เรือขวางคลองสุเอซ ทำให้บริษัทประกันภัยต่อ ขาดทุนจำนวนมาก

ฟิตช์ เรตติ้ง ชี้ เหตุการณ์ที่เรือ “เอเวอร์ กิฟเวน”เกยตื้นขวางคลองสุเอซ จนส่งผลให้เกิดความวุ่นวายต่อการขนส่งสินค้าทางเรือทั่วโลก น่าจะทำให้บริษัทรับประกันภัยต่อขาดทุนเป็นจำนวนมาก

ฟิตช์ระบุว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะลดกำไรของบริษัทประกันภัยต่อทั่วโลก แต่ไม่ควรจะมีผลกระทบมากต่อความน่าเชื่อถือของบริษัท อย่างไรก็ดี ราคาประกันภัยต่อทางทะเลจะเพิ่มขึ้น

ฟิตช์ประเมินว่า ความสูญเสียที่เกิดจากการขวางคลองสุเอซเกือบหนึ่งสัปดาห์อาจจะมีมูลค่าหลายร้อยล้านยูโร แต่การเรียกร้องความเสียหายที่เกี่ยวกับการประกันสินค้าและตัวเรือ ซึ่งรวมถึงการกู้เรือ ควรจะยังคงคงต่ำกว่าระดับนั้นมาก เนื่องจากเรือเอเวอร์ กิฟเวน เดินเรือต่อไปได้เมื่อพ้นจากการเกยตื้น

อย่างไรก็ดี ฟิตช์ กล่าวว่า สมาคมผู้รับประกันภัยของเจ้าของเรือ น่าจะถูกเรียกร้องค่าเสียหายจากเจ้าของสินค้าบนเรือเอเวอร์ กิฟเวน และเรืออื่นๆที่ถูกขวางในคลองสุเอซ เพื่อเรียกค่าเสียหายที่เกี่ยวกับสินค้าและการหยุดชะงักของซัพพลายเชน นอกจากนี้อาจจะถูกเรียกค่าเสียหายจากองค์การคลองสุเอซซึ่งสูญเสียรายได้ด้วย

ฟิตช์ กล่าวว่า ความสูญเสียเหล่านี้ส่วนใหญ่ น่าจะ มีการทำประกันภัยต่อโดยกลุ่มบริษัทประกันภัยต่อทั่วโลก

แต่เหตุการณ์ที่สร้างความสูญเสียไม่ควรจะมีผลต่อความน่าเชื่อถือของบริษัทประกันภัยต่อ เพียงแต่จะเพิ่มแรงกดดันให้กับกำไรในช่วงครึ่งปีแรกของบริษัท เนื่องจากกำไรได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ เช่นพายุฤดูหนาวในสหรัฐอเมริกาและน้ำท่วมในออสเตรเลีย รวมถึงการสูญเสียที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 อยู่แล้ว

ในปีที่ผ่านมา บริษัท ประกันภัยต่อทั่วโลกรายงานว่า กำไรลดลงอย่างรุนแรง เนื่องจากต้องจ่ายค่าสินไหมทดแทนและสำรองค่าสินไหมทดแทนที่เกี่ยวข้องกับการระบาด อย่างไรก็ฟิตช์ กล่าวว่า ผลประกอบการเบื้องต้นดีขึ้นเนื่องจากมีการปรับราคาขึ้นมากในธุรกิจประกันภัยต่อและธุรกิจประกันภัย นอกจากนี้ สถานะเงินทุนของบริษัทประกันภัยต่อแข็งแกร่งในช่วงปลายปี 2563 แต่ภัยพิบัติในปี 2564 น่าจะสร้างความตึงเครียดเพิ่มขึ้นให้กับตลาดประกันภัยต่อ และตลาดประกันเชิงพาณิชย์ และทำให้ราคาสูงขึ้น