“แมกซี่ อินชัวรันส์”รุกดิจิตอลปิดฐานลูกค้าเดิมหายเจาะเพิ่มจัดโปรผ่อน0%


นายจิตวุฒิ ศศิบุตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท แมกซี่ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด หนึ่งในกลุ่มบริษัท มาสเตอร์กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น เอเชีย หรือ “เอ็มจีซี” เปิดเผยว่า ในปี 2560 ที่ผ่านมาผลการดำเนินงานสามารถสร้างเบี้ยประกันภัยรับรวมได้ราว 1,300 ล้านบาท มาจากการรับประกันภัยรถยนต์ 75% ทรัพย์สิน 20% และประกันชีวิตกับสุขภาพรวม 15% โดยตั้งเป้าการเติบโตในปี 2561 เพิ่มขึ้น 15% หรือจะทำเบี้ยประกันภัยรับอยู่ที่ 1,500 ล้านบาท

ด้วยกลยุทธ์เพิ่มช่องทางการขายผ่านดิจิตอล จากเดิมที่เน้นขายผ่านดีลเลอร์ เทเลมาร์เก็ตติ้ง และองค์กร ซึ่งมีลูกค้าอยู่ประมาณ 80,000 ราย ด้วยที่ผ่านมาทุกปีลูกค้าประกันภัยรถยนต์ป้ายแดงจะมีอัตราการต่ออายุกับบริษัทอยู่ 70% และหดหายไป 30% ซึ่งเชื่อว่าหลังจากบริษัทพัฒนาดิจิตอลแพลตฟอร์ม โดยเฉพาะระบบ peer to peer รวมถึงระบบการขายและบริการครบวงจร ซึ่งกำลังร่วมมือกับสตาร์ทอัพรายหนึ่งเสร็จพร้อมเปิดตัวในครึ่งปีหลัง จะเป็นส่วนสำคัญที่มาดึงลูกค้าเดิมที่หายไป 30% กลุ่มนั้นกลับมามากขึ้น และยังสามารถจัดโปรโมชั่นเพื่อสร้างฐานลูกค้าใหม่ให้เพิ่มขึ้นได้อีกช่องหนึ่งด้วย

“ปี 2561 นี้เราคงไม่ได้เน้นไปที่โปรดักส์ใหม่ เพราะเป็นเรื่องของบริษัทประกันภัยผู้ประกอบการ ส่วนเราเป็นโบรคเกอร์ผู้ขายจะเน้นไปที่การจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขายและพัฒนาช่องทางดิจิตอลที่จะมาปิดจุดที่หายไปของลูกค้าเดิม 30% ซึ่งจะมีทั้งเงินคืนหากไม่มีการเคลมและบอกต่อเพื่อนก็ได้รับแคชแบ็ก (cash back) โดยเฉพาะการจัดให้มีผ่อนเบี้ยประกันภัยศูนย์เปอร์เซ็นต์” นายจิตวุฒิ กล่าวและว่า

นอกจากนั้นหลังจากรัฐบาลมีการส่งเสริมให้สามารถนำเบี้ยประกันสุขภาพไปลดภาษีส่วนบุคคลธรรมดาได้อีก 15,000 บาท จึงเป็นโอกาสที่บริษัทฯ จะนำเสนอในส่วนการผ่านองค์กรได้มากขึ้น โดยมีแผนที่จะทำเป็นแพ็คประกันรถยนต์ กับประกันชีวิตและประกันสุขภาพ ควบคู่กันแบบครบวงจรให้กับลูกค้าเดิมทั้งหมด ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯมีพาร์ทเนอร์กลุ่มประกันชีวิตอยู่แล้ว 4 ราย คือ บมจ.เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต บมจ.ไทยสมุทรประกันชีวิต บมจ.กรุงเทพประกันชีวิต และเอไอเอ ประเทศไทย

อย่างไรก็ตามนายจิตวุฒิกล่าวตอนท้ายว่า ทิศทางการเติบโตของ แมกซี่ อินชัวรันส์ฯ จะล้อกับไปทิศทางการเติบโตของบริษัทแม่โดยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี ด้วยปีที่ผ่านมาบริษัทแม่สามารถสร้างผลประกอบการได้มากถึง 25,000 ล้านบาท และเตรียมจะเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ภายใน 2-3 ข้างหน้านี้

เพิ่มเราเป็นเพื่อนได้แล้ววันนี้!....