ชับบ์ฯ มอบ ‘ตู้ชับบ์ปันสุข’ สาขาทั่วไทยช่วยชุมชนที่ได้ผลกระทบโควิด-19
บริษัท ชับบ์สามัคคีประกันภัย จำกัด (มหาชน) (“ชับบ์สามัคคีประกันภัย”) เปิดตัวโครงการช่วยเหลือสังคม เพื่อช่วยบรรเทาทุกข์ให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วยการส่งมอบ “ตู้ชับบ์ปันสุข” ให้คนในชุมชนที่เดือดร้อนสามารถหยิบสิ่งของที่ตนต้องการในจำนวนที่พอดี และเชิญชวนผู้ที่ประสงค์จะแบ่งปันใส่ของบริจาคได้ที่ตู้ชับบ์ปันสุข ทั้งนี้ บริษัทได้ตั้งตู้ชับบ์ปันสุขอยู่ที่หน้าสาขาของชับบ์สามัคคีประกันภัยสาขาละ 1 ตู้ ทั้ง 15 สาขา ทั่วประเทศไทย และได้จัดงานเปิดตัว “ตู้ชับบ์ปันสุข” อย่างเป็นทางการ ณ บมจ. ชับบ์สามัคคีประกันภัย สาขาจังหวัดนครปฐม
ในขณะที่ในประเทศไทยมีมาตรการป้องกัน และลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ดีแต่วิกฤติโรคระบาดนี้ยังคงส่งผลกระทบต่อสภาวะทางเศรษฐกิจและสังคม ทำให้มีผู้ว่างงาน และผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก
นายแอนดรูว์ นิสเบ็ท ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ชับบ์สามัคคีประกันภัยกล่าวว่า “ สำหรับชับบ์ การติดตั้ง “ตู้ชับบ์ปันสุข” นับเป็นโอกาสที่ดีที่เราได้มีโอกาสตอบแทนสังคมที่เราอาศัยและทำงานอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อช่วยเหลือผู้ที่กำลังเผชิญกับความยากลำบากในขณะนี้ นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยผมได้เห็นถึงน้ำใจของคนไทยที่มีความเอื้ออาทรต่อกัน และให้ความช่วยเหลือผู้ที่ขาดแคลน พวกเราชาวชับบ์สามัคคีประกันภัย ได้ร่วมกันบริจาคสิ่งของที่จำเป็น พร้อมทั้งเชิญชวนคู่ค้าและพันธมิตรทางธุรกิจมาร่วมแบ่งปัน โดยการนำสิ่งของมาบริจาคในตู้ชับบ์ปันสุขหากท่านใดที่กำลังประสบปัญหา ก็สามารถเข้ามาหยิบสิ่งของที่จำเป็นสำหรับการดำรงชีวิตจากตู้ชับบ์ปันสุขได้ซึ่งผมคิดว่าโครงการนี้ จะทำให้เกิดความสุขทั้งจากการเป็นผู้ให้และการเป็นผู้รับ”
ภายใน “ตู้ชับบ์ปันสุข” บรรจุไปด้วยสิ่งของที่จำเป็นในการยังชีพ อาทิ ข้าวสาร อาหารแห้ง อาหารกระป๋อง น้ำดื่ม ขนมขบเคี้ยว เครื่องดื่มชงสำเร็จรูป นมกล่อง ฯลฯ ซึ่งในวันเปิดตัวตู้ชับบ์ปันสุขนี้ นายแอนดรูว์ นิสเบ็ท พร้อมด้วย พนักงานชับบ์สามัคคีประกันภัย ตัวแทนและนายหน้า และอู่ซ่อมรถยนต์ในเครือข่าย ร่วมกันแจกชุดข้าวกล่องและน้ำดื่มชับบ์ จำนวน 200 ชุด พร้อมทั้งสิ่งของที่จำเป็นในการยังชีพ ให้แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19พร้อมทั้งจัดให้มีการเว้นระยะห่างตามมาตรการที่ทางการได้กำหนดไว้