ประกันสุขภาพ ของมันต้องมี ซื้อ ไม่ซื้อ ดี ?

สุขภาพการเงินจะดีได้อยู่ที่การวางแผนการเงินของเราให้เป็นระบบและมีวินัย เงินออมของเราที่เก็บมาทั้งชีวิตสำหรับใช้จ่ายยามเกษียณอาจหมดได้กับค่าใช้จ่ายในเรื่องของโรคภัยไข้เจ็บหรือโรคร้ายแรงที่มีโอกาสถามหาเราได้ทุกขณะ

สมาคมประกันชีวิตไทย ระบุ ค่ารักษาพยาบาลที่แพงสูงขึ้นทุกปี ๆ ละ 8-10% มีปัจจัยสำคัญมาจากเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่นำมาใช้ ค่าบำรุงรักษา ค่าบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความสามารถ ยกตัวอย่าง การนำเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาใช้รักษาพยาบาลผู้ป่วย ยกตัวอย่างเช่น

ในอดีต การผ่าตัดไส้ติ่ง มีค่ารักษาพยาบาลประมาณ 20,000 -30,000 บาทต่อการรักษาพยาบาล 1 ครั้ง รวมระยะเวลาพักฟื้นหลังการผ่าตัดในโรงพยาบาล 3-5 วัน

ปัจจุบัน มีการนำเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาใช้ อาจทำให้ ผู้ป่วย เจ็บจากการผ่าตัดน้อยลง มีระยะเวลาพักฟื้นหลังผ่าตัดสั้นลง อาจใช้เวลา 1 วัน ผู้ป่วยสามารถกลับไปพักฟื้นต่อที่บ้านได้ อาจทำให้ค่ารักษาพยาบาลจาก 20,0000-30,000 บาท ต่อการรักษาพยาบาล 1 ครั้ง เพิ่มขึ้นเป็น 50,000 บาทต่อครั้ง สำหรับโรงพยาบาลขนาดกลาง แต่ถ้าเป็นโรงพยาบาลที่ทันสมัย หรือเป็นที่รู้จักกันระดับชั้นนำ ค่าใช้จ่ายก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย

เพราะฉะนั้นการวางแผนมี “ประกันสุขภาพ” จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ทุกคนควรต้องมี ไว้รองรับความเสี่ยงเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระให้กับเรา โดยไม่ต้องนำเงินออมที่เก็บมาทั้งชีวิตใช้จ่ายและหมดไปกับเรื่องสุขภาพ

ประกันสุขภาพ แบ่งออกเป็น 2 รูปแบบหลักๆ

ประกันสุขภาพแบบกลุ่ม คือ คนทำงานจะคุ้นเคยและรู้จักเป็นอย่างดีเพราะเป็นสวัสดิการของบริษัทที่คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลพนักงานในองค์กร

ประกันสุขภาพส่วนบุคคล คือ ประกันสุขภาพที่ “ผู้เอาประกัน” ซื้อแบบสมัครใจ สามารถเลือกความคุ้มครองตามความเหมาะสมของการเงินของเราได้

ประเภทของ “ประกันสุขภาพ” ตามความคุ้มครอง

1.ประกันสุขภาพแบบผู้ป่วยใน (IPD) คือ ประกันที่ทำหน้าที่ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลหากต้องมีการพักรักษาตัวในโรงพยาบาล ไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมง

2.ประกันสุขภาพผู้ป่วยนอก (OPD) คือ ประกันที่ทำหน้าที่ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลในกรณีเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล แต่ไม่ต้องนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาล หรือพักรักษาตัวแต่น้อยกว่า 6 ชั่วโมง

3.ประกันสุขภาพโรคร้ายแรง (CI) คือ ประกันสุขภาพที่ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลและค่าใช้จ่ายต่างๆ หากต้องเข้ารับการรักษาโรคร้ายแรงโดยเฉพาะ เช่น โรคมะเร็ง

4.ประกันอุบัติเหตุ (PA) คือ ประกันที่จะคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลเกี่ยวกับการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุต่างๆ ตั้งแต่เล็กน้อย จนไปถึงเคสร้ายแรง

5.ประกันชดเชยรายได้ คือ ประกันที่จะช่วยชดเชยรายได้ หากต้องเข้ารับการรักษานอนโรงพยาบาล หรือเกิดอุบัติเหตุต้องพักรักษาตัว จนต้องหยุดงานขาดรายได้นั่นเอง

#ประกันสุขภาพ #วางแผนการเงิน #สมาคมประกันชีวิตไทย #ค่ารักษาพยาบาลแพง #ใช้ชีวิตให้สมาร์ทวัยเกษียณ #อินวายINNWhy #INNWhy #ผ่าตัดไส้ติ่ง #ตัวแทนประกันชีวิต #นายหน้าประกันภัย

Cr. สมาคมประกันชีวิตไทย , SCBLIFE