เช้าวันนี้ 18 พฤษภาคม 2565 นายเรืองเดช ดุษฎีสุรพจน์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.สินมั่นคงประกันภัย ได้แจ้งต่อกรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ถึงการยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลางของบริษัทไปเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2565

โดยในรายงานที่แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยนั้นระบุว่า  ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงานคปภ.) ได้ออกประกาศหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขการขอคำยินยอมในการฟื้นฟูกิจการของบริษัทประกันวินาศภัย พ.ศ. 2565 เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2565 ซึ่งกำหนดในรายละเอียดกรณีการขอความยินยอมยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของบริษัทประกันวินาศภัย

ต่อมาคณะกรรมการของบริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน)(“บริษัทฯ”) ได้พิจารณาและมีมติเห็นชอบให้บริษัทฯยื่นขอความยินยอมเพื่อยื่นคำร้องขอต่อศาลให้ฟื้นฟูกิจการต่อสำนักงานคปภ.  บริษัทจึงได้ยื่นคำขอความยินยอมเพื่อยื่นคำร้องขอต่อศาลให้ฟื้นฟูกิจการต่อสำนักงานคปภ.  เมื่อวันที่  25 เมษายน 2565 นั้น

ภายหลังจากที่สำนักงานคปภ.ได้พิจารณาคำร้องดังกล่าวเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2565  สำนักงานคปภ.จึงได้ให้ความยินยอมเป็นหนังสือต่อบริษัทฯ ให้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลางภายใน 5 วันทำการ นับแต่วันที่ได้รับหนังสือดังกล่าว

ในการนี้ บริษัทฯขอเรียนให้ทราบว่าในวันที่ 17 พฤษภาคม 2565 บริษัทฯได้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลางแล้ว โดยบริษัทฯได้ขอชี้แจงสารระสำคัญของคำร้องขอฟื้นฟูกิจการดังนี้

  1. บริษัทฯ ในฐานะลูกหนี้เป็นผู้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลาง
  2. บริษัทฯ เสนอบริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) ลูกหนี้เป็นผู้ทำแผน
  3. แนวทางของแผนฟื้นฟูกิจการในเบื้องต้นได้แก่

3.1 การหาแหล่งเงินทุนใหม่และปรับโครงสร้างทุนโดยเฉพาะการเพิ่มทุนเพื่อระดมเงินจากผู้ร่วมทุนใหม่เพื่อนำมาใช้ในการชำระหนี้และ/หรือเพื่อปรับโครงสร้างทุนให้มีอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุนเป็นไปตามกำหมายกำหนด

3.2 การเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการชำระหนี้  ขยายระยะเวลาชำระหนี้  ปรับโครงสร้างหนี้  เสนอชำระหนี้ด้วยการแปลงหนี้เป็นทุน

3.3 การศึกษาและจัดเตรียมแผนและกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจประกันภัยให้เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ การฟื้นฟูกิจการเป็นไปเพื่อการแก้ไขปัญหาภาระหนี้สินค่าสินไหมทดแทนของผู้เอาประกันภัยที่ติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19) ด้วยวิธีการที่มีกฎหมายรองรับและให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย โดยบริษัทฯ จะดำเนินธุรกิจตามปกติอย่างต่อเนื่องในระหว่างที่เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ 

รวมถึงการให้ความคุ้มครองและสิทธิประโยชน์ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ ประกันภัยต่างๆเช่น ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจและภาคบังคับ  ประกันอัคคีภัย ประกันภัยเบ็ดเตล็ดและประกันขนส่งทางทะเล โดยบริษัทจะดูแลและชำระค่าสินไหมทดแทนตามที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์และชำระค่าใช้จ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจตามทางการค้าปกติ

บริษัทฯจะแจ้งให้ทราบถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับการฟื้นฟูกิจการของบริษัทฯ ควมถึงความคืบหน้าอื่นเพิ่มเติมต่อไป

 

เพิ่มเราเป็นเพื่อนได้แล้ววันนี้!....