“วัยรุ่นอังกฤษ” เลือกซื้อประกันรถยนต์อย่างไร...ให้คุ้มค่า 

ทุกคนคงทราบว่า การขับรถโดยไม่มีประกันรถยนต์ ถือว่าทำผิดกฎหมายตามสากลโลกที่ใช้เหมือนกันทุกประเทศ บางประเทศระบุโทษด้วยการปรับค่าเสียหาย หรือบางประเทศก็ใช้วิธีการยึดรถ แล้วแต่กรณีกันไป

อย่างในประเทศอังกฤษ โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นที่มีอายุระหว่าง17-25 ปี  วัยคึกคะนอง ชอบใช้รถเที่ยวเตร่กับเพื่อนๆ ยิ่งเวลาปาร์ตี้ด้วยแล้ว กลุ่มหนุ่มสาวในอังกฤษก็ยังนิยมใช้รถ มากกว่าจะเลือกใช้บริการสาธารณะเหมือนหลายๆ ประเทศในเอเชีย แต่ที่เป็นน่าสนใจก็คือ ทุกคนทราบว่า ประกันรถยนต์สำคัญแต่ไม่ตระหนักที่จะซื้ออย่างสม่ำเสมอด้วยเพราะเห็นว่ามีราคาแพง  

 บทความจากเว็บไซต์ money advice service ของหน่วยงานรัฐของอังกฤษ เปิดเผยผลการศึกษาและข้อแนะนำให้กับกลุ่มวัยรุ่นในอังกฤษ เกี่ยวกับการเลือกซื้อประกันรถยนต์ที่เหมาะสมและคุ้มค่า แถมมีราคาที่ถูกลง เพื่อกระตุ้นให้ผู้ขับขี่วัยหนุ่มสาวให้ความสำคัญกับประกันรถยนต์มากขึ้นได้อย่างน่าสนใจ

 โดยระบุความสำคัญอันดับแรก คือ “เลือกประกันรถยนต์ตามพฤติกรรมผู้ขับ” เพราะบางทีการที่เราเลือกซื้อประกันชั้น 1 ซึ่งจัดว่าเป็นประกันที่ดีที่สุด มีความคุ้มครองที่ครอบคลุมมากที่สุด แต่อย่าลืมว่า ประกันที่ความคุ้มครองมากที่สุด อาจไม่ได้เหมาะสมและคุ้มค่ากับผู้ขับทุกประเภท

 เช่น ผู้ขับรถยนต์ที่ปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด การขับขี่ดี ไม่ดื่มหรือขับรถเมื่อขาดสติ คือกลุ่มที่มีความเสี่ยงกับอุบัติเหตุน้อยที่สุด ดังนั้น ประกันชั้น 1 คงจะเป็นความฟุ่มเฟือยอย่างมากและไม่เหมาะสม

นอกจากนี้ รายงานได้ระบุถึง ความสำคัญของ “มูลค่ารถยนต์” เพราะส่วนใหญ่กลุ่มวัยรุ่นชาวอังกฤษในวัยคึกคะนอง ส่วนใหญ่พ่อแม่มักอนุญาตให้ใช้รถยนต์คันที่เก่าที่สุดของบ้าน สาเหตุหนึ่งก็เพราะความบ้าระห่ำที่มากเกินกลุ่มวัยรุ่นในเอเชีย ดังนั้น ประกันรถยนต์ชั้น 3 น่าจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุดของกลุ่มวัยรุ่นประเภทนี้

ในคำแนะนำของเว็บไซต์ดังกล่าว ได้เสนอวิธี “การลดความเสี่ยงในประกันรถยนต์ เพื่อช่วยลดเบี้ยประกันในแต่ละปีด้วย ซึ่งก็น่าจะคล้ายๆ กับในไทย ที่หากประวัติการขับรถดีมาโดยตลอด ไม่มีการเคลมอุบัติเหตุตลอด 1 ปีแรก ผู้ขับขี่จะได้รับส่วนลดเบี้ยประกันตามเงื่อนไขของแต่ละบริษัท ซึ่งส่วนลดบริษัทประกันรถยนต์ในอังกฤษจะมอบสิทธิพิเศษนี้ให้สูงสุดที่ 50%

 ในคำแนะนำยังพูดถึง “ระยะทางขับขี่ที่น้อยกว่ากำหนด” จะช่วยให้ค่าประกันถูกลงได้ด้วย เพราะเท่ากับว่าค่าเสื่อมของรถก็น้อยลงตาม

 อีกหนึ่งวิธีที่ทีมวิจัยแนะนำคือ ผู้ขับขี่วัยรุ่นจากแดนผู้ดีควรเลือก “ประกันรถยนต์ราคาถูกที่สุด” เมื่อเทียบกับประกันบริษัทอื่นๆ อาจไม่จำเป็นต้องเลือกซื้อประกันรถยนต์กับรายที่ติดตลาดท็อปๆ เท่านั้น เพราะโดยปกติบริษัทประกันรถยนต์จะชาร์จค่าบริการเสริมอื่นๆ อยู่แล้ว เช่น บริการซ่อมแซมรถที่มีอะไหล่ราคาแพง หรือรถแต่ง ที่ต้องใช้อะไหล่เฉพาะเท่านั้น เป็นต้น

 สำหรับการกำหนดชื่อผู้ขับขี่หลักเป็นสิ่งสำคัญที่มีผลต่อการประเมินค่าเบี้ยประกันในแต่ละปีด้วย ขณะที่ “ผู้ขับขี่เสริม” ควรจะเป็นชื่อ “พ่อหรือแม่” อย่างน้อยๆ ก็คือคนในครอบครัว ซึ่งน่าจะมีพฤติกรรมการขับขี่ที่ใกล้เคียงกัน

 สุดท้ายคือ การติดตั้งกล่องอัจฉริยะ smartbox ซึ่งจะเหมาะกับผู้ที่ใช้รถน้อย เพื่อช่วยประมวลผลการขับขี่ของเรา พร้อมบันทึกตั้งแต่ การเร่งอัตราความเร็ว การเบรก การเข้าโค้ง และระยะเวลาในการขับขี่ หลังจากนั้นบริษัทจึงจะเรียกเก็บเงินค่าประกันในทุกๆ 90 วัน ส่วนราคาจะเป็นเท่าไหร่ขึ้นอยู่กับการขับขี่ของผู้ใช้นั้น ๆ ว่าขับดีอยู่ในระดับใด แต่ข้อจำกัดก็คือ หากพบการขับขี่ที่แย่กว่ามาตรฐานมากๆ ติดต่อกันหลายครั้ง อาจทำให้ประกันรถยนต์ของคุณถูกยกเลิกไปในที่สุด

 สำหรับการจ่ายประกันรถยนต์ในวิธีสุดท้าย “จ่ายเมื่อขับตามผลประมวลจริง” ถือเป็นนโยบายของรัฐบาลที่เพิ่งออกมาที่ใหม่มาก และเมื่อเทียบกับการซื้อประกันรถยนต์แบบทั่วไป ถือว่ายังไม่เป็นที่นิยมมากนัก ส่วนใหญ่กลุ่มลูกค้าที่ใช้วิธีนี้ จะเป็นผู้สูงอายุ หรือกลุ่มวัยเกษียณที่ชอบอยู่ติดบ้านมากกว่า.

 

เครดิตภาพ : http://www.walmsleybaker.co.uk

เพิ่มเราเป็นเพื่อนได้แล้ววันนี้!....