เมื่อเร็วๆ นี้ กองทุนประกันชีวิต (https://lifeif.or.th/) ได้กำหนด แผนยุทธศาสตร์ ไว้ 4 แผนด้วยกันในระยะ 5 ปี ตั้งปี 2566 ถึงปี 2570 มีแผนหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับนิเวศที่เอื้อประโยชน์ร่วมกันหรือ “อีโคซิสเต็ม” ระหว่างเครือข่ายและพันธมิตรธุรกิจของ กองทุนประกันชีวิต นั่นหมายความว่าจะเป็นการทำงานที่มีความสัมพันธ์กันทั้งธุรกิจที่เป็นภาคธุรกิจประกันภัย และที่ไม่ใช่ภาคธุรกิจประกันภัยด้วย
ซึ่งการทำงานเชิงรุกตามแนวนโยบายแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี ของกองทุนประกันชีวิตนับจากไปจะเริ่มตั้งแต่แผนปฏิบัติการปี 2566 เริ่มจากการทำงานที่เกี่ยวข้องกับภาคธุรกิจประกันภัยก่อน โดยทางกองทุนประกันชีวิตได้มีการประชุมกับภาคธุรกิจเอกชนแล้วและ ขอความร่วมมือกับบริษัทประกันชีวิต ทั้งหมดในการที่จะ “เอื้อประโยชน์” ร่วมกันบนหลักการเพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน
แนวทางปฏิบัติมี 3 เรื่อง เรื่องที่ 1 เป็นเรื่องการ ตามหาเจ้าของเงินล่วงพ้นอายุความ ในมุมของการส่งเงินที่ตกค้างอยู่กับบริษัทบริษัทประกันชีวิต หรือเงินที่บริษัทเก็บไว้รอเจ้าของเงินไปรับ 10 ปี ก่อนที่จะส่งเข้ามายังกองทุนฯ โดยทางกองทุนฯ ได้ขอความร่วมมือจากบริษัททั้งหมดให้ช่วยติตามเจ้าของเงินไปรับก่อนให้ได้มากที่สุดซึ่ง ไม่ต้องรอให้ครบ 10 ปีแล้วส่งเข้ากองทุนฯ ให้ไปติดตามกันต่อในสถานะ เงินกรมธรรม์ล่วงพ้นอายุความ
กรณีนี้ ทางกองทุนฯ ได้หารือกับบริษัทประกันชีวิตไปแล้ว พร้อมมีข้อเสนอขอความร่วมมือให้บริษัทต้นสังกัดเปิดโอกาสให้คนกลาง หรือตัวแทนประกันชีวิต เข้าค้นหาข้อมูลผู้เอาประกันกลุ่มเจ้าของเงินได้ เพื่อบูรณาการให้เป็นการทำงานเชิงรุก เปลี่ยนเงินคืนนี้ให้มาเป็นเบี้ยประกันชีวิตรายใหม่ ซึ่งจะเป็นการสร้างความคุ้มครองเพิ่มเติมให้กับเจ้าของเงินได้โดยการทำงานนี้จะเอื้อประโยชน์ทั้ง บริษัท ตัวแทน และประชาชนเจ้าของเงิน
เรื่องที่ 2 เป็นเรื่องที่ต่อเนื่องจากเรื่องแรก ด้วยตามกฎหมายเงินกรมธรรม์ล่วงพ้นอายุความ มาตรา 52 ระบุให้บริษัทต้องส่งเงินผลประโยชน์ตามกรมธรรม์ต่างๆ ที่ไม่มีผู้ไปรับเกิน 10 ปีจากบริษัทเข้ากองทุนฯ ทันทีหรือไม่เกิน 1 เดือน นับจากครบ 10ปี ถ้าเลยวันไปจะต้องถูกเสียค่าปรับ
ในเรื่องนี้ทางกองทุนฯ ก็ได้ชี้แจงต่อบริษัทประกันชีวิตทั้งหมด เพื่อให้ทราบว่านับจากนี้ไปทางบริษัทสามารถตรวจสอบระยะเวลาการส่งเงินเข้ากองทุนฯ ผ่านโปรแกรมที่กองทุนพัฒนาขึ้นมารองรับได้ เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียเงินค่าปรับเป็นจำนวนมากมายต่อไป
เรื่องที่ 3 เป็นเรื่องสำคัญเกี่ยวกับการสร้างทักษะความรู้เกี่ยวกับการประกันภัยและการประกันชีวิตให้กับบริษัทประกันชีวิต โดยทางกองทุนประกันชีวิตจะเข้าไปศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลร่วมกับ สำนักงาน คปภ. อย่างเช่นอัตราความพอเพียงของเงินกองทุนของแต่ละบริษัทเป็นอย่างไร เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการที่บริษัทจะไปต่อไม่ได้
ดังนั้นในแผนปฏิบัติงานปี 2566 ที่จะมาถึงนี้ของกองทุนประกันชีวิตมุ่งเน้นเป็นแนวเชิงรุกมากขึ้น และมุ่งหวังให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ของกองทุนฯ ในแง่การช่วยส่งเสริมธุรกิจและคุ้มครองสิทธิผู้เอาประกันให้เต็มที่ยิ่งขึ้นนั่นเอง
#กองทุนประกันชีวิต
#ส่งเสิรมธุรกิจ
#คุ้มครองสิทธิผู้เอาประกัน
เพิ่มเราเป็นเพื่อนได้แล้ววันนี้!....
ทีมงาน INN WHY? รายการเพื่อผู้บริโภค ร่วมปฏิวัติความคิด ปรับเปลี่ยนชีวิต ก้าวสู่ความมั่นคง หลังเกษียณ
ติดตามเราได้ที่ไลน์แอด @INNWHY.TV หรือ Facebook.com/INNWHY.TV และ Youtube.com/c/innwhy
Contact us : INNWHY31@gmail.com