เรกูเลเตอร์ฟิลิปปินส์กระทุ้งบริษัทประกันภัยปรับตัว ใช้เทคโนโลยใหม่ เปิดทางผู้บริโภคเข้าถึงประกันง่ายขึ้น รับมือ Climate Change ภัยร้ายคุกคามมนุษยชาติ ด้าน”แมนูไฟล์” เผยผลสำรวจ ชาวฟิลิปปินส์เจอความท้าทายอีกด้านคือการมีสุขภาพดีและยืนยาว ท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มขึ้นสารพัดโดยเฉพาะค่ารักษาพยาบาลหากเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรง  หวั่นกระทบหนักกระเป๋าเงินบนความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ ชี้ระดับความสนใจประกันพุ่งพรวดโดยเฉพาะประกันสุขภาพ ตะลึง! ฟิลิปปินส์ทำประกันต่ำสุดในเอเชีย

เว็บไซต์ AsiaInsuranceReview รายงานว่า  หัวหน้าหน่วยงานกำกับดูแลธุรกิจประกันภัยคนใหม่ของฟิลิปปินส์ ได้เรียกร้องให้บริษัทประกันภัยใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ในการดำเนินธุรกิจเพื่อให้ชาวฟิลิปปินส์เข้าถึงระบบประกันภัยได้ดียิ่งขึ้น

Reynaldo A Regalado เลขาธิการหน่วยงานกำกับดูแลธุรกิจประกันภัยของฟิลิปปินส์ ซึ่งได้เข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งเมื่อเดือนมีนาคม  2566 ที่ผ่านมา ได้กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมสุดยอดประกันภัยฟิลิปปินส์ครั้งที่ 16 ซึ่งจัดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้  ในหัวข้อ “การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ – ภัยคุกคามร้ายแรงต่อมนุษยชาติ: การนำไปสู่ความยั่งยืนและความยืดหยุ่น” โดยได้เน้นย้ำถึงบทบาทที่สำคัญของอุตสาหกรรมประกันภัยต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศท่ามกลางความเสี่ยงที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ

ทั้งนี้ จากการสำรวจความครอบคลุมทางการเงินในปี 2564 โดย Bangko Sentral ng Pilipinas (BSP) พบว่า ผู้ใหญ่ชาวฟิลิปปินส์ที่ทำประกันภัยคุ้มครองไว้มีสัดส่วน  48% ในปี 2564  ขณะที่เหตุการณ์การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ “ไม่ใช่เหตุสุดวิสัยอีกต่อไป”

Business Mirror  สื่อในฟิลิปปินส์รายงานข่าวโดยอ้างอิงคำกล่าวของ  Dean Antonio GM La Vina รองผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายสภาพอากาศและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ  ได้กล่าวแสดงความคิดเห็นระหว่างการประชุมสุดยอดดังกล่าวว่า เหตุการณ์ต่างๆ ที่กระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ  อาทิ  ซูเปอร์ไต้ฝุ่น  น้ำท่วมใหญ่ หรือดินถล่ม ไม่อาจถือเป็น “เหตุสุดวิสัย” หรือเป็นการกระทำของพระเจ้าเหมือนในอดีตได้อีกต่อไป   

“การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศไม่ใช่การกระทำของพระเจ้า มันไม่ใช่เหตุสุดวิสัย แต่เป็นสิ่งที่คาดเดาได้ “ โดยเขาได้เรียกร้องให้อุตสาหกรรมประกันภัยปรับตัวและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เพื่อลดผลกระทบจากภัยพิบัติที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศ

ความท้าทายของการมีสุขภาพที่ยืนยาว

ท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มขึ้น

นอกจากความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่เป็นประเด็นท้าทายของฟิลิปปินส์แล้ว   ประเด็นเรื่องสุขภาพก็มีความท้าทายไม่ต่างกัน  จากผลการสำรวจล่าสุด “ Manulife Asia Care Survey 2023” ของบริษัท แมนูไลฟ์ พบว่า การมีอายุยืนยาวด้านสุขภาพหรือระยะเวลาที่ผู้คนคิดว่าตนเองจะมีสุขภาพที่ดี กำลังเป็นข้อกังวลที่เกิดขึ้นในหมู่ชาวฟิลิปปินส์  โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคำนึงถึงต้นทุนทางการเงินของการเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรงท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ

ผลการสำรวจแสดงให้เห็นว่า ในขณะที่ชาวฟิลิปปินส์ที่ทำแบบสำรวจโดยเฉลี่ยคาดว่าจะเกษียณเมื่ออายุ 59 ปี แต่ในความเป็นจริง พวกเขาคาดว่าจะมีสุขภาพที่ดีต่อไปอีกเพียง 3 ปีหลังเกษียณอายุ ขณะที่คนรุ่นมิลเลนเนียลที่มีอายุระหว่าง 25 ปีถึง 34 ปีเป็นกลุ่มที่มองโลกในแง่ร้ายมากที่สุด พวกเขาเชื่อว่าจะมีสุขภาพดีไปจนถึงอายุ 55 ปีเท่านั้น ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอายุขัยของสุขภาพที่รับรู้กัน

Mr Rahul Hora  ประธานและซีอีโอบริษัท แมนูไลฟ์ ฟิลิปินส์ ให้ความเห็นว่า “ชาวฟิลิปปินส์ตระหนักดีว่า ปัญหาสุขภาพส่วนบุคคลไม่สามารถแยกออกจากผลกระทบทางการเงินของการเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรงได้ รวมถึงความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจในวงกว้าง แม้ว่าร่างกายของเราจะเปลี่ยนแปลงไปตามอายุที่มากขึ้น และสภาวะของเศรษฐกิจโลกอาจอยู่เหนือการควบคุมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ชาวฟิลิปปินส์สามารถปฏิบัติการเชิงรุกเพื่อเสริมสร้างสุขภาพและการเงินของพวกเขา ตลอดจนมีอนาคตที่มั่นคงทางการเงินมากขึ้นได้”

สุขภาพดี ลดความเสี่ยงค่ารักษา

หวั่น3โรค”หัวใจ เบาหวาน มะเร็ง”

ผลการสำรวจของแมนูไลฟ์ระบุว่า ความเสี่ยงทางการเงินที่เกิดจากสุขภาพไม่ดีนั้นอยู่ที่ค่ารักษาพยาบาล ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่สำหรับชาวฟิลิปปินส์จำนวนมาก  โดยชาวฟิลิปปินส์เกือบครึ่ง (49%) ของผู้ตอบแบบสำรวจ  กล่าวว่า ค่าใช้จ่ายในการรักษาคือความกังวลด้านการจัดการสุขภาพอันดับหนึ่งของพวกเขา ขณะที่ความกังวลอื่นๆ  ได้แก่ การสูญเสียรายได้หรืองานเนื่องจากการเจ็บป่วย (37%) และการไม่รู้ว่าใครจะดูแลพวกเขาในยามเจ็บป่วย (26%)  โดยผู้ตอบแบบสำรวจเกือบทั้งหมดมีความกังวลเกี่ยวกับการเจ็บป่วยอย่างน้อย 1 อย่าง โดยสามอันดับแรกได้แก่โรคหัวใจ โรคเบาหวาน และโรคมะเร็ง

การสำรวจของ Manulife ยังพบว่าประมาณหนึ่งในสามของชาวฟิลิปปินส์ที่ทำแบบสำรวจเชื่อว่า ปัจจุบัน พวกเขามีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดีเยี่ยม  ด้วยความกังวลเกี่ยวกับสุขภาพในปัจจุบันและสุขภาพที่ยืนยาว ชาวฟิลิปปินส์เกือบทั้งหมดที่ทำแบบสำรวจอ้างว่า พวกเขากำลังลงมือปฏิบัติเพื่อจัดการความเป็นอยู่ที่ดีด้วยการออกกำลังกาย (65%) การรับประทานอาหารที่ดีขึ้น (62%) การตรวจร่างกายเป็นประจำ (52%) และ การติดตามตนเองอย่างใกล้ชิด (50%)

สนใจประกันสุขภาพเพิ่มขึ้น

ผวา!เงินเฟ้อกระทบกระเป๋าเงิน

ด้วยความกังวลที่เกี่ยวกับสุขภาพ การเงิน และเศรษฐกิจ ชาวฟิลิปปินส์ที่ทำแบบสำรวจจึงให้ความสนใจประกันภัยอย่างชัดเจน (80%) สูงที่สุดในภูมิภาคเอเชีย (เฉลี่ย 68%) ส่วนใหญ่ที่สนใจเป็นเพราะความคุ้มครองความเสี่ยงทางการเงิน (54% ) แต่กระนั้น ก็พบว่า  ปัจจุบัน มีชาวฟิลิปปินส์ที่มีประกันภัย (59%) ต่ำที่สุดในภูมิภาค (เฉลี่ย 70%) อย่างไรก็ตาม ในอีก 12 เดือนข้างหน้า มีผู้ตอบแบบสำรวจ 87% บอกว่า ตั้งใจจะซื้อประกันภัย  โดยประกันภัย 3 อันดับแรกที่จะซื้อได้แก่ ประกันสุขภาพ(36%) ประกันชีวิต (34%) และการรักษาตัวในโรงพยาบาลหรือคนไข้ใน(IPD)  (33%)  

ผลการสำรวจระบุว่า แม้ชาวฟิลิปปินส์จะมีความกังวลเกี่ยวกับอนาคต โดยเฉพาะเรื่องสุขภาพ แต่ผู้ตอบแบบสำรวจส่วนใหญ่ (57%) รู้สึกมั่นใจในสถานภาพทางการเงินในปัจจุบันของตน  โดยมากกว่า 3 ใน 4 (77%) คาดหวังว่าสถานภาพทางการเงินจะดีขึ้นในอีก 12 เดือนข้างหน้า

ผู้ตอบแบบสำรวจเกือบ 3 ใน 4 แสดงความมั่นใจว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายทางการเงินได้ (72%) อาทิ การออมเพื่อการเกษียณ (55%) การจ่ายค่าดูแลสุขภาพและค่ารักษาพยาบาล (43%) และกรณีฉุกเฉิน (36%) ซึ่งการมองโลกในแง่ดีนี้ อาจสะท้อนให้เห็นถึงความรู้สึกสบายใจมากขึ้นหลังโควิด-19 หมดไป อย่างไรก็ดี  ความคล่องตัวของแรงงาน ได้รับผลกระทบจากการคุกคามของอัตราเงินเฟ้อ (75%) ซึ่งกลายเป็นความกังวลทางการเงินที่โดดเด่นที่สุดในหมู่ชาวฟิลิปปินส์ที่ทำการสำรวจมากกว่าประเทศอื่นๆที่สำรวจพร้อมกัน

สำหรับภัยคุกคามหลักอื่น ๆ  ที่มีการพูดถึง  ได้แก่ การชะลอตัวลงของเศรษฐกิจ (56%) และค่ารักษาพยาบาลที่กำลังเพิ่มขึ้น (38%) อย่างไรก็ดี ความวิตกกังวลเหล่านี้อาจมีประโยชน์เนื่องจากชาวฟิลิปปินส์ที่ทำแบบสำรวจ 81% กล่าวว่า เงินสดและเงินฝากธนาคารเป็นวิธีการหลักที่เชื่อว่าจะช่วยให้บรรลุเป้าหมายต่างๆได้

“Manulife Asia Care Survey” ได้สำรวจผู้บริโภคใน 7 ประเทศผ่านการสอบถามข้อมูลทางออนไลน์ ซึ่งทั้ง7 ประเทศได้แก่ จีนแผ่นดินใหญ่ ฮ่องกง อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และเวียดนาม โดยมีการสำรวจประชาชนทั้งหมด 7,224 คน ซึ่งมีอายุระหว่าง 25 ปี ถึง 60 ปี ในช่วงปลายเดือนธันวาคม 2565 และต้นเดือนมกราคม  2566 โดยในฟิลิปปินส์ มีการสำรวจประชาชน 1,004 คน ทั้งกลุ่มที่มีประกันภัยหรือกลุ่มที่ยังไม่มีประกันภัยที่ตั้งใจจะซื้อประกันภัย

เพิ่มเราเป็นเพื่อนได้แล้ววันนี้!....