“กองทุนประกันชีวิต” เดินหน้าตามหา “เจ้าของเงิน” 9 แสนราย กว่า 1 พันล้านบาท เร่งประชาชนตรวจสอบสิทธิขอรับคืนด่วน!

เพิ่มเพื่อน

นายจรัญ สอนสวัสดิ์ ผู้จัดการกองทุนประกันชีวิต (กปช.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ประชาชนผู้เคยทำประกันชีวิตและผู้รับผลประโยชน์ หรือทายาทที่มีสิทธิได้รับเงินกรมธรรม์ล่วงพ้นอายุความ ตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติประกันชีวิต พ.ศ.2553 ขอรับเงินดังกล่าวคืนจากกองทุนประกันชีวิตเพียงส่วนน้อยร้อยละ 0.22 ของจำนวนผู้มีสิทธิได้รับเงินทั้งหมด และคิดเป็นร้อยละ 1.29 ของจำนวนเงินทั้งหมดที่มีอยู่กับกองทุนประกันชีวิต

โดยล่าสุดต้นปี 2563 ณ วันที่ 31 มกราคม กองทุนประกันชีวิตซึ่งจัดตั้งขึ้นเข้าสู่ปีที่ 12 มีเงินกรมธรรม์ที่ล่วงพ้นอายุความ ที่บริษัทประกันชีวิตจำนวน 22 บริษัท นำส่งเข้ามายังกองทุนทั้งหมด 1,213,314,533.60 บาท จาก 904,242 ราย และผู้มีสิทธิมารับเงินคืนไปแล้วเพียง 2,014 ราย คิดเป็นเงินคืนไปแล้ว 15,852,062.47 บาท ทำให้ปัจจุบันยังมีเงินกรมธรรม์คงเหลืออยู่อีก 1,197,462,471.13 บาท หรือยังมีผู้มีสิทธิไม่มารับเงินคืนอีก 902,228 ราย

นายจรัญกล่าวว่า สำหรับปีนี้กองทุนประกันชีวิตยังเดินหน้าต่อเนื่องในการประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางต่างๆ เพื่อให้ประชาชนรับรู้ว่าขณะนี้มีเงินกรมธรรม์ล่วงพ้นอายุความจำนวนหนึ่งอยู่ที่กองทุนประกันชีวิต และให้รีบตรวจสอบสิทธิของตนเอง โดยปัจจุบันมีหลายช่องทางทั้งที่คลิกเข้าโดยตรงที่เวปไซต์กองทุน www.lifeif.or.th หรือสแกนคิวอาร์โค้ดด้านล่างนี้ สำหรับเข้าเว็บไซต์กองทุนประกันชีวิต และบางคนที่ชอบใช้โทรศัพท์ก็สามารถติดต่อไปที่ 02-791-1333 ต่อ 51 ได้อีกทางด้วย

www.lifeif.or.th

“เราอยากให้พี่น้องประชาชนลองตรวจสอบสิทธิกันดู เพราะท่านอาจไม่รู้ว่า จากการที่ตัวเองเคยทำประกันชีวิตไว้นานแล้ว และไม่ได้ส่งต่อหรือลืมนำเช็คไปขึ้นเงิน หรือแม้กระทั่งเป็นกรณีที่ พ่อแม่ พี่น้อง ปู่ย่า ตายาย หรือญาติคนใดเคยทำประกันชีวิตแล้วแต่ไม่บอกใคร เมื่อวันเวลาผ่านไปจนสิ้นชีวิตไปแล้ว แต่ยังไม่มีใครไปรับเงินเอาประกันฯ จากบริษัทอีก จนล่วงพ้นมาอีก 10 ปี ซึ่งเงินดังกล่าวก็จะถูกส่งมาอยู่ที่กองทุนแทนและจะรอให้ผู้มีสิทธิมารับได้อีกภายใน 10 ปี ฉะนั้นตอนนี้เราเลยต้องขอให้รีบๆ มาตรวจสอบสิทธิกัน เพราะถ้ามีสิทธิเราก็จะรีบดำเนินการคืนเงินให้เร็วที่สุด” นายจรัญกล่าว

สำหรับเงินกรมธรรม์ล่วงพ้นอายุความที่มีกว่า 1 พ้นล้านบาทในกองทุนประกันชีวิตวันนี้นั้นมีสาเหตุมาจาก 4 กรณีใหญ่ๆ คือ 1. บริษัทประกันไม่สามารถติดต่อผู้เอาประกันชีวิตบางได้ เนื่องจากสาเหตุเช่น ย้ายที่อยู่แล้วมิได้แจ้งให้บริษัทประกันทราบ 2. ผู้เอาประกันชีวิตบางรายเสียชีวิตโดยมิเคยแจ้งให้ทายาท หรือผู้รับประโยชน์ทราบว่าตนได้ทำประกันชีวิตไว้ ทำให้ผู้รับผลประโยชน์หรือทายาทผู้เอาประกัน ไม่ได้เรียกร้องเงินผลประโยชน์ตามกรมธรรม์

สาเหตุที่ 3 คือผู้เอาประกันชีวิตบางรายไม่ส่งเบี้ยประกันชีวิตต่อ ทำให้กรมธรรม์ขาดความคุ้มครอง แต่ไม่ทราบว่ากรมธรรม์มีมูลค่าเงินสดเหลืออยู่  และสาเหตุสุดท้ายคือ ผู้เอาประกันได้รับเช็คแล้ว แต่ไม่นำเช็คไปขึ้นเงินจนลืม นั่นเอง

เพิ่มเราเป็นเพื่อนได้แล้ววันนี้!....