“เวียดนาม” ติด Top 5 ใช้จ่ายสุขภาพมากสุดในภูมิภาค eHealth วัยทำงานหนุน WEF แนะ ผลิตภัณฑ์ “เข้าถึง-เข้าใจ” ง่าย โอกาสปิดดีลขายง่าย

จากข้อมูลในรายงาน World Economic Forum (WEF) ที่ระบุว่า อัตราการใช้จ่ายกับเรื่องสุขภาพนับว่าเป็นหนึ่งในการลงทุนที่ประชากรทั่วโลกหันมาให้ความสำคัญมากขึ้น ตั้งแต่ที่มีการแพร่ระบาดของ COVID-19 แต่สำหรับข้อมูล WEF on ASEAN ที่เจาะลึกไปที่พฤติกรรมเกี่ยวกับเฮลท์แคร์ของประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN) ใน 6 ประเทศ คือ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม น่าสนใจตรงที่ ทีมวิจัย WEF ได้ประเมินไว้ตั้งแต่ปี 2018 ว่าประเทศเหล่านั้นกำลังใช้จ่ายกับสุขภาพอย่างบ้าคลั่ง

และคาดการณ์ด้วยว่า ในอีก 2 ทศวรรษข้างหน้าการใช้จ่ายกับ healthcare จะมากขึ้นเรื่อยๆ จนเพิ่มขึ้นอีก 70% เทียบกับในปี 2017 ที่ใช้จ่ายรวมทั้งหมด 420,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ

ทั้งนี้ มีข้อมูลที่น่าสนใจเพิ่มเติมจากบริษัทวิจัย Red Seer หนึ่งในบริษัทให้คำปรึกษาด้านการจัดการที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอินเดีย เกี่ยวกับ Top 5 ในอาเซียนที่มีการใช้จ่ายด้านสุขภาพมากที่สุด โดย ‘เวียดนาม’ กลายมาเป็นประเทศที่ทุ่มเงินไปกับ healthcare มากที่สุดในภูมิภาค คิดจากค่าใช้จ่ายต่อคนต่อ GPD (ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ) โดยค่าใช้จ่ายของเวียดนามใน healthcare อยู่ที่ 6% เทียบกับค่าเฉลี่ยของโลกอยู่ที่ 9% สูงที่สุดในประเทศอาเซียน โดย Top 5 ที่มีการสำรวจเรื่องค่าใช้จ่ายด้านนี้จากทั้งหมด 6 ประเทศอาเซียน ได้แก่

เวียดนาม – 6%
สิงคโปร์ – 5%
มาเลเซีย – 5%
ฟิลิปปินส์ – 4%
ไทย – 4%

สำหรับ ‘อินโดนีเซีย’ อยู่เป็นอันดับสุดท้ายที่ใช้จ่ายกับสุขภาพน้อยที่สุดในอาเซียนที่ 3%

ทางด้าน Roshan Raj, พาร์ทเนอร์ธุรกิจของ RedSeer ได้พูดว่า ข้อสังเกตหนึ่งจากการสำรวจครั้งล่าสุดนี้ คือ ข้อเสนอ เช่น โปรโมชั่น แคมเปญ และการสื่อสารกับผู้บริโภคเป็นส่วนสำคัญในการทำให้พวกเขาเข้าใจ และเห็นถึงผลประโยชน์ของการลงทุนด้านสุขภาพในผลิตภัณฑ์ต่างๆ โดยเฉพาะประกันสุขภาพ, ประกันชีวิต, ประกันอุบัติเหตุ

สำหรับเวียดนาม ส่วนหนึ่งที่ทำให้เป็นประเทศที่ใช้จ่ายด้านสุขภาพมากที่สุดในอาเซียน เพราะสัดส่วนประชากรกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงานมากเป็นอันดับต้นๆ ในอาเซียน (อายุประชากรเฉลี่ย 31 ปี) อีกทั้งมีอัตราการสูบบุหรี่สูง รวมไปถึงค่านิยมการทานอาหารฟาสต์ฟู้ดที่มากขึ้น แต่ที่น่าสนใจคือ ผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพของเวียดนามในบางบริษัทได้ออกเงื่อนไขที่ครอบคลุมปัญหาสุขภาพที่เกิดจากการสูบบุหรี่อย่างหนักโดยเฉพาะ หรือเน้นที่แพ็กเกจการรักษาเฉพาะโรคในราคาที่เข้าถึงง่าย

ขณะที่คนเวียดนามซึ่งเป็นประชากรวัยทำงานส่วนใหญ่ และใช้สมาร์ทโฟนเป็นสัดส่วนที่สูง ดังนั้น การเข้าถึงประกันหรือการใช้จ่ายด้านสุขภาพอื่นๆ ผ่านแอปพลิเคชั่น/เว็บไซต์ หรือที่เรียกว่า eHealth มีส่วนทำให้ตัวเลขการใช้จ่ายด้านสุขภาพของประชากรในเวียดนามค่อนข้างสูง

ทั้งนี้ RedSeer ไม่ได้พูดถึงเหตุผลของประเทศที่ใช้จ่ายด้านสุขภาพต่ำอย่างละเอียด เพียงแต่ระบุในรายงานว่า สิ่งสำคัญที่จะทำให้ประชากรให้ความสนใจกับสุขภาพ และรู้สึกอยากจะลงทุนกับสุขภาพมากขึ้น บริษัทด้านสุขภาพที่เกี่ยวข้องจำเป็นต้องมีการสื่อสารที่ง่าย เข้าถึงทุกวัย โดยเฉพาะภาษาประกันที่ต้องทำให้มันง่ายที่สุดเหมือนเราซื้อเสื้อผ้า

เช่นเดียวกับการวิเคราะห์ของ WEF ที่ระบุว่า ยิ่งผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพง่ายต่อการเข้าถึงและเข้าใจมากเท่าไหร่ โอกาสที่จะปิดดีลขายก็จะง่ายมากเท่านั้น อย่างในยุโรป, สหรัฐอเมริกา ในฐานะที่เป็นประเทศที่มีการใช้จ่ายด้านสุขภาพสูง ค่อนข้างให้ความสำคัญกับ digital health ที่ทั่วถึงทั้งประเทศ ตั้งแต่ การปรึกษาทางไกล, การรับใบสั่งแพทย์ออนไลน์, การรักษาเบื้องต้นออนไลน์, การซื้อผลิตภัณฑ์สุขภาพออนไลน์, การส่งเอกสาร-ยาด้วยโดรนแบบ one-day delivery ฯลฯ สิ่งเหล่านี้จะเพิ่มศักยภาพให้กับธุรกิจด้านสุขภาพ และเป็นโมเดลในอนาคตของประเทศในเอเชียด้วยเช่นกัน