เว็บไซต์ Asiainsurancereview รายงานว่า บริษัท โกลบอลดาต้า ( GlobalData ) บริษัทข้อมูลและวิเคราะห์ระดับโลก ประเมินแนวโน้มอุตสาหกรรมประกันวินาศภัยของประเทศไทยในระยะ 5 ปีข้างหน้า ระหว่างปี 2567-2571  จะมีอัตราการเติบโตต่อปี (CAGR) ที่ 4.5%  โดยเบี้ยประกันภัยรับรวม จะเพิ่มขึ้นจาก 3.109 แสนล้านบาท  (9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในปี 2567 เป็น 3.708 แสนล้านบาทในปี 2571

ฐานข้อมูลประกันภัยของโกลบอลดาต้า คาดว่า อุตสาหกรรมประกันวินาศภัยของประเทศไทย จะเติบโต 4.1% ในปี 2567 โดยมีแรงขับเคลื่อนหลักจากประกันภัยทรัพย์สิน ประกันภัยรถยนต์ และประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคลและสุขภาพ (PA&H)  ซึ่งคาดว่าจะมีเบี้ยประกันภัยรับรวม คิดเป็นสัดส่วนเกือบ 90% ของอุตสาหกรรมประกันวินาศภัย

Manogna Vangari นักวิเคราะห์ประกันภัยโกลบอลดาต้า  กล่าวว่า “อุตสาหกรรมประกันวินาศภัยในไทยยังคงมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี2566 เติบโต 4.5%  เนื่องจากความต้องการกรมธรรม์ประกันภัยทรัพย์สินเพิ่มสูงขึ้น นำโดยการเติบโตของกิจกรรมในภาคการก่อสร้าง ความตระหนักรู้ด้านสุขภาพที่เพิ่มขึ้น และการปฏิรูปกฎระเบียบที่เป็นไปอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งคาดว่า แนวโน้มนี้จะดำเนินต่อไปในปี 2567 นี้ ”

ประกันรถยนต์โตลดลงตามศก.

            ประกันภัยรถยนต์ มีเบี้ยประกันภัยมากที่สุดในอุตสาหกรรมประกันภัยวินาศภัยของประเทศไทย คาดว่า จะมีสัดส่วนประมาณ  53.8% ของเบี้ยประกันภัยรับรวมทั้งหมดในปี 2567 ด้วยการเติบโตที่น่าจะชะลอตัวลงอยู่ที่ 3%  เทียบกับการเติบโต 3.9% ในปี 2566 เนื่องจากยอดขายรถยนต์ลดลงจากการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง  ทั้งนี้ ข้อมูลจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) ระบุว่า ยอดขายรถยนต์ในเดือนมกราคม-เมษายน ปี 2567 ลดลง 23.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

อย่างไรก็ตาม ในปี 2567 การขยายตัวของประกันภัยรถยนต์จะได้รับแรงสนับสนุนจากยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าหรือรถEV (Electric Vehicles ) ที่เพิ่มขึ้น โดยข้อมูลของสอท. ระบุว่า  ในเดือนมีนาคม ปี2567  รถยนต์ไฮบริดที่จดทะเบียนใหม่เพิ่มขึ้นถึง 35.7% เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคมปีที่ผ่านมา

โกลบอลดาต้า เผยว่า การพัฒนาเชิงบวกด้านกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้า เป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมการเติบโตของประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้าด้วยเช่นกัน ซึ่งในเดือนเมษายน ปี2567  สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักคปภ.) ได้ออกคำสั่งนายทะเบียนใหม่ ว่าด้วยการประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้าที่มีการกำหนดรหัสรถยนต์ไฟฟ้า  จัดทำกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้าฉบับใหม่ที่มีเงื่อนไขความคุ้มครองและพิกัดอัตราเบี้ยประกันภัยใหม่ โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างมาตรฐานให้กับระบบประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งจะทำให้สามารถรวบรวมและจัดเก็บข้อมูลการประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้าได้ง่ายขึ้น  โดยบริษัทประกันวินาศภัยภัยจะต้องใช้รหัสรถยนต์ไฟฟ้า  กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้าและอัตราเบี้ยประกันภัยใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2567เป็นต้นไป

                ประเทศไทยมีอุบัติเหตุทางถนนเพิ่มขึ้นในปี 2566 จากข้อมูลของศูนย์ข้อมูลอุบัติเหตุทางถนน (ThaiRSC) พบว่า ในช่วงเดือนมกราคม-เมษายน 2567  มีอุบัติเหตุจราจรเพิ่มขึ้น 2.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566  โดยการเคลมสินไหมทดแทนจากอุบัติเหตุทางถนนที่สูงขึ้นจะส่งผลให้บริษัทประกันวินาศภัยต้องประเมินความเสี่ยงและปรับเบี้ยประกันภัยเพิ่มขึ้นในปี 2567 ซึ่งจะสนับสนุนการเติบโตของประกันภัยรถยนต์เช่นกัน โดยคาดว่า  ประกันภัยรถยนต์จะมีอัตราการเติบโตต่อปีที่ 3.7% ในช่วงปี 2567-2561

ประกันทรัพย์สินพุ่ง9.4%

ประกันภัยทรัพย์สิน เป็นประกันภัยที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสอง คาดว่า จะมีเบี้ยประกันภัยคิดเป็นสัดส่วน 18.8% ของเบี้ยประกันภัยรับรวมในปี 2567 โดยจะเติบโต  9.4%  เนื่องจากรัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการท่องเที่ยว การผลิตพลังงาน และโครงการบ้านจัดสรร

Ms Vangari    กล่าวว่า “ในปี2567 อุตสาหกรรมการก่อสร้างในประเทศไทย คาดว่าจะขยายตัว 3.5%  และมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีที่ 4.2% ตั้งแต่ปี 2568 ถึง 2571 โดยการเติบโตในปี 2567 จะได้รับการสนับสนุนจากความต้องการที่อยู่อาศัยที่เพิ่มขึ้น  โดยมีไฮไลต์อยู่ที่ การเพิ่มขึ้นของมูลค่าสินเชื่อจำนองคงค้างและจำนวนใบอนุญาตพัฒนาที่ดินที่อยู่อาศัย ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการเติบโตของการประกันภัยทรัพย์สิน อย่างไรก็ตาม ในระยะสั้น ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ ต้นทุนวัสดุและพลังงานที่สูงขึ้นจะก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการเคลมประกันทรัพย์สิน”

ในเดือนมีนาคม ปี 2567  สำนักงานคปภ. ได้ออกประกาศแก้ไขอัตราเบี้ยประกันอัคคีภัยและส่วนลดสำหรับอุปกรณ์ดับเพลิงในกรมธรรม์ประกันอัคคีภัย เพื่อให้การคำนวณอัตราเบี้ยประกันภัยและส่วนลดเบี้ยประกันภัยสอดคล้องกับการประเมินความเสี่ยงและมาตรการด้านความปลอดภัยในปัจจุบัน อีกทั้งเพื่อให้อัตราเบี้ยประกันภัยและส่วนลดมีความยุติธรรมและสม่ำเสมอ โดยคาดว่า ประกันภัยทรัพย์สิน จะมีอัตราการเติบต่อปีที่ 7.5% ในช่วงปี 2567-2571

อุบัติเหตุและสุขภาพ โต3%

การประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคลและสุขภาพ (PA&H) เป็นกลุ่มประกันภัยที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสาม โดยคาดว่าจะมีสัดส่วน 17.3% ของเบี้ยประกันภัยรับรวมในปี 2567  ด้วยการเติบโต 3%  เนื่องจากการรับรู้ด้านสุขภาพที่เพิ่มขึ้นและต้นทุนค่ารักษาพยาบาลที่เพิ่มขึ้น  ส่งผลให้มีความต้องการกรมธรรม์ประกันสุขภาพเพิ่มมากขึ้น  โดยคาดว่า ประกันภัย PA&H จะมีอัตราการเติบโตต่อปีที่ 4.2% ในช่วงปี 2567-2571

สำหรับเบี้ยประกันภัยส่วนที่เหลืออีก  10.1% เป็นการประกันภัยความรับผิด ,การเงิน, เบ็ดเตล็ดและทางทะเล การบินและการขนส่ง (Marine, Aviation and Transit :MAT)  

จับตา!ขึ้นเบี้ยล้อเคลมทะยาน

Ms Vangari  กล่าวว่า “ความคิดริเริ่มต่างๆ ของรัฐบาลและการปฏิรูปกฎระเบียบต่างๆ ที่เอื้อประโยชน์ต่อภาคประกันภัยจะช่วยกระตุ้นการเติบโตของเบี้ยประกันภัยต่อจีดีพีของไทย (ปี2566 อยู่ที่ 1.59%) เป็นอัตราที่ต่ำเมื่อเปรียบเทียบกับตลาดในภูมิภาคอื่นๆ เช่น ออสเตรเลีย (3.52%) นิวซีแลนด์ (2.23%) %) ญี่ปุ่น (1.75%) และฮ่องกง (1.65%)  ขณะที่การจ่ายเงินค่าสินไหมทดแทนที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเกิดจากอัตราเงินเฟ้อและอุบัติเหตุทางถนนที่เพิ่มขึ้น จะช่วยกระตุ้นให้บริษัทประกันภัยประเมินความเสี่ยงและปรับเบี้ยประกันภัยเพิ่มขึ้นในระยะสั้นนี้”

เพิ่มเราเป็นเพื่อนได้แล้ววันนี้!....