พรูเด็นซ์ ฟาวน์เดชัน ประกาศรางวัลชนะเลิศ SAFE STEPS D-Tech Awards 2564

พรูเด็นซ์ ฟาวน์เดชัน (Prudence Foundation) องค์กรการกุศลของกลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียลในภูมิภาคเอเชียและแอฟริกา ร่วมกับสองพันธมิตรด้านมนุษยธรรม และเทคโนโลยี ได้แก สหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ และ เลอโนโว (Lenovo) ประกาศผลการแข่งขัน SAFE STEPS Disaster Tech (D-Tech) Awards ประจำปี พ.ศ. 2564 (2021 SAFE STEPS Disaster Tech (D-Tech) Awards) ซึ่งจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 โดยการแข่งขันระดับนานาชาตินี้มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมและผลักดันการสร้างสรรค์และต่อยอดเทคโนโลยีเพื่อการช่วยชีวิตทั้งก่อน ในระหว่าง และหลังการเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ

โดยทีม EcoWorth Tech จากประเทศสิงคโปร์ และ The Stimson Center จากสหรัฐอเมริกา เป็นผู้คว้ารางวัลชนะเลิศการประกวดในครั้งนี้ จากผู้เข้าร่วมแข่งขันฯ เกือบ 60 องค์กรทั่วโลก ก่อนคัดเลือกเหลือเพียง 8 ผลงาน ที่ได้เข้านำเสนอต่อคณะกรรมการผู้ทรงเกียรติทุกท่านผ่านระบบเสมือนจริง (virtual live) ในรอบสุดท้าย

มร.โดนัลด์ เคแนค ประธานกรรมการ พรูเด็นซ์ ฟาวน์เดชัน กล่าวว่าทางพรูเด็นซ์ ฟาวน์เดชัน ให้ความสนใจและตระหนักถึงความสำคัญของการเตรียมพร้อมและบรรเทาภัยพิบัติตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554 โดยภัยพิบัติทั่วโลกมากกว่าร้อยละ 50 เกิดขึ้นในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งรวมถึงประเทศจีน อินเดีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์

การแข่งขัน SAFE STEPS D-Tech Awards นับเป็นการขยายขอบเขตการทำงานขององค์กร สู่การช่วยเหลือและฟื้นฟูชุมชนที่ประสบกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ ผ่านการพัฒนาเทคโนโลยีและโซลูชันต่าง ๆ ที่จะสามารถป้องกันและช่วยชีวิตผู้คนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“เราเชื่อว่าเทคโนโลยีเพื่อรับมือกับภัยพิบัติ (Disaster Tech หรือ D-Tech) ควรเป็นหนึ่งในเทคโนโลยี ที่นักนวัตกรรม กลุ่มทุน และภาคธุรกิจต่าง ๆ จำเป็นต้องคำนึงถึงและให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก โดยการแข่งขันนี้จะเป็นเวทีที่จะสร้างและต่อยอดองค์ความรู้ ทักษะความสามารถ และงบประมาณสนับสนุน มาผสานรวมกันเพื่อส่งเสริมและผลักดันนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อรับมือกับภัยพิบัติต่าง ๆ ได้อย่างเต็มที่ อันจะนำไปสู่การสร้างสรรค์โลกที่ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น” มร.โดนัลด์ กล่าวเสริม

ในปีนี้ ผู้ชนะเลิศในประเภทองค์กรภาคภาคเอกชน ได้แก่ EcoWorth Tech จากผลงาน ฟองน้ำแอโรเจล คาร์บอนไฟเบอร์ (Carbon Fibre Aerogel หรือ CFA) ซึ่งทำจากวัสดุธรรมชาติต้นทุนต่ำ อาทิ วัสดุชีวมวลที่เหลือใช้ ฝายหมุนเวียน (renewable cotton) หรือขยะประเภทกระดาษ ที่มีความสามารถในการทําความสะอาดน้ำที่ปนเปื้อนน้ำมันซึ่งรั่วไหลออกมาได้เป็นอย่างดี รวมถึงยังสามารถนํากลับมาใช้ใหม่ได้ ตลอดจนเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากสามารถดูดซับน้ำมันได้ถึง 190 เท่าของน้ำหนักฟองน้ำ ส่งผลต่อการลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมของอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่ก่อให้เกิดมลพิษ

“SAFE STEPS D-Tech Awards ที่เราได้รับในวันนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นและเปิดโอกาสให้เราได้พบกับนักพัฒนานวัตกรรมและนักสิ่งแวดล้อมที่มีแนวคิดเหมือนกันจากทั่วโลก รวมถึงทำให้เราสามารถเข้าถึงแหล่งทุนสนับสนุน ซึ่งจะนำไปใช้พัฒนาและต่อยอดเทคโนโลยีและโซลูชันต่าง ๆ รวมถึงการดำเนินการทดสอบภายใต้สภาพแวดล้อมจริง รวมทั้งส่งเสริมให้เกิดกระบวนการนำกลับมาใช้ใหม่ (Upcycling) ต่อไป” มร.อานเดร สโตลซ์ ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ EcoWorth Tech กล่าว

ในขณะที่ The Stimson Center เป็นผู้ชนะในประเภทองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกําไร (non-profit category) ด้วยผลงานโซลูชันตรวจสอบเขื่อนแม่น้ำโขง ที่เป็นโซลูชันด้านภาพถ่ายดาวเทียม ซึ่งนำมายกระดับให้สามารถใช้ประโยชน์จากการตรวจจับข้อมูลระยะไกล เพื่อช่วยให้ชุมชนโดยรอบสามารถเตรียมความพร้อมล่วงหน้า ในกรณีที่อาจเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมหรือการหยุดชะงักของการผลิตจ่ายน้ำประปาเนื่องจาก
การดําเนินงานของเขื่อนต้นน้ำ

“การเข้าร่วมในการแข่งขัน SAFE STEPS D-Tech เป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่ามากสําหรับทีมงานของเรา ซึ่งเปิดโอกาสให้เราได้พบกับผู้เชี่ยวชาญที่ช่วยลับคมกลยุทธ์ ระดมความคิด สู่แนวทางและวิธีการพัฒนาและขยายการรองรับโซลูชันใหม่ ๆ โดยเราวางแผนที่นำเงินรางวัลไปใช้ปรับปรุงผลงานให้เข้ากับบริบทของท้องถิ่นต่าง ๆ ที่เราให้บริการอยู่ รวมถึงปรับปรุงอินเทอร์เฟซด้านภาษา เพื่อให้ผู้ใช้งานทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น” มร. ไบรอัน ไอเลอร์ ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ศูนย์วิจัยสติมสัน เซ็นเตอร์ และ หัวหน้าโครงการตรวจสอบเขื่อนแม่น้ำโขง กล่าว

โดยช่วงเวลานี้เรียกได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่จำเป็นและสำคัญที่สุดในการเร่งสร้างความพร้อมการรับมือต่อภัยพิบัติต่าง ๆ ให้กับสังคมและผู้คนในภูมิภาค อันสืบเนื่องมาจากวิกฤติการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่มีผู้ติดเชื้อรวมแล้วมากกว่า 37 ล้านคนทั่วภูมิภาคเอเชีย[3] และคาดว่าจะก่อให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจกว่า 2.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ

มร.อเล็กซานเดอร์ มาเธอู ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก สหพันธ์กาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ กล่าวว่า “เราขอชมเชยผู้เข้ารอบสุดท้ายและผู้ชนะเลิศทุกคนที่ได้นำเสนอนวัตกรรมและโซลูชันต่าง ๆ ที่มีความสำคัญและเป็นประโยชน์ต่อสถานการณ์ความท้าทายและภัยคุกคามด้านสิ่งแวดล้อมที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน อันมีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งผู้คนทั่วโลกกำลังประสบพบเจออยู่ในขณะนี้ นอกจากนี้เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับ SAFE STEPS D-Tech Awards เพื่อส่งเสริมให้โลกของเราปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ท่ามกลางสถานการณ์ภัยพิบัติที่อันตรายมากขึ้นในเอเชีย ซึ่งเป็นหนึ่งในภูมิภาคที่เสี่ยงภัยมากที่สุดในโลก”

“โซลูชันและเทคโนโลยีเพื่อรับมือกับภัยพิบัติ เริ่มมีความสําคัญอย่างยิ่งต่อการเสริมสร้างความแข็งแกร่งในการรับมือกับมหันตภัยต่าง ๆ” มร. สุมีร์ บาเธีย ประธานกลุ่มศูนย์ข้อมูลของเลอโนโว เอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า “ดังนั้นจึงเป็นเรื่องเร่งด่วนอย่างยิ่งที่บริษัทผู้นำด้านเทคโนโลยีทั่วโลก อาทิ เลอโนโว จะต้องใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีระดับโลกของพวกเขา มาร่วมมือกับผู้ประกอบการและองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร เพื่อพัฒนาโซลูชันที่ปรับให้เหมาะกับสถานการณ์ต่าง ๆ ในการเตรียมความพร้อม การฟื้นฟู และสร้างภูมิต้านทานต่อภัยพิบัติทางธรรมชาติให้ดีมากยิ่งขึ้น โดยมุ่งเน้นบนพื้นฐานการทํางานร่วมกันผ่านวิธีการต่าง ๆ ที่เราสามารถใช้พลังของเทคโนโลยีได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อการพัฒนาที่ดีขึ้นของทุกคน”

สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับการแข่งขัน SAFE STEPS Disaster Tech (D-Tech) Awards ประจำปี พ.ศ. 2564 สามารถเข้าดูได้ที่ https://www.safesteps.com/d-tech

เพิ่มเราเป็นเพื่อนได้แล้ววันนี้!....