ไทยประกันชีวิต จับมือ จีเอ็มเอ็มแกรมมี่ รุก Music Marketing สร้างแบรนด์ผ่านเพลง

ไทยประกันชีวิต จับมือ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ รุก Music Marketing สร้างแบรนด์ผ่านเพลง

นายไชย ไชยวรรณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ไทยประกันชีวิตและจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ถือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่แนบแน่น จึงเป็นโอกาสอันดีที่ไทยประกันชีวิตได้รุกการทำตลาดผ่านเพลง หรือ Music Marketing ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ใหม่ในธุรกิจประกันชีวิตและธุรกิจเพลง และทำให้แบรนด์ไทยประกันชีวิตเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในวงกว้าง โดยเฉพาะวัยรุ่นและวัยทำงาน ซึ่งเป็นกลุ่มหลักที่เสพความบันเทิงผ่านบทเพลง โดยในปีที่ผ่านมาไทยประกันชีวิตได้สนับสนุนมิวสิควีดิโอของ 6 ศิลปินคุณภาพ ในลักษณะการทำ Branded Content ซี่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี มียอดวิวในยูทูปถึง 100 ล้านวิว

“ธุรกิจประกันชีวิตเป็นธุรกิจที่เข้าถึงคนค่อนข้างยาก เนื่องจากเป็นธุรกิจที่มีความซับซ้อน การทำการตลาดแบบ Music Marketing จะเอื้อให้การประกันชีวิตและบริษัทฯ เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายขึ้น เพราะเพลงเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของคนนั่นเอง“นายไชยกล่าว

สำหรับในปี 2560 เป็นวาระพิเศษที่ไทยประกันชีวิตดำเนินธุรกิจครบ 75 ปี จึงได้ต่อยอดสร้างสรรค์บทเพลงพิเศษ 6 บทเพลง ภายใต้แนวคิดเพราะโอกาสมีอยู่ในทุกช่วงชีวิต หรือ Life is an Opportunity ที่ศิลปินของแกรมมี่ได้รับแรงบันดาลใจจากภาพยนตร์โฆษณาของบริษัทฯ ซึ่งเป็นภาพยนตร์โฆษณาที่สร้างกระแส Talk of the Town และยังคงอยู่ในความทรงจำของผู้ชม ได้แก่ โฆษณา Everlasting Love หรือ ปู่ชิว เป็นแรงบันดาลใจให้คนเห็นถึงโอกาสที่ได้ เมื่อเราเสียคนที่รัก โฆษณา My Son แรงบันดาลใจเกี่ยวกับโอกาสที่รอไม่ได้

โฆษณา Silent of Love หรือ พ่อใบ้ เป็นแรงบันดาลใจในโอกาสที่ได้แสดงความรัก โฆษณา Forget Me Not แรงบันดาลใจของโอกาสที่ไม่เคยลืม โฆษณา Unsung Hero แรงบันดาลใจในโอกาสที่จะทำความดี โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน และโฆษณา Follow the Father ที่จะสร้างโอกาสในการทำตามแบบในหลวง รัชกาลที่ 9 โดยบทเพลงเหล่านี้มุ่งสร้างแรงบันดาลใจให้กับทุกชีวิต ผ่านความรักหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นความรักของหนุ่มสาว ความรักในครอบครัว หรือความรักต่อคนที่อยู่ร่วมกันในสังคม

นายไชยกล่าวว่า จีเอ็มเอ็มแกรมมี่ ถือเป็นเบอร์หนึ่งด้านเพลง ที่มากด้วยประสบการณ์และความสามารถของศิลปิน เมื่อมาผสานกับภาพยนตร์โฆษณาของไทยประกันชีวิตหลายเรื่อง เป็นภาพยนตร์ที่กระตุกความคิดและความรู้สึกของผู้ชม ซึ่งไทยประกันชีวิตสร้างสรรค์ภายใต้แนวคิด คุณค่าของชีวิตและความรัก (Value of Life & Love) อันเป็นแก่นของธุรกิจประกันชีวิตที่มาจากความรัก ความห่วงใยคนที่รัก เชื่อว่าจะสามารถผลักดันให้ภาพยนตร์โฆษณาของบริษัทฯ เป็นที่ประทับใจและตราตรึงในความทรงจำของผู้ชมไปอีกนาน รวมถึงสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนที่ชมได้รับรู้ถึงโอกาส และตระหนักว่าถ้าได้รับโอกาสควรจะรักษไว้

นายภาวิต จิตรกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร จีเอ็มเอ็ม มิวสิค บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์แคมเปญพิเศษนี้ร่วมกับไทยประกันชีวิต โดยตลอด 75 ปี ที่ไทยประกันชีวิตได้วางรากฐานของแบรนด์ ด้วยการสร้างให้คนได้เห็นถึงคุณค่าของชีวิตและความรัก ในวันนี้เราได้นำแนวคิดดังกล่าวมาต่อยอดผ่านบทเพลงพิเศษถึง 6 บทเพลง เพื่อให้ Brand DNA ของไทยประกันชีวิต เข้าถึงกลุ่มคนได้ง่ายขึ้น กว้างขึ้นและขยายผลต่อไปได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่จะเข้าถึงแบรนด์ของไทยประกันชีวิตได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมด้วย

สำหรับแคมเปญดังกล่าวนี้ เป็นการรวมสุดยอดของบุคคลที่อยู่ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังของงานเพลงมาร่วมกันสร้างสรรค์ผลงานเพลงพิเศษทั้ง 6 บทเพลง ได้แก่ Best Producer ทีมควบคุมการผลิตระดับแนวหน้าของไทย ประกอบด้วย คุณกริช ทอมมัส จากแกรมมี่ โกลด์, คุณนิค วิเชียร ฤกษ์ไพศาล จากจีนี่ เรคคอร์ดส์ และคุณอาร์ม รัฐการ น้อยประดิษฐ์ จากไวท์ มิวสิค Best Song Writer นักแต่งเพลงคุณภาพอย่าง ครูสลา คุณวุฒิ, พี่โจ เหมือนเพชร, ป๊อป ปองกูล และ โอม Cocktail และ Best Artist เหล่าศิลปิน ที่มาร่วมถ่ายทอดความประทับใจจากภาพยนตร์โฆษณาผ่านบทเพลง ได้แก่ วง Cocktail, วง Potato, วง Jetset’er, มนต์แคน แก่นคูน, บวกกับสองนักร้องคลื่นลูกใหม่ โอปอ ประพุทธ์ และ ตรี ชัยณรงค์ โดยบทเพลงแห่งแรงบันดาลใจทั้งหมดนี้จะส่งตรงเข้าถึงหัวใจคนไทยทั้งประเทศตลอดทั้งปี

“เราเชื่อว่าทั้ง 6 บทเพลงพิเศษที่เราสร้างสรรค์ขึ้นมานี้ จะทำหน้าที่ในการเปิดมุมมองในเรื่องของโอกาสในมิติใหม่ๆ และจะเป็นตัวสร้างแรงบันดาลใจในการนำพาโอกาสดีๆเข้าไปอยู่ในใจของผู้บริโภค ทุกกลุ่ม ทุกเพศ ทุกวัย อย่างไม่มีที่สิ้นสุด โดยสามารถรับชมและรับฟังผลงานเพลงได้ในทุกช่องทาง online ของไทยประกันชีวิต และจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ซึ่งเราคาดหวังว่าตลอดแคมเปญจะมียอดผู้เข้าชมและรับฟัง 6 บทเพลงนี้กว่า 120 ล้านวิว” นายภาวิต กล่าวในที่สุด