BCG บริษัทที่ปรึกษาระดับโลกชี้ โอกาสของประกันสุขภาพในเอเชียมีเพียบ จากฐานผู้บริโภคกลุ่มใหญ่ที่เป็นเป้าหมายทั้งกลุ่มที่ยังไม่ได้รับการตอบสนองอย่างเพียงพอ กลุ่มที่ทรมานกับโรคเรื้อรังหรือมีประวัติทางการแพทย์ เปิดช่องบริษัทประกันสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ เพื่อดิสรัปและเป็นผู้นำตลาด กางข้อมูลประกันสุขภาพโตเร็วสุด ไซส์ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ครองมาร์เก็ตแชร์25-35% ของเบี้ยรวม กลายเป็นไลน์ธุรกิจหลักสำหรับประกันชีวิต
เว็บไซต์ AsiaInsuranceReview.com รายงานว่า บริษัท Boston Consulting Group (BCG) บริษัทที่ปรึกษาด้านการจัดการระดับโลกระบุในบทความ เรื่อง “จับโอกาสการประกันสุขภาพในเอเชีย: Capturing the Health Insurance Opportunity in Asia” ที่ได้นำเผยแพร่บนเว็บไซต์ BCG โดยชี้ให้เห็นว่า สุขภาพได้กลายเป็นสายธุรกิจหลักสำหรับธุรกิจประกันภัยโดยเฉพาะบริษัทประกันชีวิต เป็นผลมาจากขนาดที่สำคัญในการจัดจำหน่าย ซึ่งปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่เน้นดูแลสุขภาพมีสัดส่วนประมาณ 25–35% ของเบี้ยประกันภัยรับรวม และเป็นหนึ่งในสายผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่เติบโตเร็วที่สุด โดยทั่วไปการประกันสุขภาพทั่วภูมิภาคจะประกอบด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์หลัก 2 กลุ่ม กลุ่มแรก แผนผลประโยชน์คงที่ อาทิ โรคร้ายแรง เป็นต้น กลุ่มที่สอง แผนชดใช้ค่ารักษาพยาบาล
แผนประกันภัยโรคร้ายแรง
นับตั้งแต่แผนประกันภัยโรคร้ายแรงเริ่มเปิดตัวในเอเชียในช่วงทศวรรษ 1980 หรือพ.ศ.2523 ก็มีความโดดเด่นเหนือการประกันสุขภาพเนื่องจากความสามารถในการจ่ายค่าสินไหมทดแทนที่มากกว่าภายใต้ความคุ้มครองในกรมธรรม์เมื่อเทียบกับแผนชดใช้ค่ารักษาพยาบาล อีกทั้งยังมีเงื่อนไขในการจ่ายง่าย ไม่ซับซ้อน พร้อมสิทธิประโยชน์ที่มุ่งเน้นไปที่โรคภัยที่ผู้บริโภคเป็นกังวลมากที่สุด อาทิ โรคมะเร็ง โรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดสมอง เป็นต้น
นอกจากนี้ แผนประกันภัยโรคร้ายแรงมักถูกขายเป็นผลิตภัณฑ์ชดเชยรายได้ ทำให้มีขนาดของเบี้ยประกันภัยที่ใหญ่ขึ้นและมีค่าคอมมิชชั่นที่สูงขึ้นสำหรับผู้จัดจำหน่าย ทำให้พอร์ตใหญ่ขึ้น โดยบริษัทประกันภัยพยายามสร้างความแตกต่างด้วยการขยายความคุ้มครองให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้นทั้งขยายชนิดของโรคและระยะการเจ็บป่วยของโรค อย่างไรก็ตาม ศักยภาพในการสร้างสรรค์นวัตกรรมให้มีความคุ้มครองครอบคลุมยังมีจำกัด และโรคร้ายแรงกำลังกลายเป็นสินค้าโภคภัณฑ์มากขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลกระทบต่อส่วนต่างกำไรลดลงเนื่องจากการแข่งขันด้านราคาเบี้ยประกันภัย
แผนชดใช้ค่ารักษาพยาบาล
แผนประกันภัยแบบชดใช้ค่ารักษาพยาบาลมีแนวโน้มที่จะให้บริการแก่ผู้บริโภคที่ต้องการเงินทุนด้านการรักษาพยาบาลส่วนตัว เช่นเดียวกับโรคร้ายแรง แผนชดใช้ค่ารักษาพยาบาลมีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างมาก แต่แม้ว่าบริษัทประกันภัยที่ “พัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพ” ส่วนใหญ่จะตระหนักว่าการเติบโตนี้นำหน้าการพัฒนาความสามารถในการประกันสุขภาพทางเทคนิค โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเปรียบเทียบกับบริษัทประกันภัยที่ค่อนข้างซับซ้อนในยุโรป อเมริกาเหนือ และแอฟริกาใต้ ซึ่งหลายบริษัทมีบทบาทเชิงรุกมากกว่าในเส้นทางการดูแลผู้ถือกรมธรรม์
นอกจากนี้ บริษัทประกันภัยหลายบริษัทยังคงวัดผลการดำเนินงานของธุรกิจประกันสุขภาพโดยใช้กรอบงานการประกันชีวิตและเกณฑ์มาตรฐาน ซึ่งบางครั้งนำไปสู่ความเข้าใจที่จำกัดเกี่ยวกับตัวขับเคลื่อนผลกำไรและความยากลำบากในการบรรลุผลกำไรที่คาดหวัง โดยความพยายามที่จะแยกสุขภาพออกจากการวัดผลประกันชีวิตนั้นมีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้นเนื่องจากผลิตภัณฑ์ประกันภัยชดใช้ค่ารักษาพยาบาลจำนวนมากรวมอยู่ในแผนประกันชีวิตและแผนเงินออม อาทิ สัญญาแนบท้ายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบการลงทุน
จากมุมมองของข้อเสนอ มีบริษัทประกันภัยจำนวนหนึ่งพยายามที่จะใช้ประโยชน์จากธีมด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีเพื่อสร้างความแตกต่าง กระตุ้นการอุทธรณ์ และเพิ่มการมีส่วนร่วมที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น โดยโปรแกรมเหล่านี้ประสบความสำเร็จในระดับที่แตกต่างกัน ด้วยผลประโยชน์ทางการตลาดและการเลือกเชิงบวกที่สมดุลย์กับการลงทุนที่สำคัญและจำเป็นอย่างต่อเนื่อง ระดับการมีส่วนร่วมและการใช้ประโยชน์ต่ำ และความยากลำบากในการพิสูจน์ผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้ถือกรมธรรม์
สำหรับประเทศที่อยู่นอกเอเชีย บริษัทประกันภัยบางแห่งประสบความสำเร็จในการผลักดันการมีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่องและการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมที่ให้ประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างมาก คำถามคือ สิ่งนี้สามารถทำซ้ำได้ในเอเชียมากน้อยเพียงใด และแม้จะมีเรื่องนี้ บริษัทประกันภัยก็ได้พิสูจน์แล้วว่าผู้ถือกรมธรรม์เต็มใจและต้องการมีส่วนร่วมกับบริษัทประกันภัยในหัวข้อเรื่องสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีนอกเหนือจากพื้นฐานการคุ้มครองทางการเงินเพียวๆ
บทความระบุว่า โซลูชันดิจิทัลช่วยให้บริษัทประกันภัยสามารถปรับปรุงการเข้าถึงการดูแลสุขภาพและส่งมอบการแทรกแซงตามขนาดและด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่าช่องทางทั่วไป โซลูชั่นเหล่านี้ยังอำนวยความสะดวกในการเก็บรวบรวมข้อมูล ในทางกลับกัน จะช่วยให้สามารถปรับแต่งผลิตภัณฑ์ประกันภัยได้ในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน
ท้ายที่สุด บทความระบุว่า ยังคงมีกลุ่มผู้บริโภคจำนวนมากที่ความต้องการของพวกเขายังไม่ได้รับการตอบสนองอย่างเพียงพอในปัจจุบัน รวมถึงผู้ที่ทุกข์ทรมานจากโรคเรื้อรังหรือมีประวัติทางการแพทย์ที่ไม่พึงประสงค์ ซึ่งหมายความว่าพวกเขามักจะประสบปัญหาในการเข้าถึงความคุ้มครองด้านสุขภาพ กลุ่มคนเหล่านี้จะเสนอโอกาสให้กับบริษัทประกันภัยเพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ การทำลายล้าง(disrupt) และเป็นผู้นำในตลาดแม้ว่ารางวัลใหญ่จะยังคงอยู่ในความเสี่ยงมาตรฐานก็ตาม
เพิ่มเราเป็นเพื่อนได้แล้ววันนี้!....
ทีมงาน INN WHY? รายการเพื่อผู้บริโภค ร่วมปฏิวัติความคิด ปรับเปลี่ยนชีวิต ก้าวสู่ความมั่นคง หลังเกษียณ
ติดตามเราได้ที่ไลน์แอด @INNWHY.TV หรือ Facebook.com/INNWHY.TV และ Youtube.com/c/innwhy
Contact us : INNWHY31@gmail.com