เปิดศักราช 2567  รีอินชัวเรอร์ขึ้นเบี้ยประกันภัยต่ออีกยก ท่ามกลางความต้องการประกันภัยต่อที่ยังคงแข็งแกร่ง บวกกำไรดีขึ้นเล็กน้อย  ชี้ประกันภัยต่อทรัพย์สินและภัยพิบัติทั่วโลก ขึ้นเบี้ยอีก 3%หลังปี’66 ขยับราคาไปแล้ว37%  ขณะที่สัญญาประกันภัยที่ไม่มีความเสียหาย(Loss-free)ในทุกประเทศ ราคาดีดขึ้นยกแผง  โหดสุดตุรกี พิษแผ่นดินไหว ขึ้นเบี้ย 50-100%  ภัยการเมืองทั้งโลก ราคาขยับขึ้น  5-10%  

                บริษัท Jefferies บริษัทวิจัยพอร์ตหุ้นในตลาด เปิดเผยบทวิจัยล่าสุด เน้นย้ำว่า ในตลาดรับประกันภัยต่อทรัพย์สินและภัยพิบัติทั่วโลก  ราคาเบี้ยประกันภัยได้ปรับเพิ่มขึ้นอีกครั้ง อีก 3% เมื่อพิจารณาจากความเสี่ยงที่มีมากขึ้นหลังจากที่เพิ่มขึ้น 37% ในปี2566

แนวโน้มดังกล่าวชี้ให้เห็นถึงความต้องการที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องในอุตสาหกรรมการประกันภัยที่มีกำไรเพิ่มขึ้นเล็กน้อยแม้ว่าราคาเบี้ยประกันภัยจะสูงอยู่แล้วก็ตาม  โดยไม่มีผลกระทบด้านลบที่ชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งดูเหมือนว่าจะไม่มีสัญญาณของภาวะเงินฝืด

เมื่อเร็วๆนี้ บริษัท ฮาวเด้น ( Howden ) เปิดเผยว่า การที่บริษัทรับประกันภัยต่อ (Reinsurer)  ปรับเบี้ยประกันภัยทรัพย์สินและภัยพิบัติทั่วโลกเพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากความเสี่ยงของบริษัทประกันภัยที่เพิ่มขึ้น กระตุ้นให้เกิดความต้องการการประกันภัยต่อเพื่อรองรับความเสี่ยงเหล่านั้น   โดยความต้องการนี้ได้รับการสนับสนุนจากกำหนดเบี้ยประกันภัยต่อที่มีเสถียรภาพมากขึ้น  ทำให้บริษัทประกันภัยสามารถซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติมสำหรับความเสี่ยงที่นานๆ จะเกิดขึ้นทีหรือความเสี่ยงที่เรียกว่า ”  Tail Risk”  ได้มากขึ้น  โดยรายงานของบริษัท  Gallagher Re ก็สอดคล้องกับมุมมองของฮาวเด้น  ซึ่งบ่งชี้ว่า สัญญาประกันภัยที่ไม่มีความเสียหายเกิดขึ้นเลย (Loss-free)  ราคาเบี้ยประกันภัยก็ปรับเพิ่มขึ้นตั้งแต่ 0% ถึง 10%

ยุโรปยังเห็นเบี้ยประกันภัยถูกปรับเพิ่มขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ โดยเฉพาะในบางภูมิภาค อย่างในตุรกี  สัญญาประกันภัยที่ไม่มีความเสียหายเกิดขึ้นเลยได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่  ส่งผลให้มีการปรับเบี้ยประกันภัยต่อเพิ่มขึ้น 50% ถึง 100% เลยทีเดียว เช่นเดียวกับในเยอรมนี ออสเตรีย สวิสเซอร์แลนด์และยุโรปตะวันออกก็ประสบปัญหาเบี้ยประกันภัยต่อถูกปรับเพิ่มขึ้นอย่างมากเช่นกัน ตั้งแต่ 7% ถึง 15%  ซึ่งแนวโน้มนี้ดูเหมือนเด่นชัดมากขึ้นในยุโรปเมื่อเทียบกับสหรัฐอเมริกาและเอเชียส่วนใหญ่ ซึ่งโดยทั่วไปใน 2 ภูมิภาคนี้ เบี้ยประกันภัยต่อถูกปรับเพิ่มขึ้นระหว่าง 0% ถึง 10%  ยกเว้นจีน ที่ปรับเบี้ยประกันภัยต่อถูกปรับเพิ่มขึ้น 5% ถึง 20% ซึ่งสะท้อนถึงปัญหาความสามารถในการทำกำไรของตลาดประกันภัยจีน

ในตลาดประกันภัยเบ็ดเตล็ดและกลุ่มผลิตภัณฑ์ประกันภัยพิเศษ    เบี้ยประกันภัยต่อถูกปรับเพิ่มขึ้นเช่นกัน  โดยข้อมูลของ Gallagher Re ชี้ให้เห็นว่า เบี้ยประกันภัยประกันภัยต่อประกันภัยเบ็ดเตล็ดถูกปรับเพิ่มขึ้น 0% ถึง 10% ในภูมิภาคส่วนใหญ่  โดยในฝรั่งเศส เบี้ยประกันภัยต่อประกันภัยเบ็ดเตล็ดถูกปรับเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญระหว่าง 0% ถึง 15% ในขณะที่กลุ่มผลิตภัณฑ์ประกันภัยพิเศษ  ดูเหมือนเบี้ยประกันภัยต่อจะไม่แตกต่างกันในผลิตภัณฑ์ประเภทต่างๆ โดยเบี้ยประกันภัยต่อถูกปรับเพิ่มขึ้น 0% ถึง 15% ขณะที่ความคุ้มครองภัยการเมือง เบี้ยประกันภัยต่อถูกปรับเพิ่มขึ้น  5% ถึง 10% ซึ่งอาจเนื่องมาจากการเลือกตั้งในหลายประเทศทั่วโลกที่กำหนดจะมีขึ้นในปีนี้

อย่างไรก็ตาม ตลาดประกันภัยไซเบอร์ (cyber insurance ) มีมุมมองที่แตกต่างออกไป แม้ว่าจะมีความคิดเห็นเป็นเอกฉันท์เกี่ยวกับจำนวนกรมธรรม์ประกันภัยไซเบอร์ที่เพิ่มขึ้น เบี้ยประกันภัยที่เพิ่มขึ้นและการซื้อความคุ้มครองที่ครอบคลุมมากขึ้น แต่ความคิดเห็นเกี่ยวกับเบี้ยประกันภัยต่อประกันภัยไซเบอร์ก็แตกต่างกันออกไป โดย  Gallagher Re มองว่า เบี้ยประกันภัยต่อประกันภัยไซเบอร์กำลังถูกปรับเพิ่มขึ้น 0% ถึง 20% ในขณะที่ฮาวเด้น มีมุมมองบวกกับผู้ซื้อประกันภัยมากกว่า  ว่า เบี้ยประกันภัยอาจลดลง

ทั้งนี้ แม้ว่าเบี้ยประกันภัยต่อจะสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในปี2566  แต่ก็ไม่มีข้อบ่งชี้ถึงภาวะเงินฝืดในตลาดแต่อย่างใด  ทำให้ดูเหมือนว่ากำไรในตลาดรับประกันภัยต่อจะเพิ่มขึ้นอีกครั้ง และความต้องการการประกันภัยต่อที่แข็งแกร่งไม่เพียงแต่รักษาระดับกำไรในตลาดไว้ได้เท่านั้น   แต่ยังเพิ่มปริมาณธุรกิจอีกด้วย

สุดท้ายนี้ รายงานของฮาวเด้นยังบ่งชี้ว่า ราคาในตลาด Retro ยังคงทรงตัวในการต่ออายุประกันภัยต่อรอบใหม่นี้ ซึ่งชี้ให้เห็นว่า แม้บริษัทรับประกันภัยต่อกำลังขายประกันภัยต่อในราคาเบี้ยประกันภัยที่สูงขึ้น  แต่พวกเขาไม่ได้จ่ายเงินเพิ่มขึ้นเพื่อซื้อการคุ้มครองตนเองที่มากขึ้นเลย  ซึ่งอาจบ่งชี้ว่า ขณะนี้ เบี้ยประกันภัยของความเสี่ยงที่นานๆ จะเกิดขึ้น  ”  Tail Risk”  มีราคาเพียงพอแล้ว

เพิ่มเราเป็นเพื่อนได้แล้ววันนี้!....