เทคโนโลยีกำลังสร้างความเสี่ยงใหม่ ๆ ที่อุตสาหกรรมประกันภัยไม่ได้เตรียมรับมือไว้ในขณะนี้

แกรี่ โกโน หัวหน้าฝ่ายโซลูชั่น ของ NSTANDA ซึ่งเป็นแฟลตฟอร์มธุรกิจของอุตสาหกรรมประกัน กล่าวว่า ความเสี่ยงซึ่งเป็นรากฐานของอุตสาหกรรมประกันภัยกำลังปฏิวัติเงียบ  ในขณะที่การเปลี่ยนแปลงสู่ระบบดิจิทัลเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงสำหรับบริษัทประกันในช่วงปีที่ผ่านมา แต่ก็มีการพูดถึงน้อยมาก ว่าเทคโนโลยีกำลังเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมประกันจากภายนอกอย่างไร

โกโน กล่าวว่า ในช่วง 5-10 ปีข้างหน้า บริษัทประกันจะต้องสร้างสายผลิตภัณฑ์ใหม่โดยสิ้นเชิงเนื่องจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสร้างความเสี่ยงใหม่ๆ  เฉพาะบริษัทประกันที่ปรับตัวรับความเสี่ยงเหล่านี้เท่านั้นที่จะประสบความสำเร็จและอยู่รอดได้ 

 ในขณะที่มีการพัฒนาข้อมูลและ เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI)  บริษัทประกันจะได้รับรู้เกี่ยวกับความเสี่ยงมากขึ้นกว่าเดิมในไม่ช้า และนี่เป็นการสร้างโอกาสให้บริษัทประกันได้ลงลึกไปในชีวิตประจำวันของผู้บริโภค แบบเดียวกับที่เราได้เห็นจากแอพของธนาคารออนไลน์

 หากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยียังคงอยู่ในอัตราปัจจุบัน บริษัทประกันจะสามารถใช้ความรู้เรื่องความเสี่ยงเพื่อไปให้คำแนะนำแก่ลูกค้าได้ดีขึ้น

งานเทคโนโลยีประจำปีของCESในเดือนที่ผ่านมา ได้เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่บริษัทประกันจะได้สำรวจปัญหาเหล่านี้  โดยในงานมีการโชว์ทีวีและแล็ปท็อปที่ใหญ่ขึ้น  ดีขึ้นและบางลง นอกจากนี้ยังนำเสนอโซลูชั่นแปลกใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อปรับปรุงคุณภาพชีวิตและลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุหรือการเสียชีวิต  ดังนั้นควรจะตั้งคำถามว่า เมื่อไหร่ที่สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นกับอุตสาหกรรมประกัน

เทคโนโลยีอันหนึ่งที่เปิดตัวในงาน CES  คือจอแสดงผลแบบเฮดอัพใหม่ของพานาโซนิคสำหรับผู้ขับขี่ ซึ่งจะแสดงเส้นทางในการนำทางและการแจ้งเตือนบนกระจกหน้ารถ นอกจากนี้ยังมีโคมไฟเพดานอัจฉริยะของบริษัทโนบิ  ซึ่งมีเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวและมีเครื่องตรวจจับอินฟราเรดเพื่อตรวจจับการเคลื่อนไหวและการตกที่ผิดปกติ เทคโนโลยีทั้งสองตัวนี้จะเปิดตัวภายในสองปีข้างหน้า แต่ในฐานะที่เป็นอุตสาหกรรมหนึ่ง อุตสาหกรรมประกันยังไม่ได้เตรียมรับมือกับเทคโนโลยีเหล่านี้

 โกโนกล่าวว่า สิ่งเหล่านี้คือความเสี่ยงทั้งหมดที่จำเป็นต้องคิดไว้ให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ โดยเทคโนโลยีใหม่ๆจะกำหนดกรมธรรม์ใหม่ๆโดยสิ้นเชิง เนื่องจากมีความจำเป็นที่จะต้องคุ้มครองผู้บริโภคจากความเสี่ยงที่เกิดขึ้นใหม่มากขึ้น

นอกจากนี้บริษัทประกันจำเป็นต้องมีความยืดหยุ่นในเรื่องกรมธรรม์ เพื่อที่จะสามารถปรับรายละเอียดของกรมธรรม์ให้เข้ากับอันตรายและแกดเก็ตส์ ใหม่ๆได้

ระบบเทคโนโลยีที่มีอยู่ของบริษัทประกัน ทำให้ยากมากที่บริษัทจะปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว โดยต้องใช้เวลาหลายปีสร้างผลิตภัณฑ์ประกันใหม่และต้องใช้เวลาหลายเดือนเพื่ออัพเดทรายละเอียดของกรมธรรม์ที่มีอยู่  ทางเดียวที่บริษัทประกันจะสามารถปรับตัวต่อความเสี่ยงใหม่ๆเหล่านี้ได้ คือต้องเตรียมตัวรับมือกับระบบดิจิทัล

เทคโนโลยีที่นำเสนอในงาน CES ก่อให้เกิดคำถามอย่างจริงจังต่ออุตสาหกรรมประกัน  ในขณะที่เทคโนโลยีสร้างโอกาสใหม่ ๆ และเปิดตลาดใหม่ ๆ แต่ก็สร้างความเสี่ยงใหม่ ๆด้วย โดยจะมีความต้องการประกันประเภทใหม่ ๆ

หากต้องการได้ประกันรูปแบบใหม่ที่เหมาะสม  โดย สร้างผลิตภัณฑ์ประกันที่ดีขึ้น เป็นส่วนตัวมากขึ้นและราคาไม่แพง บริษัทประกันต้องก้าวไปข้างหน้า และ ในการทำเช่นนั้น บริษัทประกันต้องไตร่ตรองดูว่าเทคโนโลยีของตนเองนั้นทันสมัยหรือไม่  สามารถนำผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาดเพื่อตอบสนองต่อเทคโนโลยีและอันตรายใหม่ ๆได้หรือไม่?  สามารถเปลี่ยนแปลงกรมธรรม์ได้อย่างรวดเร็วหรือไม่?  และสามารถใช้ข้อมูลเพื่อเพิ่มความเสี่ยงด้านราคาได้หรือไม่?

ทั้งหมดนี้เป็นคำถามสำคัญที่บริษัทประกันจะต้องถามตัวเอง

 

เพิ่มเราเป็นเพื่อนได้แล้ววันนี้!....