FWDใกล้ทำข้อตกลงขายหุ้นมากกว่า 1,400 ล้านดอลลาร์ ขณะเดียวกัน เตรียมขาย “ไอพีโอ”ในฮ่องกง หลังระงับแผนจดทะเบียนในสหรัฐ

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า บริษัท FWD Group ของมหาเศรษฐีริชาร์ด ลี ใกล้ที่จะได้ทำข้อตกลงเพื่อระดมทุนได้มากกว่า 1.400 ล้านดอลลาร์ ด้วยการเสนอขายหุ้นแก่บุคคลในวงจำกัด(พีพี) ในขณะเดียวกัน บริษัทเตรียมที่จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่สาธารณะชนเป็นครั้งแรก(ไอพีโอ)ในฮ่องกง หลังจากที่ได้ระงับแผนจดทะเบียนในตลาดสหรัฐ

แหล่งข่าว กล่าวว่า นักลงทุนรายใหม่ที่สนับสนุนบริษัท ได้แก่ Apollo Global Management และ Canada Pension Plan Investment Board ขณะที่ผู้ถือหุ้นเดิมจำนวนหนึ่งซึ่งรวมถึง Swiss Re ก็เข้าร่วมในการระดมทุนรอบนี้ด้วย โดยบริษัทน่าจะประกาศการระดมทุนในวันอังคารที่ 14 ธ.ค.เป็นอย่างเร็ว

หลังจากที่ระดมทุนได้ประมาณ 9,000 ล้านดอลลาร์ FWD น่าจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นประมาณ 1.2-1.3 เท่า แหล่งข่าวกล่าวว่า เงินที่ระดมมาได้จะช่วยให้บริษัทเพิ่มการเติบโตและลดหนี้ลงได้มาก หลังจากที่หนี้ได้พอกพูนเพราะได้เข้าไปถือสิทธิ์ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และนักลงทุนใหม่จะสนับสนุนเงินทุนมากกว่าครึ่งหนึ่งของการตกลงขายหุ้น

FWD กำลังเปลี่ยนมาจดทะเบียนในฮ่องกงในช่วงต้นปีหน้า หลังจากแผนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐหยุดชะงัก เนื่องจากมีความกังวลเพิ่มขึ้นจากหน่วยงานกำกับดูแลของรัฐบาลจีน ในขณะเดียวกัน ความผันผวนในตลาดเมื่อเร็วๆนี้และการตอบรับจากนักลงทุนก็เป็นปัจจัยที่ทำให้บริษัทตัดสินใจมาจดทะเบียนในฮ่องกง เช่นกัน

บลูมเบิร์กรายงานว่า แม้ FWD จะได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ(SEC) ให้เริ่มทำการตลาดเสนอขายไอพีโอแก่นักลงทุนได้ แต่ บริษัทก็ตัดสินใจเปลี่ยนมาจดทะเบียนในตลาดฮ่องกง ซึ่งอาจสามารถระดมทุนได้มากถึง 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ตามหนังสือที่แจ้งแก่SEC มูลค่าธุรกิจใหม่ของ FWD เพิ่มขึ้น 45% ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า และในช่วงไตรมาสสาม มูลค่าธุรกิจใหม่โตจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้ามากกว่า 20%

การย้าย IPO ของบริษัทไปยังตลาดฮ่องกง จะเป็นการเดินตามรอยของบริษัท ตี้ตี้ โกลบัล บริษัทรถร่วมโดยสารรายใหญ่ของจีน ซึ่งเมื่อต้นเดือนนี้ได้ตัดสินใจเข้าจดทะเบียนในฮ่องกงและถอนหุ้นออกจากตลาดสหรัฐเพียง 5 เดือนหลังจากได้เข้าไปจดทะเบียน การย้ายตลาดอย่างรุนแรงนี้ ย้ำให้เห็นว่า การเดิมพันต่อหุ้นจีนยังคงมีความเสี่ยงมากเพียงไร หลังจากที่ประธานาธิบดี สี จิ้นผิงได้ รณรงค์นานกว่าหนึ่งปีเพื่อสร้างภาคเทคโนโลยีของประเทศขึ้นใหม่พร้อมกับการรณรงค์อื่น ๆอีกหลายอย่างในเศรษฐกิจใหญ่สุดของเอเชีย