สดช. เวิร์คช้อปเดินหน้าจำลองการให้บริการเทคโนโลยีดิจิทัลสำหรับคนพิการ ระบุ 2 รูปแบบ การใช้คูปอง และเงินสนับสนุน คนพิการต้องการมากสุด ด้าน มธบ.ทีมที่ปรึกษาโครงการ  เตรียมสรุปผลการจำลอง ข้อเสนอแนะ ปัญหาและอุปสรรคในการใช้งาน เพื่อจัดทำเนื้อหาสาระใน(ร่าง)แนวทางและรูปแบบการให้บริการเพื่อสนับสนุนการเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลสำหรับคนพิการ คาดใช้เวลาแล้วเสร็จ 1-2 เดือน ก่อนเสนอครม.ต่อไป

สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จัดประชุมอบรมเชิงปฎิบัติการเพื่อจำลองการใช้บริการตามแนวทางและรูปแบบการให้บริการเพื่อสนับสนุนการเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลสำหรับคนพิการ  เมื่อวันที่ 3 เม.ย.2565 ที่โรงแรม ทีเค.พาเลช แอนด์ คอนเวนชั่น โดยมี นายภุชพงค์ โนดไธสง  เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) เป็นประธานกล่าวเปิดงาน และ น.ส.รัตนา จรูญศักดิ์สิทธิ์  ผู้อำนวยการกองขับเคลื่อนดิจิทัลเพื่อสังคม กล่าวรายงาน พร้อมด้วย ดร.ชัยพร เขมะภาตะพันธ์ คณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีและวิศวกรรมศาสตร์ (CITE) มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (มธบ.) หรือ DPU หน่วยงานผู้รับผิดชอบโครงการ และตัวแทนผู้พิการเข้าร่วมมากกว่า 150 คน จาก 50 กว่าจังหวัดทั่วประเทศ

นายภุชพงค์  กล่าวว่า การสนับสนุนให้ผู้พิการได้เข้าถึงและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลนั้น ทางกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมได้มีการดำเนินการมาอยู่แล้ว เพียงแต่ในอดีตการจะจัดสรรอุปกรณ์ให้คนพิการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นคนพิการทางการมองเห็น คนพิการทางการได้ยิน ครพิการทางการเคลื่อนไหว และคนพิการที่มีความบกพร่องทางสติปัญญาต่าง ๆ นั้น กว่าจะนำไปสู่ในทางปฏิบัติจริง อุปกรณ์ที่ได้มาอาจจะตกรุ่น ไม่ทันสมัย  อีกทั้งขั้นตอนการดำเนินการก็อาจจะไม่สะดวกติดข้อจำกัดทางกฎระเบียบและกฎหมายต่าง ๆ

ทั้งนี้ ทางกระทรวงฯ จึงได้มีมอบหมายให้ทาง สดช. ซึ่งได้มีทีมคณะทำงานจากมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ หน่วยงานที่รับผิดชอบโครงการดังกล่าว ในการศึกษาบริบทจากต่างประเทศว่ามีกระบวนการอย่างไร ให้กลุ่มผู้พิการทุกคนได้เข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลได้เท่าเทียมกับคนปกติ เพื่อนำไปสู่การปรับปรุง (ร่าง) แนวทางและรูปแบบการให้บริการเพื่อสนับสนุนการเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลสำหรับคนพิการ

“การประชุมอบรมเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้ เป็นการจำลองการให้บริการใน 2 รูปแบบจาก 4 รูปแบบที่คนพิการมองว่าเป็นแนวทางที่จะช่วยให้พวกเขาเข้าถึงการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลได้ นั้นคือ การสนับสนุนคูปอง และการสนับสนุนเงินช่วยเหลือ ซึ่งทั้ง 2 แนวทางนี้หลังจากตัวแทนผู้พิการทั้ง 150 กว่าคนได้ทดลองใช้แล้วทีมที่ปรึกษาจากมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์จะสรุปผลเพื่อจัดทำร่างดังกล่าว ซึ่งเป็นร่างที่จัดทำขึ้นโดยได้รับความคิดเห็น และประชาพิจารณ์จากผู้พิการในทุกกระบวนการ ดังนั้น เชื่อว่าร่างดังกล่าวจะแล้วเสร็จเร็วๆ นี้ก่อนจะนำเสนอในรัฐบาลชุดถัดไป พี่น้องคนพิการจึงเชื่อมั่นได้ ร่างดังกล่าวจะช่วยให้คนพิการได้เข้าถึงการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอย่างเท่าเทียมแน่นอน” นายภุชพงค์  กล่าว

ด้าน ดร.ชัยพร ในฐานะหัวหน้าที่ปรึกษาของโครงการ กล่าวว่าจากการประชุมครั้งแรกที่คนพิการได้เลือกการสนับสนุนคูปอง และสนับสนุนเงินช่วยเหลือ เพื่อให้พวกเขาได้เข้าถึงการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลมาสู่การจำลองในครั้งนี้ อันทำให้ได้เห็นถึงรูปแบบการปฏิบัติที่สามารถทำได้จริง รวมถึงมุมมอง ปัญหา และอุปสรรคของผู้พิการในการใช้คูปอง และเงินสนับสนุนว่าควรจะดำเนินการอย่างไร

ดร.ชัยพร กล่าวต่อว่าในการจำลองการใช้คูปอง และการสนับสนุนเงินช่วยเหลือ พบว่า คนพิการได้มีข้อเสนอ และคำถามมากมาย เช่น การประชาสัมพันธ์ควรมีการดำเนินการให้ทั่วถึง  หรือการเขียนรายละเอียดว่ารูปแบบไหนสามารถใช้คูปองได้ และสามารถใช้คูปอง เงินช่วยเหลือซื้ออุปกรณ์ หรือเครื่องมือ หรือแพลตฟอร์มอะไรได้บ้าง และตอนนี้คนพิการส่วนหนึ่งอยากได้คูปองใช้สำหรับกลุ่มหรือชมรมร่วมด้วย ซึ่งตามหลักของการให้ช่วยเหลือทั้งในเรื่องคูปอง หรือสนับสนุนเงินช่วยเหลือจะเป็นไปในรูปแบบอุปกรณ์ส่วนบุคคล เพื่อให้ทุกคนได้เข้าถึงการใช้เทคโนโลยีอย่างเท่าเทียม อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอทั้งหมดของคนพิการ จะนำไปสู่การสรุปเพื่อกำหนดใน (ร่าง) แนวทางและรูปแบบการให้บริการเพื่อสนับสนุนการเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลสำหรับคนพิการ

“ทุกๆ ข้อสอบถาม ความคิดเห็นจากคนพิการ จะนำไปสู่การจัดทำ (ร่าง) แนวทางและรูปแบบการให้บริการเพื่อสนับสนุนการเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลสำหรับคนพิการ เพื่อให้ได้ข้อดีข้อเสียที่ชัดเจนสำหรับคนพิการ ปัญหา อุปสรรค และแนวทางที่สามารถกระทำได้   ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 1-2 เดือนนี้ ก่อนจะเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป ดังนั้น อยากให้คนพิการเชื่อมั่นว่าร่างดังกล่าว จะช่วยให้คนพิการทุกกลุ่ม อาทิ กลุ่มคนพิการทางสายตา การได้ยิน การเคลื่อนไหว และสติปัญญา สามารถเข้าถึงการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอย่างทั่วถึง และเท่าเทียม”ดร.ชัยพร กล่าว

ด้านนางต๋อย ไชยทอง เลขาชมรมการดำรงชีวิตอิสระคนพิการศรีสะเกษ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่าตนและสามี ซึ่งมีความพิการได้เข้าร่วมโครงการ เพราะต้องการได้รับการสนับสนุนเครื่องมืออุปกรณ์คอมพิวเตอร์ เพื่อนำไปใช้ในชมรม ซึ่งปัจจุบันชมรมมีสมาชิกกว่า 200 คน แต่มีคอมพิวเตอร์เพียง 2 เครื่อง และเป็นคอมพิวเตอร์มือสอง เมื่อมีการจัดทำโครงการดังกล่าว และเปิดโอกาสให้ผู้พิการได้ใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์สมัยใหม่ ในการเข้าถึงแหล่งความรู้ หรือการหางานจะช่วยเติมเต็มศักยภาพของผู้พิการมากขึ้น

“เบื้องต้นในการทดลองใช้ ต้องยอมรับว่าเรามีข้อจำกัดเรื่องการใช้คอมพิวเตอร์ เพราะไม่ได้มีการใช้บ่อย ยกเว้นในการหาองค์ความรู้ หรือใช้ทำกิจกรรมต่างๆ กันผู้พิการ อีกทั้งอุปกรณ์มือถือของเราก็เข้าระบบได้ค่อนข้างยาก ดังนั้น โดยส่วนตัว เชื่อว่านี่เป็นระบบการทดลอง ปัญหาหรืออุปสรรคในวันนี้จะสะท้อนให้ทางทีมที่ปรึกษา คณะทำงานได้นำไปจัดทำ (ร่าง) แนวทางและรูปแบบการให้บริการเพื่อสนับสนุนการเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลสำหรับคนพิการ ที่เกิดจากความต้องการของผู้พิการจริง” นางต๋อย กล่าว

เพิ่มเราเป็นเพื่อนได้แล้ววันนี้!....