หน่วยงานกำกับฯอินโดนีเซียสั่งบริษัทประกันภัย/รีอินชัวเรอร์เริ่มใช้มาตรฐานบัญชีใหม่ IFRS17 ต้นปี2567 คู่ขนานกับระบบท้องถิ่น ย้ำทุกค่ายต้องปฏับัติตามเคร่งครัด เร่งเตรียมความพร้อมทุกด้าน ด้านส.วินาศภัยเผยครึ่งปี ธุรกิจประกันวินาศภัยโต6% เคลมพุ่ง 2 เท่า
เว็บไซต์ AsiaInsuranceReview.com รายงานว่า หน่วยงานกำกับดูแลธุรกิจประกันภัยอินโดนีเซีย(Financial Services Authority :OJK) หรือคปภ.ขอให้บริษัทประกันภัยและบริษัทรับประกันภัยต่อ(Reinsurance ) เริ่มใช้มาตรฐานบัญชีใหม่ IFRS 17 ในไตรมาสแรก ปี2567 โดยดำเนินการคู่ขนานไปกับมาตรฐานทางบัญชี PSAK 74 ซึ่งเป็นมาตรฐานท้องถิ่น
OJK ระบุในจดหมายที่ลงนามโดยหัวหน้าแผนกกำกับดูแลการประกันภัยและบริการสนับสนุน OJK ที่ส่งถึงบริษัทประกันภัยและบริษัทรับประกันภัยต่อทุกแห่ง โดยได้ขอความร่วมมือจากบริษัทประกันภัยและบริษัทรับประกันภัยต่อที่กำลังสร้างหรือพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการปรับใช้ PSAK 74 ปฏิบัติตามไทม์ไลน์(Timeline ) อย่างเคร่งครัดเพื่อทำให้ระบบและเทคโนโลยีสารสนเทศเสร็จสมบูรณ์พร้อมใช้IFRS17
สำหรับบริษัทประกันภัยและบริษัทรับประกันภัยต่อที่ยังไม่ได้ดำเนินการพัฒนาระบบและเทคโนโลยีสารสนเทศที่จำเป็นสำหรับการใช้ PSAK 74 ทาง OJK ขอให้พวกเขาเริ่มดำเนินการทันที
OJK ยังระบุในจดหมายด้วยว่า ทีมเตรียมการสำหรับการดำเนินการตามมาตรฐานบัญชี PSAK 74 ได้กำหนดเป้าหมายสำหรับบริษัทรับประกันภัยต่อที่จะต้องดำเนินการให้บรรลุให้ได้ในปี 2566 ได้แก่ การประเมินช่องว่างและการระบุแนวทาง ,วิธีการ ,การตั้งสมมติฐานและการคำนวณ ,การทดสอบการคำนวณและการประเมินผลกระทบทางการเงิน และการพัฒนาระบบและเทคโนโลยีสารสนเทศ
ทีมเตรียมการฯยังได้หารือกับบริษัทประกันชีวิตและบริษัทประกันวินาศภัยหลายแห่งในการดำเนินการตามมาตรฐาน PSAK 74 ในระยะเริ่มแรกใน 3 ประเด็นได้แก่ 1. การก่อสร้าง/การพัฒนาระบบและไอทีสำหรับการดำเนินการตามมาตรฐาน PSAK 74 ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 6 เดือนจึงจะแล้วเสร็จ 2.จำเป็นต้องเตรียมข้อมูลและเอกสารรองรับและ3.จำเป็นต้องมีทรัพยากรบุคคลที่มีทักษะในการดำเนินการตามมาตรฐาน PSAK 74
ครึ่งปี วินาศภัยโต6%/เคลมพุ่ง2เท่า
สำนักข่าว Antara News Agency สื่อท้องถิ่นรายงานว่า สมาคมประกันวินาศภัยอินโดนีเซีย (Indonesian General Insurance Association :AAUI) ได้เปิดเผยผลการดำเนินงานของอุตสาหกรรมประกันวินาศภัยในช่วงครึ่งปีแรก 2566 ว่า มีเบี้ยประกันภัยรับ 48.90 ล้านล้านรูเปีย (3.2 พันล้านดอลลาร์) (1,000รูเปียประมาณ2บาท) เพิ่มขึ้น 6.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี (yoy)
ในขณะที่ ค่าสินไหมทดแทนทั้งหมดที่อุตสาหกรรมประกันภัยวินาศภัยได้จ่ายไปตามเงื่อนไขในกรมธรรม์ประกันภัยอยู่ที่ 20.12 ล้านล้านรูเปีย เพิ่มขึ้น 13.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี
Ms Trinita Situmeang รองนายกสมาคมฯฝ่ายสถิติและการวิจัย กล่าวว่า ธุรกิจประกันภัยทรัพย์สินมีพอร์ตใหญ่ที่สุดในธุรกิจประกันวินาศภัย โดยมีเบี้ยประกันภัย 12.52ล้านล้านรูเปีย คิดเป็นสัดส่วน 25.6% ของเบี้ยประกันวินาศภัยทั้งระบบเป็นผลจากราคาที่อยู่อาศัยปรับสูงขึ้นส่งผลทำให้เบี้ยประกันภัยทรัพย์สินเพิ่มขึ้นด้วย
สำหรับธุรกิจประกันภัยรถยนต์ มีเบี้ยประกันภัย 9.84 ล้านล้านรูเปีย คิดเป็นสัดส่วน 20.1% และประกันภัยสินเชื่อ (credit insurance) มีเบี้ยประกันภัย 8.40 ล้านล้านรูเปีย คิดเป็นสัดส่วน 17.2%
เพิ่มเราเป็นเพื่อนได้แล้ววันนี้!....
ทีมงาน INN WHY? รายการเพื่อผู้บริโภค ร่วมปฏิวัติความคิด ปรับเปลี่ยนชีวิต ก้าวสู่ความมั่นคง หลังเกษียณ
ติดตามเราได้ที่ไลน์แอด @INNWHY.TV หรือ Facebook.com/INNWHY.TV และ Youtube.com/c/innwhy
Contact us : INNWHY31@gmail.com