จีนพังยับ ปี2566 เจอน้ำท่วมใหญ่ครั้งประวัติศาสตร์ เศรษฐกิจสูญ 3.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ   ประกันภัยจ่ายแค่ 1,400ล้านเหรียญเพราะส่วนใหญ่ไม่มีประกันคุ้มครอง ชี้ความเสียหายในจีนกินแชร์ 50% ของความเสียหายทั้งหมด  6.5หมื่นล้านเหรียญในเอเชีย แปซิฟิก    

เว็บไซต์ Asiainsurancereview  รายงานว่า ในปี 2566   ความเสียหายทางเศรษฐกิจทั้งหมดในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิกที่เกิดจากภัยพิบัติทางธรรมชาติมีมูลค่ารวมสูงถึง 6.5หมื่นล้านดอลลาร์  โดยมีช่องว่างความคุ้มครอง( protection gap ) ที่สูงอย่างมีนัยสำคัญถึง  91% อย่างไรก็ตาม ความเสียหายเหล่านี้ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยถึง 48% และต่ำกว่าค่ามัธยฐานของศตวรรษที่ 21 ถึง 32%

ในความเสียหายทางเศรษฐกิจข้างต้น เป็นความเสียหายที่มีประกันภัยคุ้มครองอยู่ประมาณ 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในศตวรรษที่ 21 ที่ระดับ  1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐอย่างเห็นได้ชัด แม้ว่าสถิติจะเบี่ยงเบนไปจากปีที่ผิดปกติอย่างปี 2554  (ปีที่เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงขึ้นที่เมืองโทโฮคุ (Tohoku)  ในญี่ปุ่น)  แต่ในปี 2566 ความเสียหายที่มีประกันภัยคุ้มครอง  ซึ่งส่วนใหญ่เป็นความเสียหายจากภัยพิบัตทางธรรมชาติในนิวซีแลนด์ มูลค่าความเสียหายยังคงต่ำกว่าค่ามัธยฐานถึง 44%

“น้ำท่วม” สร้างความเสียหายสูงสุด

ความสูญเสียจากน้ำท่วมยังคงมีสัดส่วนสูงสุดในฐานะภัยธรรมชาติที่สร้างเสียหายมากที่สุดเป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน โดยมีสัดส่วนมากกว่า 64% ของความเสียหายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมา  สำหรับภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก  ภัยน้ำท่วมยังคงเป็นภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นเป็นประจำ  ซึ่งนับตั้งแต่ปี 2553  น้ำท่วมสร้างความเสียหายกว่า  3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี   โดยในปี2566 ที่ผ่านมา  หลายพื้นที่ประสบน้ำท่วมครั้งใหญ่และมีฝนตกหนักเป็นประวัติการณ์ อาทิ  นิวซีแลนด์ ญี่ปุ่น ฮ่องกง เกาหลีใต้ อินเดีย และปากีสถาน  โดยน้ำท่วมในเอเชียใต้ (ปากีสถานและอินเดีย) ทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 2,900  คน

เกือบครึ่งหนึ่งของความเสียหายที่มีประกันภัยคุ้มครองในเอเชีย แปซิฟิกเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์สำคัญสองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในนิวซีแลนด์ตั้งแต่ปลายเดือนมกราคมถึงเดือนกุมภาพันธ์  คือเกิดน้ำท่วมใหญ่เป็นบริเวณกว้างในเมืองโอ๊คแลนด์ ส่งผลให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจ 3.4 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นความเสียหายที่มีประกันภัยคุ้มครอง  1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ   หลังจากนั้นเพียงสามสัปดาห์ เกิดพายุไซโคลน”กาเบรียล: Gabrielle”    สร้างความเสียหายเพิ่มขึ้นเป็นพันล้านดอลลาร์สหรัฐ  ซึ่งเหตุการณ์ทั้งสองเหตุการณ์นี้กลายเป็นเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับสภาพอากาศที่มีความเสียหายสูงสุดสำหรับอุตสาหกรรมประกันภัยในท้องถิ่น( insured losses) เมื่อพิจารณาจากตัวเลขที่ปรับตามอัตราเงินเฟ้อแล้ว

บริษัทประกันภัยของออสเตรเลียประสบความเสียหายอย่างมากจากเหตุการณ์พายุลูกเห็บ”นิวคาสเซิล: Newcastle )ในเดือนพฤษภาคม  โดยเฉพาะในเดือนธันวาคมที่มีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้น 2 เหตุการณ์ เหตุการณ์แรกคือน้ำท่วมอย่างกว้างขวางทางตอนเหนือของรัฐควีนส์แลนด์จากอิทธิฤทธิ์ของพายุไซโคลน”แจสเปอร์ Jasper” และเหตุการณ์ที่สองคือพายุ”คริสต์มาส: Christmas) ที่ส่งผลกระทบต่อออสเตรเลียตะวันออก และส่งผลให้มีการเคลมสินไหมทดแทนมากกว่า 65,000 ครั้ง

ในปี 2566  ความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจเกือบ  1.3หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นความเสียหายที่มีประกันภัยคุ้มครอง 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ  ซึ่งความเสียหายเนื่องจากพายุไซโคลนเขตร้อนในเอเชียและโอเชียเนียต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในศตวรรษที่ 21 ถึง 53% และ 70% ตามลำดับ ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตจากพายุหมุนเขตร้อนยังอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำเป็นปีที่สองติดต่อกัน อาจเป็นผลมาจากมาตรการรับมือภัยพิบัติและการปรับตัวที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ชุมชนหลายแห่งในหลายประเทศยังคงมีความเสี่ยงอยู่  อาทิ  เมียนมาร์ ซึ่งมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 463  คนจากเหตุการณ์พายุไซโคลน” โมคา: Mocha “ เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา 

แผ่นดินไหว

ในปี 2566 ภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิกสั่นสะเทือนด้วยเหตุการณ์แผ่นดินไหวใหญ่ที่เกิดขึ้นหลายครั้ง  มีผู้เสียชีวิตเกือบ 1,500 คน จากแผ่นดินไหวหลายครั้งในจังหวัดเฮรัต (Herat Province)  ของอัฟกานิสถานในเดือนตุลาคม และบ้านเรือนมากกว่า 200,000 หลังได้รับความเสียหายในมณฑลกานซู (Gansu Province) ของจีนในเดือนธันวาคม

เกือบทั้งภูมิภาคเผชิญกับอุณหภูมิที่สูงมากเป็นเวลานานในปี 2566 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คลื่นความร้อนที่กินเวลานานหลายสัปดาห์ส่งผลกระทบต่อหลายประเทศในเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในเดือนเมษายนและพฤษภาคม ความเสียหายที่เพิ่มขึ้นหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐเป็นผลมาจากภาวะภัยแล้งที่ส่งผลกระทบอย่างหนักโดยเฉพาะจีนและอินเดีย

เพิ่มเราเป็นเพื่อนได้แล้ววันนี้!....