เมืองไทยประกันชีวิต ชู 4 ผลิตภัณฑ์เด่นส่งท้ายปี

นายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วงโค้งสุดท้ายของปีถือเป็นช่วงของการวางแผนทางการเงินและมองหาผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดหย่อนภาษี ซึ่งประกันชีวิตถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจและสามารถตอบโจทย์ความต้องการดังกล่าวได้เป็นอย่างดี พร้อมยังได้รับความคุ้มครองชีวิตควบคู่กันไปอีกด้วย

ทั้งนี้บริษัทฯ จึงได้คัดสรรผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตมานำเสนอจำนวน 4 แบบ เพื่อตอบโจทย์และเป็นทางเลือกให้แก่ลูกค้าที่มองหาผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดหย่อนภาษี ประกอบด้วย “โครงการเมืองไทย รีเทิร์น รีไทร์” เหมาะสำหรับคนวัยทำงานที่กำลังวางแผนเตรียมเกษียณ โดยชำระเบี้ยประกันภัยสั้นเพียง 5 ปี และรับเงินบำนาญไว้ใช้หลังเกษียณแบบสบายๆ ตั้งแต่ครบอายุ 60 ปี ไปจนถึงครบอายุ 85 ปี สูงถึงปีละ 20% ให้คุณใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ แบบไม่มีสะดุด หรือแม้กระทั่งหากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันในช่วงเกษียณ ก็ยังการันตีการจ่ายเงินบำนาญไปจนครบ 15 ปี ให้แก่คนข้างหลังอีกด้วย ทำได้ตั้งแต่อายุ 20 – 55 ปี

“โครงการเมืองไทย คุ้มครองพิเศษ” ซึ่งมีให้เลือกทั้งหมด 3 แพ็กเกจ สามารถเลือกได้ตามระยะเวลาชำระเบี้ยประกันภัย ประกอบด้วย โครงการเมืองไทยคุ้มครองพิเศษ 1 ที่จ่ายเบี้ยน้อย แต่สามารถสร้างหลักประกันเงินล้านได้(1) โครงการเมืองไทยคุ้มครองพิเศษ 2 จ่ายเบี้ยสบายๆ 10 ปี โครงการเมืองไทยคุ้มครองพิเศษ 3 จ่ายเบี้ยสั้นๆ เพียง 7 ปี แต่รับเงินจ่ายคืนจนครบอายุ 90 ปี ทั้ง 3 แพ็กเกจจะเน้นความคุ้มครองตลอดชีพ และหากตกเป็นบุคคลทุพพลภาพสิ้นเชิงถาวรก็ไม่ต้องรับภาระชำระเบี้ยประกันภัย โดยทั้ง 3 แพ็กเกจนี้จะได้รับความคุ้มครองสุขภาพโรคร้ายแรงจากสัญญาเพิ่มเติมซีไอ เพอร์เฟค แคร์ ที่คุ้มครองโรคร้ายมากถึง 36 โรคร้ายแรง โดยให้ความคุ้มครองตั้งแต่ระยะเริ่มต้นอีกด้วย โดยทั้ง 3 แบบทำได้ตั้งแต่อายุ 20 – 55 ปี

โครงการเมืองไทย ซุปเปอร์ เซฟเวอร์ 25/16 เหมาะสำหรับผู้เริ่มวางแผนลดหย่อนภาษีที่ต้องการจ่ายเบี้ยสบายๆ ยาวถึง 16 ปี แต่ได้รับเงินจ่ายคืนทุกปี และหากตกเป็นบุคคลทุพพลภาพสิ้นเชิงถาวรก็จะได้รับการยกเว้นชำระเบี้ยประกันภัย ทำได้ตั้งแต่อายุ 1 เดือน – 65 ปี และ“แบบประกันภัย สมาร์ท รีเทิร์น 10/5” เหมาะสำหรับผู้ที่มีเป้าหมายแน่นอนและต้องใช้เงินก้อน โดยมีจุดเด่นอยู่ที่ชำระเบี้ยประกันภัยเพียง 5 ปี แต่คุ้มครองยาวถึง 10 ปี และมีเงินจ่ายคืนในปีกรมธรรม์ที่ 1-9 ปีละ 6% และในปีกรมธรรม์ที่ 10 รับเงินจ่ายคืน 500% รวมตลอดอายุสัญญารับเงินสูงสุดถึง 554% ทำได้ตั้งแต่อายุ 1 เดือน – 65 ปี

“บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าคัดสรรผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์ความต้องการและไลฟ์สไตล์ของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ภายใต้นโยบาย ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centric) ซึ่งบริษัทฯ ใช้เป็นกลยุทธ์หลักในการดำเนินธุรกิจมาโดยตลอดโดยผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่เรานำมาเป็นทางเลือกทั้ง 4 แบบในครั้งนี้ สามารถตอบโจทย์ได้ทั้งในเรื่องของความคุ้มครองชีวิตและรับสิทธิในการนำเบี้ยประกันภัยที่ชำระไปหักลดหย่อนภาษีตามหลักเกณฑ์ของกรมสรรพากรอีกด้วย ทำให้เราเชื่อว่าจะได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดีเช่นที่ผ่านมา” นายสาระ กล่าว

เพิ่มเราเป็นเพื่อนได้แล้ววันนี้!....