จาก Web Designer สู่ Blogger
“สีรุ้ง พงษ์พานิช” : “อยู่ในโซเชียลฯไม่ใช่เรื่องง่ายๆ และไม่มีอะไรอยู่ค้ำฟ้าด้วย”
กว่าจะมาเป็น Net Idol แห่งวงการท่องเที่ยว มีผู้ติดตามทะลุหลักล้านคนไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ในยุคสังคมออนไลน์ ยุคที่ใครๆก็เป็นสื่อได้ด้วยตัวเองและการรักษาแฟนคลับให้อยู่เป็นเพื่อนคู่ใจเพจของเรายิ่งเป็นเรื่องที่ยากยิ่งกว่า
วันนี้ “สีรุ้ง พงษ์พานิช” หนึ่งในบล็อกเกอร์แนวหน้าของเมืองไทย ด้านการท่องเที่ยว เจ้าของ Fanpage Facebook ชื่อ Unseen Tour Thailand เพจยอดนิยมที่มีแฟนคลับคอยติดตามผลงานเธอเกินกว่า 2 ล้านคนได้บอกเล่าเรื่องราวชีวิตของเธอบนโลกออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ innwhy ถึงการใช้ชีวิตอยู่ในสังคมออนไลน์(Social Media) ว่า ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่ทำไมเธอถึงอยู่ได้ เรามาติดตามเรื่องราวจากเธอกันค่ะ
“สีรุ้ง” บอกว่า วันนี้เธอยังไม่รู้เลยว่า ตัวเธอเองนั้นใช่ Net Idol หรือเปล่า ใช่ Blogger หรือเปล่า รู้แต่เพียงว่า มีจิตอาสาที่อยากนำภาพที่สื่อถึงเรื่องราวสถานที่ท่องเที่ยวสวย ๆ งาม ๆ ที่มีอยู่มากมายในเมืองไทยทั้งที่เธอถ่ายเองและภาพที่แฟนคลับส่งมาให้มาแชร์บนเพจให้สาธารณะได้เห็น ได้ชมแล้วมีความสุขและอยากเดินทางไปท่องเที่ยวในสถานที่นั้นๆ แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว
การที่มียอดแฟนเพจติดตามมากมายอย่างล้นหลามและยังคงมีผู้ติดตามเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เธอบอกว่า รู้สึกมีกำลังใจและต้องขอบคุณทุกๆคนที่ติดตาม ทำให้ต้องทำหน้าที่ตรงนี้ให้ดีที่สุดต่อไป
ถามว่า “สีรุ้ง”อยู่ตรงนี้ได้อย่างไร และอยู่มานานแค่ไหน แล้วอนาคตหล่ะ….เพราะทุกวันนี้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า แฟนเพจของเธอเหนียวแน่นจริงๆ สังเกตได้ไม่ยาก ในทุกครั้งเวลาที่เธอโพสต์ภาพแหล่งท่องเที่ยวสวยๆ ของเมืองไทยผ่านหน้าเพจเฟซบุ๊ค จะมีแฟนคลับให้การติดตาม Comment และกดไลค์กดแชร์กันมากมาย
“สีรุ้ง” บอกว่า ถ้ามองจากภายนอกมาที่ตัวเธอ ทุกคนจะมองดูเหมือนเป็นเรื่องง่าย แต่แท้จริงแล้วเธอยืนยันอย่างหนักแน่นเลยว่า การอยู่ในสังคมออนไลน์ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ และไม่มีอะไรอยู่ค้ำฟ้าด้วย
เธอเล่าว่า กว่าจะมายืนอยู่ในจุดนี้นั้น เธอไม่ได้ทำงานที่เกี่ยวข้องกับตรงนี้เลย หากแต่ทำงาน ฟรีแลนซ์ตั้งแต่เรียนจบทำมานาน 10 ปี เป็นงาน Web Designer ไม่เกี่ยวกับด้านที่เธอเรียนมาเลย เธอเรียนด้านบริหารธุรกิจ แต่เพราะมีความชอบและหลงใหลส่วนตัวเรื่องเกี่ยวกับเว็บไซต์ อยากมีเว็บไซต์เป็นของตัวเองเลยไปหาซื้อหนังสือที่เกี่ยวข้องกับการเขียนโปรแกรมเว็บมาศึกษาเพื่อฝึกเขียนเว็บด้วยตัวเอง พอเริ่มเขียนได้ก็เริ่มรับงานออกแบบเว็บไซต์ พอมีลูกค้าคนที่1 ก็มีคนที่ 2 จากนั้นก็มีลูกค้าต่อเนื่องมาถึงตอนนี้มีลูกค้าที่ต้องดูแล 100 กว่าราย ทำให้ทำงานไม่ทันเลยต้องทำเท่าที่ทำไหวก่อน
เว็บไซต์ที่อยากมีเป็นของตัวเองในตอนนั้นมีความฝันว่า แค่อยากรวบรวมสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆในเมืองไทยและข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับสถานที่นั้นๆ ก็ทำเล่นๆ จนมาวันหนึ่งพอมีเวลาว่างเลยเข้าไปเช็คข้อมูลเว็บไซต์ตัวเองในกูเกิ้ลดูว่ามี User หรือใครเข้ามาดูเว็บของตัวเองบ้าง ก็ไปเจอชื่อเว็บไซต์ของตัวเองไปติดอยู่ในจดหมายของกระทรวงการต่างประเทศที่แนะนำให้ท่านทูตจากประเทศต่างๆ ได้เข้าอ่านเป็นแหล่งข้อมูล ซึ่งก็แปลกใจเพราะตามความเข้าใจของตัวเองนั้นดูแล้วเว็บไม่น่าจะมีอะไรเลย
ความรู้สึกตอนนั้น บอกตามตรงว่า รู้สึกภูมิใจมากที่ได้ทำประโยชน์ให้กับส่วนรวม เลยมีกำลังใจขึ้นมาและได้เห็นประโยชน์ของการรวบรวมข้อมูลและรูปภาพสวยๆ ว่ามีประโยชน์ต่อสังคมจริงๆ จากความตั้งใจทำที่ไม่ได้คิดอะไร ทำด้วยจิตอาสาเพราะมีรายได้อยู่แล้ว จากนั้นธุรกิจก็ตามมาโดยไม่รู้ตัว
ต่อมาพอ สังคมออนไลน์เริ่มบูมคนเริ่มมีอิสระในการเป็นสื่อด้วยตัวเองมากขึ้น ก็เริ่มมาทำเพจเฟซบุ๊ค ชื่อ Unseen Thailand เพื่อบริการ แบ่งปันภาพสวยๆงามๆ ในทุกซอกทุกมุมของเมืองไทยให้สาธารณะได้เห็นทั้งคนไทยด้วยกันเองและชาวต่างชาติที่อยู่ทั่วโลกจะได้มาเที่ยวเมืองไทยกันเยอะๆ พอทำบ่อยขึ้นๆ ก็ยิ่งรักในงานที่ทำและเกิดเป็น Passion โดยไม่รู้ตัว ทำให้อยากทำต่อไปและจะขอทำหน้าที่นี้ให้ดีที่สุด
เธอบอกว่า คนเราทำงานแล้วก็ต้องดูแลตัวเองด้วยโดยเฉพาะการวางแผนให้กับชีวิตตัวเองเพื่ออนาคตในวันข้างหน้า เพราะทุกคนมองว่า อนาคตอีกไกลเพราะเพิ่งเริ่มต้นทำงาน เพิ่งเรียนจบ แต่อย่าลืมว่าเวลาจะผ่านไปเร็วมาก งานที่ทำก็มีทั้งแน่นอนและไม่แน่นอน เธอวางแผนเก็บออมเงินตั้งแต่เริ่มต้นทำงานไประยะหนี่ง คือมาเริ่มเก็บเงินตอนอายุ 26 ปี ตอนนั้นลงทุนครั้งแรกด้วยการซื้อประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ ต่อมาก็จัดสรรรายได้ส่วนหนึ่งมาซื้อประกันชีวิตแบบบำนาญ ชนิดมีเงินปันผล เพื่อเอาไว้ใช้หลังตัวเองเกษียณ เพราะถ้ารออายุมากๆแล้วค่อยมาซื้อคงไม่มีเงินจำนวนมากมาส่งเบี้ยประกัน
รายได้ช่วงนั้นเธอบอกว่า ใช้อย่างประหยัดแต่มีจับจ่ายบ้าง แต่ก็ไม่ลืมที่จะไปศึกษาการลงทุนในรูปแบบอื่นๆด้วย ซึ่งตอนนี้เธอได้ขยับจากการลงทุนในประกันชีวิต ไปลงทุนในหุ้นส่วนหนึ่ง เป็นหุ้น VI แต่ก็มีบ้างลงทุนในหุ้นตัวเล็กเพื่อสร้างความตื่นเต้นให้กับตัวเอง
เธอทิ้งท้ายว่า น้องๆที่เริ่มต้นทำงานหรือพี่ๆที่ยังไม่เริ่มเก็บออมเพราะยังจัดสรรรายรับรายจ่ายไม่ลงตัว ถ้าเรามีความพร้อมแล้ว อยากให้มองว่าการออมเป็นสิ่งสำคัญ ให้ถือเป็นภาระกิจหนึ่งของตัวเรา และเมื่อออมแล้วให้ลองศึกษาการแบ่งเงินไปลงทุนให้งอกเงย ให้เลือกลงทุนในสิ่งที่ตัวเองถนัดซึ่งมีทั้งแบบเสี่ยงกับไม่เสี่ยงมากมาย เพราะเธอเองก็ไม่ใช่คนเก่งหรือเชี่ยวชาญเรื่องการลงทุนอะไรเลย แต่พอลงทุนไปแล้วก็จะไปศึกษาหาความรู้ในเรื่องที่เราลงทุนอยู่ตลอดเวลาเพื่อชีวิตในระหว่างทางก่อนเกษียณและบั้นปลายของเรา.
เพิ่มเราเป็นเพื่อนได้แล้ววันนี้!....
Blogger INNWhy Club : อยากเห็น…สังคมไทยวัยทำงาน…ใช้ชีวิตได้สมาร์ทช่วงวัยเกษียณ…มีสุขภาพกาย-ใจ-เงิน แข็งแรง… เริ่มวางแผนชีวิตด้วยการเก็บออมเงินอย่างถูกที่ถูกทางและมีวินัย…และหลังหยุดทำงานไปแล้ว…ยังมีเงินใช้อย่างเพียงพอไม่เป็นภาระลูกหลาน คนใกล้ชิด.