้าแบรนด์ดังและอื่นๆ อีกหลากหลาย ซึ่งทั้งหมดเธอ “โค้ช” ประสบการณ์ให้กับผู้อ่านด้วยแนวปฏิบัติที่มาจากเนื้อแท้จนสำเร็จอย่างมืออาชีพในปัจจุบัน!!.-