โค้งสุดท้าย…โอกาสเก็บพอร์ตประกันสุขภาพไร้ Copayment ก่อน 20 มีนาฯ แต่บางบริษัทฯ ปรับขึ้นเบี้ย “ลูกค้าเก่า-ใหม่” พอร์ตเดียวกัน 30% เริ่ม 1 มีนาฯ นี้ !!

@@…กราบสวัสดีคร้าบ..มิตรรักแฟนคลับขาประจำสื่อ INNWhy กับคอลัมน์ก็อสซิปคนแวดวงการประกันภัย SPY MAN รอบสัปดาห์นี้เราวนกลับมาพบกันตรงกับวันจันทร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2568 ช่วงสัปดาห์ที่เหมือนจะเงียบสงบ…แต่ดูจะไม่เชิง!! เพราะช่วงระหว่างนี้เป็นช่วงแห่งการ “สปีดขาย” ประกันสุขภาพแบบ “ไม่มี ติ่ง” โคเพย์เมนท์ Copayment ติดห้อยท้ายในสัญญาประกันภัย…จนกว่าจะคล้อยหลัง 20 มีนาคม 2568 นี้นะคร้าบบบบ…@@

@@…จะเป็นโอกาสมั้ย!!…สำหรับผู้บริโภคที่ยังไม่มีประกันสุขภาพ! ก็น่าจะเป็นโอกาสที่จะกระโดดห้อยโหนรถไฟขบวนสุดท้ายกันก็คือช่วงเวลานี้หล่ะนี้นะ…ล่าสุดทางค่าย “เมืองไทยประกันชีวิต” โดยบิ๊กบอสหนุ่ม “คุณป้อง สาระ ล่ำซำ” เอื้อนเอ่ยเปรยๆ ออกมาแล้วว่าตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์แล้วหล่ะที่ค่ายนี้ได้รับอนุมัติแบบประกันสุขภาพโคเพย์ฯ จาก “สำนักงาน คปภ.” เป็นที่เรียบร้อยแล้ว…แค่รอเวลา 20 มีนาคมศกนี้ก็คิกออฟประเดิมฉบับแรกกันได้เลย!!…@@

@@…ส่วนค่ายอื่นๆ ก็น่าจะไล่ๆ ตามๆ กันออกมาให้ทันเวลากันล่ะคร้าบ…ที่สำคัญช่วงเวลาหลังไตรมาสแรกของปีนี้ไป…เรื่องประกันสุขภาพโคเพย์เมนท์ก็ยังคงเป็นประเด็นที่เหล่านักขายตัวแทนทุกระดับต้องทำความเข้าใจกับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง…เพราะการเจ็บป่วยไข้ “ตามความจำเป็นทางการแพทย์” นั้นมันคืออะไร…นี่หละสิ่งที่ต้องเคลียร์!!..การที่จะคอยให้คำแนะ “นอน” รักษาตัวที่โรงพยาบาลทุกครั้งนั้น…ไม่น่าจะใช่แล้วหล่ะน๊า!!…@@

@@…สิ่งที่เคยๆ ทำกันมาก็คงต้องหยุด!! ปรับบทบาทกันใหม่มาให้คำปรึกษาวางแผนการเงินอย่างตรงจุดตรงประเด็นก็น่าโอเคสุด…ภายใต้การดูแลพิเศษที่หากใครมีประกันสุขภาพด้วยยิ่งทำให้ “คุ้มค่า” กับเงินค่าเบี้ยที่จ่ายเป็นค่าความเสี่ยงกับค่ารักษาพยาบาลที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ในทุกวันนี้น่าจะดีกว่า…โดยมุ่งให้ลูกค้าเข้าใจถึงคุณค่าของเงินหลักพันหรือหลักหมื่นที่จะคุ้มครองความเสี่ยงค่ารักษาพยาบาลสูงในหลักหมื่นหลักแสนหรือเป็นล้านแทนอย่างเข้าใจ…@@

@@…มาร่วมกันสร้าง “จิตสำนึก” ให้กับลูกค้าและตัวแทนบางกลุ่มบางคนถึงสิ่งควรชอบควรทำ…ไม่มุ่งผลประโยชน์ส่วนตัวจนลืมคิดถึง “ผลพ่วง” จากการกระทำที่ไม่ชอบเหมือนที่ผ่านมาอีก…วันนี้ Copayment จึงถูกจัดเสิร์ฟให้อย่างทั่วถึงสำหรับ “ลูกค้าใหม่” แต่ก็อย่างที่บอก “ลูกค้าเก่า” (สัญญาก่อน 20 มีนาคม 2568) ก็ใช่ว่าจะลอยนวลยวลใจไปได้อย่างไม่ยั้งคิดยั้งทำกันต่อ…เพราะถ้าเคลมสูงเกิน 70% ของพอร์ตแบบประกันฯ นั้นๆ ของบริษัท…ปีต่อไปก็น่าจะมีปัญหาเหมือนกันล่ะนะ…@@

@@…และเท่าที่ SPY MAN สืบทราบมาตอนนี้…มีบางบริษัทประกันฯ มีประกาศแจ้ง “ฝ่ายขาย” ทุกช่องทางแล้วว่า…บริษัทจะปรับเงื่อนไขการรับประกันภัยและอันตราเบี้ยประกันภัยใหม่!! ในแบบสัญญาเพิ่มเติมประกันสุขภาพแบบ “….CARE” งานนี้มีผลทั้ง “ลูกค้าเดิม” (Inforced Policy) ที่ครบรอบปีกรมธรรม์ตั้งแต่ 1 มีนาคม 2568 เป็นต้นไป และ “ลูกค้าใหม่” (New Business) ที่กรมธรรม์มีผลตั้งแต่ 1 มีนาคม 2568 นี้เป็นต้นไปเช่นกัน…@@

@@…งานนี้ข้อมูล (ลับแบบไม่ลับ) กระจายออกมาแล้วว่า “ปรับเบี้ยเพิ่ม” ราว 30%…อย่างนี้จะว่าอย่างไรดีหล่ะคร้าบบบบบ…ซึ่งเป็นเฉพาะแบบกรมธรรม์ “….CAR” นี้หล่ะน๊า…ซึ่งนี่ก็คือตัวอย่างหนึ่งหล่ะที่จะบอกกล่าวให้ “คนกลาง” ประกันภัยทั้งหลายรับรู้ไว้ว่าบริษัทบางบริษัทก็ไม่ได้มานั่งดูอกดุใจใครหรอกน๊า…เมื่อเขาเจอปัญหาขาดทุน!! สิ่งที่ต้องทำก็คือ ตัดทิ้ง!! หรือปรับขึ้นราคาทันที!! เหมือนปีที่แล้วเขาทำขนาดว่า “ตัดทิ้งประกันฯกลุ่ม” ไปเฉยนั่นหล่ะ…@@

@@…และอีกกรณีที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ก็กลุ่ม “ประกันสุขภาพเด็ก” ที่ทำเอาหลายสำนักประกันฯ ต่างพากันนำเสนอกรมธรรม์ที่มี “ดีดัก-Deduct” ค่ารับผิดส่วนแรกออกมาสู่ตลาดกันแบบพร้อมหน้ากันไปหละ…หลังจากต่างคนต่างเจ็บกันเป็นแถวมาในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา…ซึ่งบางค่ายก็มีแบบจ่ายครั้งเดียวต่อปี…หรือบางค่ายก็มีจ่ายทุกครั้งที่เข้า…โดยสัดส่วนไม่เท่ากัน…และค่ายใหญ่ “เอไอเอ ประเทศไทย” ก็ประเดิมมาแล้วตั้งแต่ปลายปีก่อนด้วยซ้ำ…@@

@@…ล่าสุด “ดร.สมโพชน์ เกียรติไกรวัล” ผู้นำฝ่ายขายสูงสุดแห่งค่าย “โตเกียวมารีนประกันชีวิต” แย้มออกมาแล้วหล่ะคร้าบ…หลังจากปิดจบชะลอการขายประกันสุขภาพเด็กไปพักหนึ่งก่อนหน้านี้…จนบริษัทปรับทิศทางปรับคืนสภาพกลับมามีกำไรกว่า 300 ล้านบาทเป็นครั้งแรกในปี 2567…ก็ยังเห็นความจำเป็นของฝ่ายขายที่ต้องมีสินค้าหลากหลายตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่ม…งานนี้ซุ่มทำแบบ “ประกันฯเด็กดีดัก” เตรียมขึ้นเชลฟ์แล้วหล่ะคร้าบ…สวัสดี!! @@