อุทาหรณ์!! สำนักงานตัวแทนระยองเหลี่ยมมุม “ใคร” กันแน่!!

ยังไม่สิ้นเสียงกระหึ่ม!! ที่ดังมาจากเวที CEO Insurance Forum 2017 ซึ่ง “สำนักงาน คปภ.” เป็นเจ้าภาพผนึกภาคเอกชน ร่วมกันถกเถียงประเด็นร้อนขับเคลื่อนอุตสาหกรรมประกันภัยไทยรองรับเศรษฐกิจยุคติจิตอล เมื่อ 19 เมษายน 2560 ที่ผ่านมา ด้วยเสี้ยวชั่วโมงกลางงานสัมมนาวันนั้นได้มีประเด็นร้อนๆ กรณี “สำนักงานตัวแทนประกันชีวิตระยองโฉ่พลิ้วเบี้ยประกันลูกค้ากว่า 100 ล้าน” ดังกระฉ่อนขึ้นขัดกลางลำปล้อง ทำเอา “เลขาธิการคปภ.” อย่าง “ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ” ต้องมีอาการหัวคิ้วขมวดชนกันขึ้นมาทันที!!

เหมือนเป็น “เคสท้าทาย” การทำงานติดตามตรวจสอบ “คนกลาง” ของทั้ง สำนักงาน คปภ.และบริษัทประกันภัยภาคเอกชน ที่มาล้อมรุมโต๊ะระดมความคิดเห็นเพื่อหาวิธีและแก้ปัญหา “ความเชื่อถือไว้วางใจ” ในเรื่องการประกันชีวิตจากประชาชนที่ได้รับ “ผลกระทบ” จากธุรกิจประกันชีวิตทั้งจากอดีตที่ผ่านมาและกำลังจะดำเนินเป็นไปท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงบริบทการแข่งขันของตลาดที่พุ่งสู่ถนนดิจิตอลอย่างน่าหวาดเสียวในเวลานี้

จนเป็นที่มาของหัวข้อสัมมนากลุ่มย่อยในวันนั้น เรื่อง “การยกระดับพฤติกรรมทางการตลาดและการคุ้มครองสิทธิประโยชน์” ซึ่งเป็นประเด็นถกเถียงกันร้อนระอุพอสมควร…เพราะประเด็นหลักการประชุมหัวข้อนี้เป็นเรื่องของแนวทางและบทบาทหน้าที่ในการพัฒนาการกำกับและตรวจสอบ “คนกลางประกันภัย” และ การควบคุม “คุณภาพให้บริการ” การพัฒนามาตรฐานระบบการจัดการสินไหม และการจัดการเรื่องร้องเรียนด้านการประกันภัย รวมทั้งการส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจด้านการประกันภัยแก่ประชาชน

เข้าประเด็นเป๊ะ!! กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้นพอดี…กับการที่ประชาชน “คนระยอง” กลุ่มหนึ่งรวมตัวกันไปแจ้งความว่าถูก “ตัวแทนบริษัทประกันรายหนึ่ง” ขายกรมธรรม์ประกันชีวิตให้กับคนระยอง มูลค่ากว่า 100 ล้าน แต่ไม่ส่งเงินเข้าบริษัท พอลูกค้าตามทวงกรมธรรม์ กลับ “ปิด” บริษัทหนีแถมยังโยนบาปให้กับบริษัทประกันชีวิตต้นสังกัดรับผิดชอบแทนอีก

รายละเอียดของเหตุการณ์เอาแบบย่อๆ สรุปใจความได้ว่า เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2560 (วันเดียวกับที่คปภ.จัดงาน CEO Insurance Forum 2017) คุณศิริพร อ่อนสองชั้น (นาง) อายุ 45 ปี พร้อมด้วยคุณกนกพร ศรีกุล (นางสาว) อายุ 29 ปี พร้อมพวกรวม 7 คน เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.ยุทธชัย โพธิ์รุ่ง รอง ผกก.สอบสวน สภ.เมืองระยอง กรณีที่ถูกคุณจีรภา จันทะบูลย์ (นาง) ผู้จัดการภาคบริษัทประกันชีวิตชื่อดังแห่งหนึ่ง และเป็นเจ้าของสำนักงานตัวแทนระยอง เก็บเงินค่าเบี้ยประกันไปแล้วแต่ไม่ส่งให้กับบริษัทต้นสังกัดทำให้พวกเธอทั้งหลายได้รับความเสียหาย

คุณศิริพร สรุปสาระสำคัญในการแจ้งความไว้ว่า เมื่อเดือน มิถุนายน2558 คุณจีราภา ชักชวนเธอและครอบครัวทำประกันชีวิต จึงได้ทำไป 4 กรมธรรม์ รวมเป็นเงิน 400,000 บาท หลังจากนั้นก็ชวนเธอไปสอบเป็นตัวแทนประกัน ต่อมาวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2560 คุณจีรภา ก็มาชวนเธอและคุณกนกพร “ร่วมลงทุน” ในรูปแบบประกันชีวิตอีก โดยคราวนี้เธอและสามี ได้ร่วมลงทุนไปคนละ1 ล้านบาท รวมเป็น 2 ล้านบาท ส่วนคุณกนกพรร่วมลงทุนไปเป็นเงิน 3 ล้านบาท

การร่วมลงทุนครั้งนี้ “คุณจีรภา” ได้ออกใบเสร็จของบริษัทประกันชีวิตแห่งหนึ่งในนามของคุณจีรภา ผ่านไป 1 เดือน พวกเธอยังไม่ได้รับกรมธรรม์ เมื่อทวงถามถึงกรมธรรม์ประกันขีวิตดังกล่าว คุณจีรภาบอกว่ากำลังดำเนินการให้ จนวันที่ 3 เมษายน 2560 ที่ผ่านมา เธอได้เข้าไปที่สำนักงานระยอง พบว่า พนักงานกำลังเก็บของ และบอกว่า บริษัทจะปิดตัว เธอพยายามติดต่อคุณจีรภาก็ไม่สามารถติดต่อได้

คุณศิริพร กล่าวอีกว่า เธอและผู้เสียหายจึงมาแจ้งความดำเนินคดีไว้ โดยมีคุณสำลี (นาง)-คุณอมร สุขพัทธี (นาย) เสียเงินไปกว่า 500,000 บาท คุณสิทธิชัย-คุณคชาภรณ์ ปานุเวช เสียเงินไปคนละ 800,000 บาท รวมเป็น 1.6 ล้านบาท คุณพีรวัฒน์-คุณเพ็ญนภา เนตรสุวรรณ เสียเงิน 800,000 บาท คุณจักรพันธ์ คำนุชิต เสียเงินไป 4.5 ล้านบาท ซึ่งยังมีลูกค้าที่ “คุณจีรภา” เก็บเงินไปแล้วไม่ส่งให้กับบริษัทอีกจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายจำนวน 125 ล้าน

ซึ่งนั่น!! แน่นอนว่าเป็นเรื่องของ “คดีความ” ที่ทางด้าน พ.ต.ท.ยุทธชัย หลังจากรับแจ้งความแล้วก็จะประสานไปยังบริษัทประกันชีวิตต้นสังกัดที่ถูกกล่าวหาให้มาเจรจากับผู้เสียหายว่าจะมีการชดใช้กันอย่างไร โดยนัดเจรจากันในวันที่ 28 เมษายนนี้ต่อ และในท่าทีของ “ผู้บริหารระดับสูง” จากบริษัทประกันชีวิตดังกล่าวก็มีความยินดีที่จะเข้าร่วมรับผิดชอบในกรณีที่มีหลักฐานว่าเป็นการทำประกันชีวิตกับบริษัทจริง!! ไปแล้วเหมือน

จากกรณีนี้!! วิเคราะห์ในมุมของการกำกับดูแลและตรวจสอบ “คนกลาง” อันเป็นมุมที่เชื่อมโยงกับหัวข้อการสัมมนาร้อนๆ ระหว่างสำนักงานคปภ.และภาคบริษัทเอกชนที่กำลังระดมสมองกันอย่างเข้มข้นในเวลานี้ก็พอจะประเมินได้ว่า…ที่ผ่านมาค่อนข้างหละหลวม!! ในบางบริษัทพอสมควร เพราะเหมือนกับว่าขบวนการตรวจสอบพื้นฐานที่ควรจะมีขึ้นของ “เจ้าหน้าที่ตรวจสอบบริษัท” ในบางบริษัทยังทำงานกันไม่ชัด!! เคสใหญ่เบี้ยเป็นหลักแสนหลักล้านกลับไม่มีการตรวจสอบหรือสอบถามกลับไปยังลูกค้า

หรือหากจะให้อ้างอิงขั้นตอนการทำงานที่บอกว่า “รัดกุม” ตามที่ “คุณอรรถพล พิบูลธนพัฒนา” ผู้ช่วยเลขาธิการ สายตรวจสอบคนกลางประกันภัย สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงานคปภ.) ให้ทิศทางการทำงานมาว่า…เจ้าหน้าที่บริษัท “ต้อง” โทรศัพท์หรือหาทางติดต่อกับลูกค้าเพื่อ “ชี้แจงเงื่อนไขกรมธรรม์” ให้ได้!! และถ้าติดต่อก็จะมีปัญหาแบบนี้เกิดขึ้นน้อยหรือแก้ไขได้ทัน!!

เพราะก่อนหน้านี้ปัญหาลักษณะที่ “คนกลาง” ทั้งที่เป็น “ตัวแทน” และ “สำนักงานตัวแทน” จากหลายบริษัท (ในความเป็นจริงมีเกิดขึ้นเกือบทุกบริษัท) มีการ “หมุนเงิน” ลูกค้า…ทั้งในด้านการแอบอ้าง การปลอมแปลงหลักฐาน (ใบเสร็จชั่วคราว) ซึ่งเป็นใบเสร็จใบแรกที่วางไว้ให้ลูกค้าทันทีที่ “คนกลาง” รับเบี้ยประกันฯ จากลูกค้ามา (โดยทางปฏิบัติ…ต้องนำส่งเบี้ยลูกค้าให้กับบริษัทผู้รับประกันฯทันที) แล้วใช้วิธีการเอาตัวรอดเป็นเดือนๆ ไปด้วยการ “แจ้งหายใบเสร็จชั่วคราว” นั่นเอง…

สัปดาห์หน้ามาติดตามกันต่อ ว่าปัญหาที่มีโอกาสเกิดขึ้นกับทุกบริษัทประกันชีวิตวันนี้มันมี “ต้นเรื่อง” จากไก่หรือไข่ว่าใครเป็นสาเหตุกันแน่…!!