ผนึกกำลังขับเคลื่อนประกันภัยตะกาฟุล  มาเลเซีย”ฮับ”ประกันภัยตะกาฟุล MOU อินโดนีเซียแลกเปลี่ยนโนฮาวน์  แบงก์ชาติมาเลเซียชี้ ผู้ประกอบการต้องเพิ่มความเชี่ยวชาญ เฟ้นหาโมเดลธุรกิจที่เหมาะสมเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรับประกันภัย กระตุ้นการเติบโต เพิ่มมาร์เก็ตแชร์ประกันภัยตะกาฟุลในตลาดโลกจากปัจจุบันมีสัดส่วนแค่ 1%เท่านั้น  

เว็บไซต์ AsiaInsuranceReview.com รายงานว่า สมาคมประกันภัยตะกาฟุลแห่งมาเลเซีย (MTA) ของมาเลเซียและ Secretariat of Asosiasi Asuransi Syariah Indonesia (AASI)ของอินโดนีเซียได้ลงนามบันทึกข้อตกลง(MOU) ว่าด้วยความร่วมมือในการแบ่งปันความรู้  การฝึกอบรม  แลกเปลี่ยนข้อมูลอัจฉริยะ และให้คำปรึกษาในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการเงินอิสลามและประกันภัยตะกาฟุล(ประกันภัยเพื่อชาวมุสลิม)ระหว่าง 2 ประเทศ  โดยพิธีลงนามดังกล่าวจัดขึ้นในงาน Takaful Rendezvous ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซียเมื่อวันที่  27 กันยายน 2566  

                Radzuan Mohamed ซีอีโอ MTA กล่าวว่า ข้อตกลงดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่ออำนวยความสะดวกในการแลกเปลี่ยนความรู้และถ่ายทอดความเชี่ยวชาญทางเทคนิค และสร้างความสัมพันธ์ระหว่างธุรกิจประกันภัยชารีอะห์ (Sharia)และประกันภัยตะกาฟุลระหว่างประเทศ นอกจากนี้ยังจะมุ่งเน้นไปที่การเงินอิสลามในการวิจัยและยกระดับความสัมพันธ์ทางวิทยาศาสตร์กับสถาบันการศึกษาผ่านการจัดทำวารสารร่วม การประชุม และการประชุมเชิงปฏิบัติการ

“อีกประเด็นที่สำคัญของ MOU นี้ คือการแนะนำและส่งเสริมคนกลางนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันภัยตามมูลค่าในระดับสากล” เขากล่าว

Rudy Kamdani ประธาน AASI กล่าวว่า ข้อตกลงดังกล่าวถือเป็นก้าวย่างที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากในการยกระดับศักยภาพการเงินอิสลามและประกันภัยตะกาฟุล ไม่ใช่แค่ภายในอาเซียนเท่านั้นแต่ในระดับโลกด้วย

“เราเชื่อว่าความร่วมมือในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองสมาคม เนื่องจากเราทุกคนทราบดีว่ามาเลเซียเป็นแนวหน้าในการพัฒนาประกันภัยตะกาฟุลและเป็นที่รู้จักในฐานะศูนย์กลางหรือฮับ(Hub)สำหรับแนวทางปฏิบัติและความรู้ที่ดีที่สุดด้านการเงินอิสลาม ดังนั้นสิ่งนี้จึงสามารถสร้างโอกาสมากขึ้นระหว่างทั้งสองฝ่าย” Kamdani ให้ความเห็น

แบงก์ชาติมาเลย์กระทุ้งผู้ประกอบการ

เพิ่มความเชี่ยวชาญ/คาปาซิตี้หนุนตลาดโต

สำหรับอุตสาหกรรมประกันภัยตะกาฟุลของมาเลเซียกำลังส่งเสริมคนกลางนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันภัยตะกาฟุลตามมูลค่าเพื่อกระตุ้นนวัตกรรมและสนับสนุนการพัฒนาประกันภัยตะกาฟุล เพราะแม้ว่าตลาดประกันภัยตะกาฟุลในมาเลเซียจะมีการเติบโตในปีที่ผ่านมา แต่ผู้ประกอบการต้องเผชิญกับความท้าทายหลากหลายประการในการสร้างสรรค์นวัตกรรมและขยายขนาดธุรกิจของตน

Suhaimi Ali ผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารกลางมาเลเซีย (Bank Negara Malaysia)  กล่าวว่า “ขนาดของอุตสาหกรรมประกันภัยตะกาฟุลได้ขยายตัวขึ้นเกือบสามเท่าจากระดับเมื่อทศวรรษที่แล้ว  การเติบโตดังกล่าวเป็นผลมาจากการรับรู้ที่เพิ่มขึ้นของประชาชนเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ประกันภัยตะกาฟุล และระบบนิเวศทางการเงินอิสลามที่ช่วยสนับสนุนอีกทาง”

อย่างไรก็ดี Ali กล่าวว่า อุตสาหกรรมประกันภัยตะกาฟุลกำลังเผชิญกับความท้าทายที่สำคัญในการเพิ่มความเชี่ยวชาญเพื่อขยายขนาดของธุรกิจรวมไปถึงการค้นหาโมเดลทางธุรกิจที่เหมาะสม ซึ่งความท้าทายเหล่านี้กลายเป็นอุปสรรคสำหรับอุตสาหกรรมในย่างก้าวที่ดีขึ้นในการแก้ไขภูมิทัศน์การคุ้มครองทางสังคมตลอดจนอำนวยความสะดวกในการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นระบบสู่เศรษฐกิจสีเขียว

ปัจจุบัน มีผู้ให้บริการประกันภัยตะกาฟุลมากกว่า 330 รายใน 47 ประเทศทั่วโลก  โดยสินทรัพย์ประกันภัยตะกาฟูลทั่วโลกคาดว่าจะมีมูลค่า 7.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ  เกือบสองเท่าเมื่อเทียบกับปี 2558

“การบรรลุถึงความสมบูรณ์ของตลาดที่มากขึ้นยังคงเป็นการเดินทางที่ยาวนาน เนื่องจากส่วนแบ่งการตลาดของประกันภัยตะกาฟูลในปัจจุบันมีสัดส่วนเพียงแค่ 1% เมื่อเทียบกับตลาดประกันภัยทั่วโลกเท่านั้น”

Ali  กล่าวว่า ผู้ประกอบการประกันภัยตะกาฟุลควรแนะนำผลิตภัณฑ์ประกันภัยตะกาฟุลตามมูลค่าเพื่อตอบสนองความต้องการทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ

“ผลลัพธ์ที่สำคัญที่เราคาดหวังว่าจะได้เห็นคือความพร้อมและการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ประกันภัยตะกาฟุลที่มากขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการการคุ้มครองของสังคม”

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการประกันภัยตะกาฟุลควรใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและสภาพแวดล้อมด้านกฎระเบียบที่ผ่านสนามทดลอง( Sandbox ) ก่อนเริ่มบังคับใช้จริง ด้วยความคิดริเริ่มดังกล่าว หน่วยงานกำกับดูแลมีความกระตือรือร้นที่จะอำนวยความสะดวกให้กับโมเดลทางธุรกิจเชิงนวัตกรรมทั้งจากผู้ประกอบการรายใหม่และผู้ประกอบการที่ทำตลาดอยู่ในปัจจุบัน

“ประเทศอื่นๆ กำลังทำงานเกี่ยวกับกฎระเบียบที่จำเป็นเพื่อให้สามารถเสนอขายทุนประกันภัยและการมีส่วนร่วมที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ของภาคประกันภัยตะกาฟุล  ซึ่งในมาเลเซีย  ผู้ประกอบการประกันภัยตะกาฟุลก็ต้องการความเชี่ยวชาญและความสามารถที่เพิ่มมากขึ้นเพื่อสามารถรองรับการเติบโตและการขยายตัวของอุตสาหกรรมประกันภัยตะกาฟุลในประเทศอื่นๆได้”

Ali  กล่าวอีกว่า ผู้ประกอบการประกันภัยตะกาฟุลควรจดจำความสำคัญของการปฏิบัติตามวัตถุประสงค์ของชาริอะฮ์

“การบูรณาการตามหลักการชาริอะฮ์และการเป็นคนกลางที่นำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันภัยตามมูลค่าเพื่อบริหารจัดการกองทุนตะกาฟูลไม่เพียงแต่ถูกคาดหวังเท่านั้น แต่ยังมีความสำคัญต่อความก้าวหน้าของอุตสาหกรรมประกันภัยตะกาฟุลอีกด้วย”

อย่างไรก็ตาม การปฏิบัตติตามข้อกำหนดของหน่วยงานกำกับดูแลอาจเป็นเรื่องท้าทายสำหรับผู้ประกอบการประกันภัยตะกาฟุล

Rafick Khan  ซีอีโอมิวนิก รี กล่าวในงาน Takaful Rendezvous ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ว่า “การปฏิบัติตามหลักการทางการเงินของอิสลามนั้นดูเป็นเรื่องง่ายก็จริง แต่ก็มีการควบคุมที่เข้มงวดมาก  ส่งผลทำให้ผู้ประกอบการประกันภัยตะกาฟุลมีต้นทุนเพิ่มขึ้นเพราะต้องมีสายการกำกับดูแลหลักการทางการเงินอิสลามแยกออกไปต่างหาก”

เขากล่าวอีกว่า บริษัทประกันภัยตะกาฟุลต้องได้รับอนุญาตให้ใช้โมเดลทางธุรกิจที่แตกต่างกัน และไม่จำกัดอยู่เพียงโมเดลวาคาละห์ (wakalah)

“เราจำเป็นต้องค้นหาโครงสร้างที่สนับสนุนผลิตภัณฑ์ของบริษัทในการดำเนินงานและมีประสิทธิภาพจากมุมมองด้านภาษีและเงินทุน หลายคนกำลังดิ้นรนเนื่องจากปัญหาด้านเทคนิคและโครงสร้างเพื่อให้บรรลุการดำเนินงานที่คุ้มค่า ขณะที่ผู้กำกับดูแล (เผชิญกับความท้าทาย) ในการหาวิธีที่จะคลี่คลายกระบวนการประกันภัยที่ผ่านมา” Khan กล่าวในตอนท้าย

 

เพิ่มเราเป็นเพื่อนได้แล้ววันนี้!....