Insure World : ราคาประกันภัยโตช้าลงในช่วงไตรมาส 2

รายงาน “ตลาดประกันโลก”ในช่วงไตรมาสสองของปีนี้ของ Marshซึ่งเป็นโบรกเกอร์ประกันชั้นนำของโลก ชี้ว่า การกำหนดราคาประกันภัยในภูมิภาคแปซิฟิก เพิ่มขึ้นประมาณ 7% ในช่วงไตรมาสสองของปีนี้ ลดลงจาก 10% ในช่วงไตรมาส 1 และเป็นการเพิ่มขึ้นในอัตราที่ลดลงเป็นไตรมาสที่หกติดต่อกัน

การกำหนดราคาประกันภัยในแปซิฟิกโตในเกณฑ์ปานกลาง โดยโตขึ้น 7% ในขณะที่ในเอเชียโต 3% สหรัฐโต 10% และอังกฤษโต 11%

รายงานของ Marsh ได้สรุปสถานการณ์ในการกำหนดราคาในแปซิฟิกในช่วงไตรมาสสองของปีนี้ไว้ดังต่อไปนี้

อัตราการกำหนดราคาประกันทรัพย์สิน เพิ่มขึ้นประมาณ 5% ลดลงจาก 8% ในไตรมาสสองของปีที่แล้ว แม้ว่าเกิดน้ำท่วมอย่างรุนแรงในรัฐควีนส์แลนด์ และนิว เซาธ์ เวลส์ของออสเตรเลีย

-อัตราราคาประกันภัยในเขตที่เกิดภัยพิบัต (CAT zones) โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำท่วม มีการเน้นรับทำประกันภัยเพิ่มขึ้น เช่น ประกันการหยุดชะงักของธุรกิจที่อาจเกิดขึ้น, ค่าเสียหายส่วนแรกภาคสมัครใจ(deductible )และการบรรเทาความเสี่ยง

-ให้คำมั่นที่สามารถแสดงให้เห็นได้ว่า การปรับปรุงความเสี่ยงอย่างต่อเนื่องมีความสำคัญต่อความสำเร็จในการต่ออายุประกันภัย

-การประเมินมูลค่าเริ่มเป็นโฟกัสสำคัญในการรับทำประกันภัยแก่บริษัทประกันภัยเนื่องจากภาวะเกิดเงินเฟ้อทั่วโลก

อัตราการกำหนดราคาประกันวินาศภัย เพิ่มขึ้นประมาณ 11% ลดลงจาก 15% ในแต่ละไตรมาสของสามไตรมาสก่อนหน้า

-บริษัทประกันยังคงระมัดระวังเนื่องจากมีเงินเฟ้อเกี่ยวกับค่าสินไหมทดแทน ขีดความสามารถที่มีอยู่ลดลง และแบบประกันต่างๆมักประสบปัญหาในการจัดวาง

-มีการเลือกความเสี่ยงมากกว่าในอดีต

-มีการปรับโครงสร้างแบบประกันหลักมากเนื่องจากความต้องการในการรับทำประกันของบริษัทประกันเปลี่ยนแปลงไป

อัตราการกำหนดราคาประกันสาขาการเงินและสาขาอาชีพต่างๆ เพิ่มขึ้นประมาณ 6% ลดลงจาก 10% ในไตรมาสก่อนหน้า

-การกำหนดราคาในตลาดประกันภัยความรับผิดของกรรมการและเจ้าหน้าที่ (Directors and Officers Liability Insurance หรือ D&O ) ลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2550

-การแข่งขันยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะสำหรับ ค่าเสียหายส่วนแรกภาคบังคับ(excess layers) ซึ่งส่งผลให้กำหนดราคาได้ดีขึ้น

-การประกันภัยไซเบอร์ยังคงมีความท้าทาย เนื่องจากเกิดความสูญเสียจากไวรัสเรียกค่าไถ่( ransomware )อย่างรุนแรงเป็นประจำ