ถ้ารถเกิดเหตุ…เราควรทำอย่างไร…?
วันนี้ INN WHY? มี HOW TO ประกันภัย ที่ทุกคนควรรู้ จาก อาจารย์ประสิทธิ์ คำเกิด รองประธานคณะกรรมการประกันภัยยานยนต์ สมาคมประกันวินาศภัยไทย มาฝากกันเหมือนเดิมนะคะ
อ.ประสิทธิ์ บอกว่า เรื่องประกันภัยรถยนต์เป็นภัยที่ใกล้ตัวเรามาก ทุกวันนี้คนส่วนใหญ่ทราบกันดีว่า ถ้าเกิดเหตุ รถมีประกันภัยอยู่แล้ว แต่ปัญหาคือ เมื่อเกิดอุบัติเหตุทุกคนเป็นเหมือนกันหมด ทำอะไรไม่ถูก!!! ทำให้เราต้องมา How To กันว่า หากรถเราเกิดเหตุแล้วจะทำอย่างไร ?
อันดับแรก อ.ประสิทธิ์แนะนำเลยว่า สิ่งที่ต้องมีและติดอยู่ในรถของเราตลอดคือ
- ให้มั่นใจรถของเราต้องมีประกันภัย
- ใบขับขี่ต้องพกพาตามกฎหมาย
- สำเนาคู่มือจดทะเบียนรถ (สำคัญต้องมี)
- บัตรประจำตัวประชาชนต้องพกให้พร้อมตลอดเพราะเราเป็นคนไทย
- ให้มั่นใจรถเรายังอยู่อายุตามสัญญาประกันภัยคุ้มครอง
สมมติ เกิดเหตุรถไปชนคู่กรณีมอเตอร์ไซต์เราจะทำอย่างไร ?
- สิ่งแรกคือ ต้องตั้งสติ แล้วลงไปดูว่าคู่กรณีได้รับบาดเจ็บหรือไม่? หากมี สิ่งที่ต้องทำคือ ให้รีบนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุดเพราะเจตนารมณ์ของกฎหมายหรือพ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถต้องการคุ้มครอง ช่วเหลือ เยียวยา ผู้บาดเจ็บ อย่างทันท่วงทีว่าได้รับบาดเจ็บแค่ไหน?
- ถ้าในระหว่างพูดคุยกับคนเจ็บหรือคู่กรณีแล้วมีประกันภัยให้โทรศัพท์แจ้งบริษัทประกันภัยของเราก่อน เพราะบริษัทประกันภัยจะให้คำแนะนำกับเราว่าต้องทำอะไรบ้างตามขั้นตอน และให้ปฏิบัติตามคำแนะนำที่บริษัทแนะนำ
- ถ้าคู่กรณีบาดเจ็บและมีประกันภัยและถ้ามีรถฉุกเฉิน หรือเจ้าหน้าที่รถมูลนิธิใดมารับผู้ป่วยไปโรงพยาบาล แนะนำให้จดรายละเอียดที่เกิดขึ้นไว้ด้วยเพื่อแจ้งให้โรงพยาบาลรับทราบ ดังนี้
- หมายเลขทะเบียนรถยนต์เราที่เกิดเหตุ หมวดอักษร ตัวเลข และจังหวัดที่จดทะเบียน
- ประสบภัยจากรถยนต์ยี่ห้อใด
- กรมธรรม์ประกันภัย(ถ้ามี)
- บัตรประจำตัวประชาชนเพื่อแสดงตน
ซึ่งทางโรงพยาบาลได้มีข้อตกลงกับบริษัทประกันภัย หากมีผู้บาดเจ็บไปรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล โดยเฉพาะ บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประภัยจากรถ จำกัด มีข้อตกลงร่วมกันว่า ทันทีที่มีผู้ประสบภัยจากรถไปรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ต้องแสดงข้อมูลเหล่านี้ให้โรงพยาบาลรับทราบ เพื่อทางโรงพยาบาลบันทึกข้อมูลเข้าสู่ระบบ ซึ่งเรียกว่าระบบ “สินไหมอัติโนมัติ” และส่งข้อมูลมายัง บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประภัยจากรถ ทางบริษัทจะทำหน้าที่ตรวจสอบในฐานข้อมูลทั้งหมดตามระบบ ถ้ารถมีประกันภัย ระบบจะตอบรับอัติโนมัติทันทีและแจ้งกลับโรงพยาบาลทันทีว่าผู้บาดเจ็บที่ประสบภัยตามรายละเอียดที่แจ้งโรงพยาบาลนั้น มีกรมธรรม์คุ้มครอง เพียงแค่นี้ ทางผู้ประสบภัยไม่ต้องไปสำรองจ่ายเงินสดค่ารักษาพยาบาล เพราะโรงพยาบาลทำหน้าที่เรียกเก็บเงินไปที่บริษัทประกันภัยโดยตรง
เพียงแต่ว่า ก่อนผู้บาดเจ็บออกจากโรงพยาบาล ให้ถามทางโรงพยาบาลด้วยว่า ค่ารักษาเป็นจำนวนเงินเท่าไหร่เพื่อรักษาสิทธิของเรา เพราะ พ.ร.บ.ให้ความคุ้มครองกรณีที่เราบาดเจ็บ ทั้งนี้หากในเบื้องต้นที่ยังไม่ทราบใครเป็นฝ่ายผิด ฝ่ายถูก กฎหมายจะคุ้มครองให้ไม่เกิน 30,000 บาท ถ้าวงเงินรักษาพยาบาล 18,000 บาท โรงพยาบาลจะไปเรียกร้องจากบริษัทประกันภัย
แต่เมื่อกลับออกจากโรงพยาบาลมาพักฟื้นที่บ้านแล้วอาการไม่ดีต้องกลับไปรักษาใหม่ เรายังมีสิทธิ์อยู่เพราะวงเงินยังเหลือ อีก 12,000 บาทก็สามารถใช้รักษาต่อเนื่องได้ในวงเงินที่คุ้มครองได้
และถ้าเราเป็นฝ่ายไปชนเขา ก็แนะนำสิทธิ์ในเบื้องต้นให้ทราบในลักษณะแบบนี้ โดยอยู่ในรถคันไหนให้เบิกในสิทธิคุ้มครองรถคันนั้นไปก่อน ส่วนใครผิดหรือใครถูกมาว่ากันภายหลังได้
ส่วนผู้เสียหายมาร้องเรียกค่าเสียหายเพิ่มเติม จะปฏิบัติอย่างไร ? ติดตามครั้งหน้าใน How To ประกันภัยกันค่ะ
เพิ่มเราเป็นเพื่อนได้แล้ววันนี้!....
ทีมงาน INN WHY? รายการเพื่อผู้บริโภค ร่วมปฏิวัติความคิด ปรับเปลี่ยนชีวิต ก้าวสู่ความมั่นคง หลังเกษียณ
ติดตามเราได้ที่ไลน์แอด @INNWHY.TV หรือ Facebook.com/INNWHY.TV และ Youtube.com/c/innwhy
Contact us : INNWHY31@gmail.com