“เอเอ็ม เบสท์” ประเมินแนวโน้มประกันวินาศภัยเวียดนาม คาดการใช้จ่ายของรัฐบาลในโครงการเมกะโปรเจกต์ทั้งพลังงานหมุนเวียน ภาคขนส่ง และโครงสร้างพื้นฐาน กระตุ้นความต้องการประกันวินาศภัยพุ่งกระฉูด ชี้ ประกันทรัพย์สิน ประกันเชิงพาณิชย์ หัวหอกขับเคลื่อนการเติบโต บวกแรงหนุนจากกฎหมายใหม่ ยกมาตรฐานการบริหารความเสี่ยงภาคประกันภัย
เว็บไซต์ Asiainsurancereview รายงานว่า บริษัท เอเอ็ม เบสท์(AM Best) บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำของโลก คาดการณ์การใช้จ่ายเงินงบประมาณของรัฐบาลเวียดนามในโครงการขนาดใหญ่ต่างๆ ทั้งด้านพลังงานหมุนเวียน การขนส่ง และโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่อื่นๆ มีแนวโน้มที่จะผลักดันอุปสงค์(Demand)หรือความต้องการซื้อความคุ้มครองประกันวินาศภัยเพิ่มมากขึ้นในอนาคต
เอเอ็ม เบสท์ ระบุในรายงานหัวข้อ “Market Segment Outlook: Vietnam Non-Life Insurance” ว่า การเติบโตของตลาดประกันวินาศภัยของเวียดนามน่าจะยังคงได้ประโยชน์จากชื่อเสียงของประเทศเวียดนามในฐานะปลายทางที่น่าดึงดูดสำหรับการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศด้วย โดยประกันภัยทรัพย์สินเป็นหัวหอกสำคัญในการกระตุ้นการเติบโตของธุรกิจประกันวินาศภัยในปี 2566
ชี้แนวโน้ม”มีเสถียรภาพ”’
เอเอ็ม เบสท์ ยังคงอันดับแนวโน้มธุรกิจประกันวินาศภัยของเวียดนาม “ มีเสถียรภาพ”หรือ “Stable” จากการเติบโตของเบี้ยประกันวินาศภัยที่เร็วขึ้นและความต้องการประกันภัยเชิงพาณิชย์( commercial lines ) ที่เพิ่มมากขึ้น โดยย้ำว่า การปรับปรุงกฎหมายประกันภัยครั้งล่าสุดสนับสนุนแนวโน้มของธุรกิจประกันภัย “มีเสถียรภาพ” เนื่องจากมีข้อกำหนดใหม่ด้านการจัดการความเสี่ยง การควบคุมภายใน การตรวจสอบภายใน และมาตรฐานการประเมินความเสี่ยง คาดว่าจะช่วยยกระดับการกำกับดูแลความเสี่ยงและเสริมสร้างการดำเนินการทางการเงินของภาคประกันภัย
นาย Ken Lau นักวิเคราะห์การเงินอาวุโสเอเอ็ม เบสท์ กล่าวว่า “เวียดนามยังคงดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ เนื่องจากนักลงทุนยังคงแสวงหาการกระจายความเสี่ยงในห่วงโซ่อุปทาน( supply chain) ทั่วโลก โดยคาดว่า กระแสเงินทุนไหลเข้าจากต่างประเทศจะยังคงเป็นหนึ่งในเครื่องยนต์การเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนาม ซึ่งจะส่งผลให้ความต้องการประกันภัยเชิงพาณิชย์เพิ่มมากขึ้น”
ในขณะเดียวกัน การแข่งขันในตลาดได้กัดกินกำไรจากการรับประกันภัยประกันภัยรถยนต์และประกันภัยสุขภาพ ลดลง ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการผ่อนคลายหลักเกณฑ์การพิจารณารับประกันภัยให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้นเพื่อให้ได้งาน ขณะที่การแข่งขันด้านราคาเบี้ยประกันภัย (pricing ) ในระยะใกล้ในกลุ่มประกันภัยดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อกำไรทางเทคนิคเช่นกัน
นาย Ken Lau กล่าวว่า รายได้ของอุตสาหกรรมประกันวินาศภัยอาจลดลงเนื่องจากผลตอบแทนจากการลงทุนที่ลดลงในระยะใกล้ หลังจากธนาคารแห่งประเทศเวียดนาม(แบงก์ชาติ) ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายหลายครั้งในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 และคาดว่า จะคงนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายต่อไปตลอดปี 2567 นี้
นายคริส ลิม รองผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์บริษัท เอเอ็ม เบสท์ ให้ความเห็นว่า “แม้ว่าบริษัทประกันภัยจะเพิ่มการจัดสรรสินทรัพย์เงินลงทุนไปยังการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงขึ้นเพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่สูงขึ้น แต่คาดว่า ผลตอบแทนจากการลงทุนจะยังคงอยู่ในระดับต่ำในระยะใกล้นี้ เนื่องจากพอร์ตลงทุนใหญ่ของบริษัทประกันภัยคือเงินฝากประจำและพันธบัตรรัฐบาล ที่ให้ผลตอบแทนค่อนข้างต่ำ”
เพิ่มเราเป็นเพื่อนได้แล้ววันนี้!....
ทีมงาน INN WHY? รายการเพื่อผู้บริโภค ร่วมปฏิวัติความคิด ปรับเปลี่ยนชีวิต ก้าวสู่ความมั่นคง หลังเกษียณ
ติดตามเราได้ที่ไลน์แอด @INNWHY.TV หรือ Facebook.com/INNWHY.TV และ Youtube.com/c/innwhy
Contact us : INNWHY31@gmail.com