สถานการณ์แพร่ระบาดเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่ “โอไมครอน” ในไทยครั้งนี้ทำให้ต้องลุ้นกับภาวะเศรษฐกิจว่าจะเติบโตลดลงหรือเติบโตตามการคาดการณ์ ที่ร้อยละ 3.4-4.0 (สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติหรือ สศช.และธนาคารแห่งประเทศไทย หรือธปท.)  หรือเติบโตลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 2.6 กรณีไม่สามารถควบคุมสถานการณ์การระบาดครั้งนี้ได้ (บล.ไทยพาณิชย์)  

แต่ทุกคนก็อย่าเพิ่งถอดใจไปกันนะคะ มิฉะนั้นเราอาจจะมิได้ดำเนินกิจการงานและภารกิจใดๆเลย ขอเพียงแค่ทุกท่านไม่การ์ดตกและเข้มการดูแลตัวเองให้เพิ่มมากขึ้น ทั้งการฉีดวัคซีน  การเว้นระยะห่างทางสังคม (ถ้าไม่จำเป็นควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในกลุ่มคนหมู่มาก)  การสวมแมสต์ 2 ชั้นทุกครั้งที่พบปะผู้คนและไม่ใช้ซ้ำ รวมถึงใช้แอลกอฮอล์ทุกครั้งที่หยิบจับสัมผัสสิ่งใดๆต่อจากใคร  

การลงทุนเป็นเรื่องที่ต้องจับตาทั้งปัจจัยภายในและต่างประเทศ โดยเฉพาะผู้ที่สนใจในผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบการลงทุน หรือ ยูนิต ลิ้งค์ ที่กำลังหาจุดเริ่มต้นที่ไหนอย่างไรดี   อยากรู้บรรยากาศการลงทุนในตลาดกองทุนรวมที่ผ่านมาและปีนี้ทิศทางการลงทุนจะเป็นอย่างไร  หรือหน้าตากองทุนจะเป็นแบบไหนไม่รู้จัก แล้วจะเลือกกองทุนไหนดี ผลตอบแทนเป็นอย่างไรบ้างนั้น สิ่งแรกที่ทำได้ก่อนก็คือ การตามหา “ตัวแทนประกันชีวิต” ที่ใช่สำหรับเราและมีคุณสมบัติครบ 3 ข้อ ดังนี้   

1.เป็น ตัวแทนประกันชีวิต ที่สังกัดบริษัทประกันชีวิต         

2.มีใบอนุญาตผู้แนะนำการลงทุนด้านหลักทรัพย์ หรือ IC license กับ ก.ล.ต.

3.มีใบอนุญาตผู้มีสิทธิขาย Unit Linked ที่ออกโดย สำนักงาน คปภ.

ทั้งนี้ เพื่อให้ “ตัวแทนประกันชีวิต” ที่มีคุณสมบัติดังกล่าว  ให้คำแนะนำการลงทุนด้านหลักทรัพย์ และอธิบายความผลิตภัณฑ์ให้เราเข้าใจได้อย่างถูกต้องโดยกระจ่างในทุกแง่ทุกมุมนั่นเอง

อีกด้านหนึ่งเราก็ต้องทำการบ้านด้วยตนเองก่อนที่จะตัดสินใจซื้อด้วยเหมือนกัน เพราะแบบประกัน ยูนิต ลิ้งค์  เป็นแบบประกันที่เป็นทั้ง “ความคุ้มครองชีวิต” และ “การลงทุนในกองทุนรวม” ควบคู่กัน

และไม่มีการรับประกันมูลค่ากรมธรรม์ เนื่องจากมูลค่ากรมธรรม์ขึ้นอยู่กับ “มูลค่าหน่วยลงทุน” โดยอาจสูงขึ้นหรือต่ำลงก็ได้ขึ้นอยู่กับผลประกอบการของกองทุนรวม บริหารการลงทุนโดย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.)  ที่บริษัทประกันชีวิตมองแล้วว่าดีที่สุดจึงได้คัดสรรมา 

นอกจากนี้ผู้ซื้อควรให้ความสำคัญกับการทำความเข้าใจในเงื่อนไขและสิทธิประโยชน์ของแบบประกัน ยูนิต ลิ้งค์ ของบริษัทนั้นๆให้ดีเพื่อรักษาผลประโยชน์ของ “ผู้เอาประกัน” เองด้วย   

วันนี้เรามี แบบประกันชื่อ “เอไอเอ สมาร์ท เวลท์ ” ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบการลงทุน แบบจ่ายเบี้ยครั้งเดียว รับความคุ้มครองตลอดชีพ และเน้นการเติบโตของเงินทุน” มารีวิวกันว่ามีอะไรที่น่าสนใจบ้าง 

แบบประกัน “ เอไอเอ สมาร์ท เวลท์ ” นี้เป็นของ เอไอเอ บริษัทประกันยักษ์ใหญ่ที่อยู่ในประเทศไทยมาได้ 84 ปีแล้ว ปัจจุบันมีตัวแทนที่มีสิทธิขายผลิตภัณฑ์ ยูนิต ลิงค์ มากกว่า 10,000 คนทั่วประเทศ  

แบบประกัน “เอไอเอ สมาร์ท เวลท์”  เป็นผลิตภัณฑ์ 1 ใน 5 ที่อยู่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ยูนิต ลิ้งค์ ของ เอไอเอ ที่น่าสนใจตัวหนึ่งเหมาะสำหรับ “คนมีเงินก้อน” ที่ต้องการทั้ง “ความคุ้มครองชีวิต” และ “เพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนจากการลงทุนในกองทุนรวม”  หาซื้อได้ 3 ช่องทาง คือ ช่องทางตัวแทน ช่องทางธนาคารกรุงศรีฯและช่องทางธนาคารกรุงเทพ   

ผู้ซื้อสามารถซื้อได้ตั้งแต่อายุ 1 เดือนไปจนถึงอายุ 75 ปี และรับความคุ้มครองชีวิตยาวถึงอายุ 99 ปี ส่วนรูปแบบการชำระเบี้ยประกันเป็นแบบชำระครั้งเดียว  จำนวนเงินเอาประกัน 150% ของเบี้ยประกันภัยชำระครั้งเดียว การันตีถึงมือทายาทแม้มูลค่ากองทุนจะบวกหรือลบ

ส่วนเบี้ยประกันหลักขั้นต่ำอยู่ที่  200,000 บาท และไม่สามารถซื้อสัญญาเพิ่มเติมได้  แต่สามารถซื้อเบี้ยประกันภัยเพิ่มเติมพิเศษได้ ขั้นต่ำ 10,000 บาท แต่ไม่เกิน 10 เท่าของเบี้ยประกันภัย ชำระครั้งเดียว และไม่เกิน 120 ล้านบาทต่อปีกรมธรรม์ 

ตัวอย่างการคำนวณผลประโยชน์ แบบประกัน “เอไอเอ สมาร์ท เวลท์” ของเพศชาย อายุ 40 ปี สุขภาพมาตรฐาน  จำนวนเงินเอาประกันภัยหลัก 1,500,000 บาท ชำระเบี้ยประกันภัยชำระครั้งเดียว 1,000,000 บาท

https://campaigns.aia.co.th/unitlinked/public/pdf/brochure_smart_wealth.pdf

 ซื้อ “ยูนิต ลิ้งค์” แล้วมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง

หลังจากซื้อแบบประกันตามความต้องการของเราแล้ว เงิน 1 ก้อนของเราที่จ่ายไปนั้นจะถูกแบ่งออกเป็น 3  ส่วน คือ

ส่วนที่ 1 จ่ายเป็น “ค่าความคุ้มครองชีวิต” สามารถเลือกสัดส่วนความคุ้มครองได้ตามความต้องการของเรา เช่น ซื้อ 100 บาท เราต้องการแบ่งเป็นค่าความคุ้มครองชีวิต 40 บาท ส่วน 60 บาทให้บริษัทประกันชีวิตนำไปลงทุนในกองทุนรวม ทางบริษัทก็จะนำเงิน 60 บาทนี้ไปลงทุนในหลักทรัพย์และทรัพย์สินประเภทต่างๆ  

ส่วนที่ 2 เป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ ตามกรมธรรม์ที่บริษัทเรียกเก็บ เช่น ค่าดำเนินการ ค่าดูแลรักษากรมธรรม์ และค่าบริการในการลงทุน ตามแบบประกันฯที่เราซื้อ

ส่วนที่ 3 เป็นส่วนที่จัดสรรเข้าไปเป็นการลงทุนในกองทุนรวมตามสัดส่วนที่เราเลือก  จากนั้นบริษัทประกันชีวิตจะนำเงินส่วนนี้ไป “ซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนรวม” ตามคำสั่งของเราในฐานะ “ผู้เอาประกันภัย” และบริษัทที่รับจัดการเงินดังกล่าวก็จะออก “หน่วยลงทุน” ให้แก่ “ผู้เอาประกันภัย” โดยมี “บริษัทประกันชีวิต” เป็นผู้ดูแลระบบบัญชีกรมธรรม์ให้กับเรา

สำหรับค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายของแบบประกัน “เอไอเอ สมาร์ท เวลท์ (ยูนิต ลิงค์)”  

1.ไม่มีค่าใช้จ่าย ค่าการดำเนินการประกันภัย (COI) 

2.มีค่าธรรมเนียมการบริหารกรมธรรม์ คิดที่ 0.6%ต่อปีของมูลค่ารับซื้อคืนหน่วยลงทุน หรือ 0.05%ต่อเดือน

3.มีค่าธรรมเนียมจากการถอนเงินจากกรมธรรม์ หากถอนก่อน คิดค่าธรรมเนียมดังนี้ ปีที่ 1 คิดร้อยละ 5   ปีที่ 2 ร้อยละ 4  ปีที่ 3 ร้อยละ 3  ปีที่ 4 ร้อยละ 2  ปีที่ 5 ร้อยละ 1  และเมื่อถือครบ 5 ปี หากจะถอนปีที่ 6 ไม่มีค่าธรรมเนียม  

4.ไม่มีค่าธรรมเนียมการสับเปลี่ยนกองทุน 

รู้จัก กองทุนรวม 

1.KKP GNP  มีชื่อเต็มว่า กองทุนเปิด  เคเคพี โกลบอล นิว เพอร์สเปกทีฟ  เป็นของบลจ.เกียรตินาคินภัทร จำกัด ระดับความเสี่ยงสูงที่ระดับ 6

KKP GNP  มีนโยบายลงทุนในกองทุนหลัก Capital Group New Perspective Fund (Master Fund) ในหน่วยลงทุนชนิด Class P (USD) ซึ่งจดทะเบียนในประเทศ Luxembourg ดำเนินงานตามระเบียบของ UCITS โดยมี net exposure ในตราสารดังกล่าว โดยเฉลี่ยน้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม กองทุนหลักดังกล่าวบริหารจัดการโดย The Capital Group Companies และลงทุนในรูปสกุลเงินเหรียญสหรัฐ

ที่มา Morningstar Thailand ณ 13 มกราคม 2565

ปัจจุบัน KKP GNP  ได้รับการจัดอันดับเป็นกองทุนระดับ 5 ดาว จาก Morningstar ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำของโลกด้านการจัดอันดับกองทุนรวม ทั้ง 2 ช่วงระยะเวลา คือ 3 ปี และ 5 ปี (ข้อมูล ณ 31 ธันวาคม 2564)  นักลงทุนสามารถดูประสิทธิภาพในการบริหารกองทุนได้  

เช็กสุขภาพการเงิน 4 กองทุนฯเด่น

เมื่อซื้อแบบประกันดังกล่าวแล้ว มาเช็กสุขภาพการเงิน 4 กองทุนฯเด่นของ “เอไอเอ สมาร์ท เวลท์” ว่า  ผลตอบแทนที่ผ่านมาของกองทุนฯเป็นอย่างไร

สำหรับกองทุน KKP GNP  หรือ กองทุนเปิด  เคเคพี โกลบอล นิว เพอร์สเปกทีฟ ของ บลจ. เกียรตินาคินภัทร จำกัด ได้จดทะเบียนเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2558  ข้อมูล ณ วันที่ 13 มกราคม 2565 จาก  Morningstar Thailand ตามตารางด้านล่างนี้พบว่า ผลประกอบการย้อนหลัง 5 ปี มีผลตอบแทนอยู่ที่ 14.81%   3 ปี มีผลตอบแทนอยู่ที่ 23.51% และ 1 ปี ผลตอบแทนอยู่ที่ 21.58%  

ที่มา Morningstar Thailand ณ 13 มกราคม 2565 ***การลงทุนมีความเสี่ยง ผลตอบแทนในอดีต ไม่ได้การันตีถึงผลตอบแทนในอนาคต***

 ส่วนผลตอบแทน ระยะสั้นดูตามตารางด้านล่างนี้

ที่มา Morningstar Thailand ณ 13 มกราคม 2565 ***การลงทุนมีความเสี่ยง ผลตอบแทนในอดีต ไม่ได้การันตีถึงผลตอบแทนในอนาคต***

TOP 5 ลงทุนต่างประเทศและหมวดธุรกิจ 

ที่มา Morningstar Thailand ณ 13 มกราคม 2565

2.กองทุนเปิด เอไอเอ ยูเอส 500 อิควิตี้ ฟันด์ (AIA US500) ลงในหุ้นอเมริกาที่ผลประกอบการดี

AIA-US500 อยู่ระดับความเสี่ยงสูงที่ระดับ 6  มีชื่อเต็มว่า กองทุนเปิด เอไอเอ ยูเอส 500 อิควิตี้ ฟันด์  ภายใต้ บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุนเอไอเอ (ประเทศไทย) จำกัด (AIAIMT) เปิดตัวในประเทศไทยเมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2020 หรือประมาณ 1 ปีที่ผ่านมา วันเปิดตัวมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิภายใต้การบริหาร (AUM) รวมประมาณ 853,000 ล้านบาท จัดเป็นบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนขนาดใหญ่ติดอันดับใน 5 อันดับแรกของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนในประเทศไทย และเป็น บลจ.ที่มีประสบการณ์ด้านการลงทุนที่แข็งแกร่งใน 18 ประเทศทั่วภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก รวมถึงมีทีมบริหารการลงทุนที่มีความเชี่ยวชาญมากกว่า 150 คนจากทั่วทุกภูมิภาคของโลก

มีนโยบายการลงทุนเพื่อความยั่งยืน (Sustainable investment) และประกอบธุรกิจโดยยึดหลัก ESG (Environmental, Social and Governance) ที่คำนึงถึงการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล

ปัจจุบันเป็นผู้นำด้านผลิตภัณฑ์ยูนิต ลิงค์ ของอุตสาหกรรมประกันภัย มีลูกค้าถือครองกรมธรรม์มากกว่า 1.9 แสนกรมธรรม์  

ผลตอบแทน ระยะสั้น 

ที่มา Morningstar Thailand ณ 13 มกราคม 2565 ***การลงทุนมีความเสี่ยง ผลตอบแทนในอดีต ไม่ได้การันตีถึงผลตอบแทนในอนาคต***

3.กองทุนเปิด เอไอเอ เอ็นแฮนซ์ เซท 50 (AIA ES50 เลือกลงในหุ้น 50 ตัวแรก(บางตัว) ของตลาดหลักทรัพย์ไทย)

AIA ES50 อยู่ภายใต้ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนเอไอเอ (ประเทศไทย) จำกัด (AIAIMT) ปัจจุบันกองทุน AIA ES50 อยู่ระดับความเสี่ยงสูงที่ระดับ 6  

ผลตอบแทน ระยะสั้น

ที่มา Morningstar Thailand ณ 13 มกราคม 2565 ***การลงทุนมีความเสี่ยง ผลตอบแทนในอดีต ไม่ได้การันตีถึงผลตอบแทนในอนาคต***

4.กองทุนเปิด เอไอเอ ไทย อิควิตี้ (AIA-TEQ) เลือกลงทุนใน หุ้น 100 ตัวแรก(บางตัว) ของตลาดหลักทรัพย์ไทย

AIA-TEQ อยู่ภายใต้ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนเอไอเอ (ประเทศไทย) จำกัด (AIAIMT) ปัจจุบันกองทุน AIA-TEQ อยู่ระดับความเสี่ยงสูงที่ระดับ 6  

ผลตอบแทน ระยะสั้น

ที่มา Morningstar Thailand ณ 13 มกราคม 2565 ***การลงทุนมีความเสี่ยง ผลตอบแทนในอดีต ไม่ได้การันตีถึงผลตอบแทนในอนาคต***

แต่อย่างไรก็ตาม การตรวจสุขภาพการเงินของ 4 กองทุนฯถึงปี 2564 ที่ผ่านมา นับเป็นผลตอบแทนในอดีต ที่ไม่ได้การันตีถึงผลตอบแทนในอนาคต

ดังนั้น ผู้ที่ซื้อแบบประกันยูนิต ลิ้งค์นี้ กรณีที่ต้องการสับเปลี่ยนกองทุนเองให้เหมาะสมตามสถานการณ์ของตลาด จำต้องหมั่นศึกษาและติดตามความเปลี่ยนแปลงของตลาดอย่างใกล้ชิดเพื่อหาจังหวะที่เหมาะสมในการซื้อขาย หน่วยลงทุนในการสร้างผลตอบแทนให้กับตัวเอง มากกว่าผู้ที่เลือกใช้บริการปรับสัดส่วนการลงทุนอัตโนมัติเพื่อช่วยรักษาสัดส่วนการลงทุนที่เราได้ออกแบบไว้ ซึ่งการปรับอัตโนมัติปรับทุกรอบ 3 เดือน 6 เดือน หรือ 12 เดือนตามที่ผู้เอาประกันภัยระบุในใบคำร้องขอ  ระบบก็จะทำการขายและซื้อหน่วยลงทุนอัตโนมัติเพื่อเพิ่มและลดสัดส่วนแต่ละกองทุนให้. 

เพิ่มเราเป็นเพื่อนได้แล้ววันนี้!....