กองทุนเงินออมแห่งชาติ ep.2 สร้างบำนาญด้วยตัวคุณเอง

ตอนที่แล้ว กองทุนเงินออมแห่งชาติ ep.1 ของมันต้องมี! ผมได้เล่าให้ฟังถึง “กองทุนการออมแห่งชาติ” ว่าของมันต้องมี เพราะรัฐบาลช่วยจ่ายเงินสะสมเพิ่มให้คุณออมได้มากขึ้น ช่วยให้เพื่อนๆ มีเงินออมในยามเกษียณมากขึ้น หากนึกไม่ออก ให้ดูภาพเปรียบเทียบระหว่างการออมด้วยตัวเอง กับการออมผ่านกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ด้านล่างนี้ 

เห็นได้ชัดเลยว่าการออมผ่านกองทุนเงินออมแห่งชาตินั้นช่วยให้เรามีเงินก้อนที่ใหญ่ขึ้นมากกว่าการออมด้วยตัวเองเพียงลำพัง เพราะมีเงินที่รัฐช่วยสมทบเพิ่มเข้ามาให้  ด้วยเหตุผลที่รัฐช่วยจ่ายสมทบเพิ่มให้นั้น เพราะต้องการสร้างแรงจูงใจให้คนไทยทุกคนได้สร้างกองทุนเพื่อการเกษียณของตัวเองได้

รูปแบบการรับเงินบำนาญคืนจาก กองทุนเงินออมแห่งชาตินี้  ทางกองทุนฯจ่ายคืนให้เป็นรายเดือนเมื่อผู้ส่งมีอายุ 60 ปีไปจนสิ้นอายุขัยคล้ายกับเงินบำนาญของข้าราชการเลยครับ  

เพื่อน ๆ อาจจะสงสัยว่า แล้วเราจะได้เงินออมเท่าไหร่ อันนี้กฎหมายมีการกำหนดสูตรคำนวณไว้ชัดเจน ตามนี้เลยครับ

เห็นสูตรคำนวณยาก ๆ แบบนี้ เพื่อน ๆ ไม่ต้องตกใจ กลัวว่าจะคำนวณไม่เป็นครับ เพื่อน ๆ สามารถเข้าไปที่เว็บไซต์ https://pension.nsf.or.th/ แล้วลองกรอกอายุที่ต้องการเริ่มออม และจำนวนเงินที่ต้องการออมต่อเดือน แล้วหลังจากนั้นเว็บไซต์ก็จะคำนวณเงินบำนาญที่คาดว่าจะได้ตอนเกษียณออกมาให้เลยครับ ไม่ต้องเสียเวลามา บวก ลบ คูณ หาร ยกกำลังให้วุ่นวายแต่อย่างใด

หรือถ้าเพื่อน ๆ ต้องการคำนวณแบบย้อนกลับ คือ เอาเงินบำนาญต่อเดือนที่อยากได้เป็นตัวตั้ง แล้วหาจำนวนที่ต้องออมต่อเดือนก็ได้ครับ เพื่อน ๆ ก็เพียงแต่กรอกตัวเลขเงินบำนาญที่ต้องการได้รับตอนเกษียณต่อเดือน กรอกอายุที่จะเริ่มออม เท่านี้ ระบบก็จะคำนวณเงินที่เพื่อน ๆ ต้องออมต่อเดือนออกมาให้ครับ

แต่ถ้ายังยากไป หรือเพื่อน ๆ ไม่มีเวลา ผมก็ช่วยหยอดตัวเลข แล้วเอามาทำตารางเปรียบเทียบให้เพื่อน ๆ ดูเป็นแนวทางตามนี้เลยครับ

จากตารางเพื่อน ๆ จะสังเกตได้ว่าหากเราเริ่มออมเร็ว และออมมากหน่อย เงินบำนาญที่เราจะได้รับจะมากขึ้นเป็นทวีคูณเลย ซึ่งเพื่อน ๆ อาจจะดูว่ามันไม่มาก แต่อย่าลืมว่าถึงตอนนั้น เพื่อน ๆ อาจจะไม่มีแรงทำงานกันแล้ว จะหวังพึ่งสวัสดิการเบี้ยผู้สูงอายุของรัฐบาลเดือนละ 600 บาท ก็อาจจะไม่พอ อย่างน้อยมีเงินบำนาญที่เราสร้างไว้เองก้อนหนึ่ง ให้พออุ่นใจได้ว่าเราจะมีเงินใช้ไปเรื่อย ๆ จนกว่าเราจะลาโลกนี้ไป ดีกว่ายังไม่ตายแต่ไม่มีเงินจนอาจจะต้องอดตายจริงไหมครับ  🙂