รู้เท่าทันภัย”ไข้เลือดออก”

หน้าฝนเป็นช่วงที่ต้องดูแลสุขภาพมากเป็นพิเศษ เพราะโรคที่แฝงมากับสายฝนนั้นมีมากมายทั้งจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงทำให้มีความชื้นสูงถือเป็นการบ่มเพาะเชื้อโรคให้เจริญเติบโตได้ดี “ไข้เลือดออก” เป็นอีกโรคหนึ่งที่ต้องเฝ้าระวังอย่างมากในช่วงฤดูกาลนี้ยุงลายตัวเมียเป็นพาหะตัวร้ายในการแพร่เชื้อไวรัสสายพันธุ์ “เด็งกี” เพราะทันทีที่ยุงลายกัดและดูดเลือดผู้ป่วยที่อยู่ในระยะไข้ซึ่งเป็นระยะที่มีเชื้อไวรัสอยู่ในกระแสเลือดมาก

นายกรกฤต คำเรืองฤทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เจนเนอราลี่ ประกันภัย (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า โรคไข้เลือดออกปกติจะต้องนอนรักษาตัว เพื่อให้แพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิดอย่างน้อย 2-3 วัน ซึ่งประกันสุขภาพทั้งส่วนบุคคลและประกันสุขภาพกลุ่มที่นายจ้างทำให้ จะให้ความคุ้มครองเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายทั่วไปที่เกิดจากการรักษาพยาบาล ค่าห้องพัก ซึ่งสัญญาการรับประกันของแต่ละบริษัทจะให้ความคุ้มครองที่แตกต่างกัน

“บางกรณีผู้เอาประกันได้มีการซื้อสัญญาเพิ่มเติม ในส่วนของการชดเชยรายได้ไว้ด้วยเมื่อเจ็บป่วย หากต้องหยุดงานอาจทำให้รายได้สูญเสียไป ซึ่งบริษัทประกันจะชดเชยรายได้ที่สูญเสียไปในช่วงที่เจ็บป่วยไม่สามารถทำงานได้ ส่วนจำนวนเงินชดเชยรายได้นั้นขึ้นอยู่กับผู้เอาประกันเลือก ซึ่งแน่นอนว่าจำนวนเงินชดเชยรายได้นั้นจะมีผลต่ออัตราเบี้ยประกันภัยที่สูงขึ้นตามที่เราเลือกอัตราชดเชยรายได้ไว้” นายกรกฤต กล่าวทิ้งท้าย

ล่าสุดกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้ออกมาย้ำเตือนถึงสถานการณ์การระบาดของโรคไข้เลือดออกในปีนี้ว่าค่อนข้างน่าเป็นห่วงเนื่องจากปกติโรคไข้เลือดออกจะระบาดในช่วงฤดูฝน แต่เนื่องจากปีนี้ฝนมาเร็วทำให้อากาศร้อนชื้นจึงพบผู้ป่วยไข้เลือดออกสูงกว่าปกติ สถิติตั้งแต่เดือนมกราคม- พฤษภาคม 2561 พบผู้ป่วยด้วยโรคไข้เลือดออกแล้วจำนวน 13,164 ราย เสียชีวิต 19 ราย และพบว่าตั้งแต่เดือนเมษายนเป็นต้นมา มีจำนวนผู้ป่วยไข้เลือดออกสูงเกินกว่าอัตราค่าเฉลี่ยของอัตราผู้ป่วยในรอบ 5 ปีที่ผ่านมาเลยทีเดียว กรมควบคุมโรคได้คาดการณ์จำนวนผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกในปีนี้น่าจะสูงถึง 75,000 ราย และยังคาดว่าจะทำให้อัตราผู้ป่วยเสียชีวิตสูงกว่าปกติอีกด้วย โดยกลุ่มเสี่ยงที่สําคัญยังคงเป็นกลุ่มที่มีอายุระหว่าง 15 – 24 ปี

ด้านแพทย์หญิงวิไลรัตน์ หล้ามาชน กุมารแพทย์คลินิกเด็ก โรงพยาบาลหัวเฉียวกล่าวถึงความน่ากลัวของไข้เลือดออก ว่า ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกันโรคไข้เลือดออกโดยเฉพาะทำได้เพียงการรักษาประคับประคองตามอาการอย่างใกล้ชิด หากมีไข้สูงมากและปวดหัวรุนแรง เบื้องต้นจะใช้ยาระงับอาการ คือ พาราเซตามอล

“ความรุนแรงของไข้เลือดออก หากไม่ได้รับการรักษาผู้ป่วยจะมีโอกาสเสียชีวิตสูงถึง 50% จากการเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ไตวาย สมองทำงานผิดปกติหากอยู่ในระยะช็อกคุณหมอจะให้กินเกลือแร่ เพราะเมื่อเกล็ดเลือดต่ำความสามารถในการห่อหุ้มน้ำเลือดของหลอดเลือดจะลดลง ทำให้น้ำเลือดไหลซึมออกมาได้ เป็นสาเหตุที่ทำให้ความเข้มข้นของเลือดสูง เมื่อกินเกลือแร่เข้าไปจะสามารถทดแทนน้ำเลือดที่ซึมออกไปได้ แต่หากเป็นระยะที่มีความผิดปกติมาก มีอาการช็อก หรือผู้ป่วยไม่สามารถทานเกลือแร่ได้จะให้น้ำเกลือชนิดพิเศษสำหรับไข้เลือดออกโดยเฉพาะ ซึ่งเมื่อเข้าสู่กระแสเลือดแล้วจะรั่วซึมออกมาช้าลง เพื่อช่วยบรรเทาอาการ”แพทย์หญิงวิไลรัตน์ กล่าวในที่สุด

เพิ่มเราเป็นเพื่อนได้แล้ววันนี้!....