อุตสาหกรรมประกันภัยฮ่องกงกำลังมีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ  “การจัดอันดับบริษัทประกันของฮ่องกง บิสิเนส” ได้เผยให้เห็นถึงแนวโน้มที่มีบริษัทประกันชีวิตจำนวนมากขึ้นที่จะติดอยู่ในบัญชีบริษัทประกันชั้นนำ 50 อันดับแรก โดยบริษัทประกันชีวิตทั้งหมด 30 แห่งได้ติด 50 อันดับแรก เทียบกับที่มีบริษัทประกันภัยทั่วไปติด 50 อันดับแรก  20 แห่ง ซึ่งต่างจากการจัดอันดับก่อนหน้านี้ที่มีจำนวนบริษัทประกันชีวิตและบริษัทผู้ประกันภัยทั่วไป  ติด50 อันดับแรกในจำนวนเท่ากัน

การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นผลมาจากโอกาสในตลาดประกันภัยของจีนแผ่นดินใหญ่

ทิศทางอุตสาหกรรมประกันฮ่องกงในปี 2565

ตามความเห็นของนักวิเคราะห์หลายคนที่นิตยสารฮ่องกง บิสิเนสได้สัมภาษณ์มา  หากในปี 2564  ทิศทางอุตสาหกรรมประกันเน้นเรื่องสุขภาพเพิ่มขึ้น ในปี 2565 บริษัทประกันได้เปลี่ยนความสนใจไปที่การเปลี่ยนแปลงไปสู่ดิจิทัล การให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) และแนวโน้มกำลังแรงงาน

ทิศทางจำนวนหนึ่ง ได้แก่ :

การเตรียมการด้านการทำงาน

มีการเปลี่ยนไปใช้การทำงานทางไกลหรือการทำงานที่สามารถยืดหยุ่นได้   โดย โจอันนา หว่อง หัวหน้าธุรกิจประกันภัยฮ่องกง  ของบริษัทดีลอยตต์ ไชน่า กล่าวว่า  “บริษัทประกันได้ปรับตัวโดยเปลี่ยนไปใช้กำลังแรงงานที่ทำงานทางไกล  รวมถึงการให้ ลูกค้าและผู้จัดจำหน่ายเกี่ยวพันกันแบบเสมือนจริง และใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลมากขึ้นเพื่อตอบสนองความคาดหวังที่มีต่อแบบประกัน ช่องทาง และบริการที่เป็นไปตามความต้องการของลูกค้า 

ประกันดิจิทัล

มีแรงผลักดันให้เกิดแบบประกันภัยดิจิทัลแบบออนดีมานด์ที่เรียบง่าย  ผู้บริโภคเปิดกว้างมากขึ้นในการซื้อประกันตราบเท่าที่ไม่ซับซ้อนจนเกินไป

เงินเฟ้อ

บิลลี หว่อง หัวหน้าฝ่ายธุรกิจประกันของ PwC Hong Kong กล่าว ว่า เงินเฟ้อยังคงเป็นความท้าทายสำหรับทั้งบริษัทประกันและผู้บริโภค  โดยสำหรับ บริษัทประกันชีวิตและบริษัทประกันบำนาญ เงินเฟ้อ หมายถึงอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นที่สามารถลดความเสี่ยงในการลงทุนต่อ   และทำให้การค้ำประกันดอกเบี้ยมีประสิทธิภาพด้านต้นทุนมากขึ้น เมื่อมองในมุมเศรษฐกิจ

อย่างไรก็ตาม อัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเกินไป อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงจากการขาดตัวกลาง ซึ่งจะส่งผลกระทบทางลบต่องบดุล และ เพื่อลดความเสี่ยงนี้ บริษัทประกันอาจจำเป็นต้องกำหนด การรับประกันดอกเบี้ยใหม่ และกำหนดราคาอยู่เป็นประจำ เพื่อตอบสนองต่อแรงกดดันของตลาดต่อการรับประกันมูลค่าตามบัญชี

อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นอาจทำให้แบบประกันบางประเภทไม่ดึงดูดใจผู้บริโภค  แม้จะไม่มีการขึ้นอัตราเบี้ยประกัน แต่อัตราเงินเฟ้อก็กำลังส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคแล้ว และผู้บริโภค ในฮ่องกง 16% กล่าวว่า จะลดการใช้จ่ายเรื่องประกัน

อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นควบคู่กับ ความผันผวนในตลาดตราสารทุน อาจทำให้แบบประกันบางประเภทมีความน่าสนใจน้อยลง โดย หว่องแนะนำให้บริษัทประกันพิจารณาปรับพอร์ตการลงทุนให้สมดุลใหม่  โดยอาจเปลี่ยนกลับไปลงทุนแบบดั้งเดิมมากขึ้นและพึ่งพาสินทรัพย์ทางเลือกน้อยลง นอกจากนี้ยังกล่าววว่า เรื่องนี้ยังเกี่ยวข้องกับบริษัทประกันภัยทั่วไปด้วย โดย “จากมุมมองด้านการตั้งราคา  จุดสนใจหลักประการหนึ่งของบริษัทประกันภัยคือการฝังแนวโน้มตลาดในระยะยาวเข้าไปกับธรรมชาติในระยะสั้นโดยทั่วไปของแบบประกัน

นวัตกรรม

Leslie Foo ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจประกันของ Deloitte China กล่าวว่าแนวโน้มเหล่านี้ท้าทายให้บริษัทประกันต้องปรับตัวและยืดหยุ่นกระบวนการสร้างนวัตกรรมใหม่ให้กับอุตสาหกรรมประกันภัยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ในขณะเดียวกันต้องต้องเอาชนะอุปสรรคที่เกิดจากการระบาด

“ในขณะที่อุตสาหกรรมประกัน ยังคงให้ลูกค้าเป็น  จุดศูนย์กลางของรูปแบบการดำเนินมาตรฐานของอุตสาหกรรม แนวโน้มที่เกิดขึ้นใหม่ได้ผลักดันให้บริษัทประกันรักษาวัฒนธรรมแห่งนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง บริษัทประกันควรเปลี่ยนจากการวางรากฐานสำหรับการเปลี่ยนแปลงการดำเนินงาน เช่น การเปลี่ยนไปสู่ระบบคลาวด์ เพื่อตระหนักถึงคุณค่าและประโยชน์ของการอัพเกรดโครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยีอย่างเต็มที่” Leslie Foo กล่าว

เพิ่มเราเป็นเพื่อนได้แล้ววันนี้!....