กูรูภาครัฐ-เอกชนหนุนบูมท่องเที่ยวไทยสู่ฮับโลก
เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม ค่ายเลิฟสไตล์แฮปปี้ร่วมกับเคทีซี ได้มีการจัดเสวนาส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยและอาเซียน ในหัวข้อ “ ท่องเที่ยวเมืองไทย ใครๆก็อิจฉา” โดยนายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า การท่องเที่ยวไม่ใช่สิ่งฟุ่มเฟือยหรือไร้สาระอีกต่อไป แต่เป็นสิ่งจำเป็นของชีวิต เป็นปัจจัยที่ 5 ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวออกเดินทางท่องเที่ยวทั่วโลกปีละ 1.2 พันล้านคน มีการเดินทางท่องเที่ยวข้ามพรมแดนเข้าไทย 30 ล้านคน
การที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวมากขึ้นเรื่อยๆ กระทรวงการท่องเที่ยวฯต้องเตรียมตั้งรับในด้านต่างๆ เราพยายามที่จะหันมาดูเรื่องความพร้อมของแหล่งท่องเที่ยวในการอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวด้วย
นอกจากนี้ยังส่งเสริมในเรื่องของไอที และล่าสุดคือการใช้เกมส์โปเกมอนโกมาโปรโมทท่องเที่ยวไทย เนื่องจากเป็นเทรนด์ของการใช้สมาร์ทโฟนและดิจิตัล ขณะนี้กระทรวงการท่องเที่ยวฯได้ส่งทีมหารือกับเจ้าของลิขสิทธิ์เพื่อนำสถานที่ท่องเที่ยวใส่เข้าไปในเกมส์ ขณะเดียวกันกระทรวงจะมีการเปิดตัวโครงการดิจิตัล ทัวริซึ่ม และร่วมวางแผนการท่องเที่ยวผ่านเวบอะเมซิ่งไทยแลนด์ของททท. เพื่อให้สามารถวิเคราะห์ความต้องการของนักท่องเที่ยวเป็นรายบุคคลได้
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ประธานคณะกรรมการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) และประธานคณะกรรมการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) กล่าวว่า เมืองไทยน่าอิจฉา เพราะมีที่เที่ยวครบทุกรสชาติ ในบทบาทของตัวเองที่ดูแลทั้ง 2 หน่วยงานนั้น สำหรับที่อพท. เมื่อเที่ยวแล้ว ต้องส่งเสริมชุมชนชาวบ้านให้ได้ประโยชน์ด้วย ขณะนี้คนชั้นกลางจะออกท่องเที่ยวจำนวนมาก ต้องไปสัมผัสเสน่ห์ของการท่องเที่ยวแบบชุมชน ส่งเสริมมีรายได้และความภาคภูมิใจ ส่วนของอพท.เราใช้ไบเบิลใหม่คือ เราต้องการการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนเรามีตัวชี้วัดต่างๆ มีต้นแบบจากโมเดลชุมชนพื้นที่พิเศษต่างๆ
สำหรับนักท่องเที่ยวกลุ่มประชุมหรือไมซ์ แม้ไม่ใช่นักท่องเที่ยวเต็มตัวนัก แต่เขาสามารถแปลงกายเป็นนักท่องเที่ยวเอง เพราะเมื่อประชุมเสร็จ เขาจะออกไปเที่ยวใช้เงิน จึงใช้เงินมากกว่านักเดินทางทั่วไป 3 เท่า ปีที่แล้วมีกลุ่มนี้มาไทย 1 ล้านคน ใช้จ่าย 1 แสนล้าน เราอยากให้สูงกว่านี้อีก จึงได้นำเสนอแพคเกจใหม่ของสสปน.คือให้บัตรโดยสารของรถไฟฟ้า และให้ Free Wi-Fi ไปใช้นอกอาคารด้วย
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมสินค้าการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า เที่ยวเมืองไทยน่าอิจฉาจริงๆ ใครก็อยากมาไทย ยุคสมัยนี้นับได้ว่าเป็นยุคทองของการท่องเที่ยวไทย ขณะที่หน่วยงานต่างๆด้านท่องเที่ยวทั้งกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ททท. สมาคมท่องเที่ยวต่างๆ ชุมชน เอกชน มารวมตัวเป็นประชารัฐ เป็นการสามัคคีสร้างพลังเข้มแข็ง
นักท่องเที่ยวยังนิยมสัมผัสประสบการณ์โลคอลเอ็กซพีเรียนซ์ เช่นตัวอย่างในเกาะหมาก เป็นเกาะเล็กแต่น่าเที่ยวน่าไปสัมผัส และสำหรับแผนของททท.ในปี 60 ททท.ก็จะจับตลาดต่างๆตามเซกเมนท์เช่น กลุ่มผู้หญิง ครอบครัว เจนวาย ผู้สูงวัยที่รักการท่องเที่ยวเป็นต้น
นายเจริญ วังอนานนท์ นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว(แอตต้า) กล่าวว่า ตอนนี้อาจจะเรียกได้ว่าเครื่องยนต์ที่ติดและขับเคลื่อนประเทศคือเรื่องท่องเที่ยว โดยเฉพาะการท่องเที่ยวแบบโลคอลเอ็กซพีเรียนซ์ และท่องเที่ยววิถีไทยที่เป็นรากเหง้า ดึงให้นักท่องเที่ยวมาไทยเพื่อสัมผัสวิถีไทย ตอนนี้ทุกภาคส่วนด้านท่องเที่ยวทำงานกันหนักทุกเซคเตอร์ อาจมีปัญหาอุปสรรคบ้างแต่น้อยมาก ภาคประชารัฐด้านท่องเที่ยวและอาหาร เราเน้นให้กระจายไปชุมชนมากๆ สิ้นก.ค.เรามีนักท่องเที่ยว 19.7 ล้านคน เรามีเวลาอีก 5 เดือน จะสามารถทำตัวเลขได้ 33 ล้านคนแน่นอน ถือว่ามีทิศทางดีมาก
นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทยและรองประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย กล่าวว่า ตัวเลขการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวในปี 58 เรายังมีรายได้การใช้จ่ายจากภาคอาหารไม่สูงนักคือเฉลี่ยวันละ 400 บาท อยากให้หาทางเพิ่มค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ เราอยากส่งเสริมให้อาหารไทยมีความปลอดภัย ได้มาตรฐาน
นางดวงกมล จันสุริยวงศ์ นายกสมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย (ตีต้า) กล่าวว่า เที่ยวเมืองไทยน่าอิจฉามากโดยเฉพาะหากไปเที่ยวกับตีต้า เพราะเราเป็นสมาคมที่ไม่ใช่เน้นแค่เที่ยว แต่ทำประโยชน์ให้ท้องถิ่นนั้นด้วย และมั่นใจว่าลักษณะการท่องเที่ยวของสมาคมฯมีประโยชน์ต่อเศรษฐกิจถึงชุมชนแน่นอน
นางสาวเจนจิต ลัดพลี ผู้อำนวยการสายงานการตลาดเพื่อการท่องเที่ยวและสันทนาการ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือเคทีซี กล่าวว่า เราเป็นแบรนด์บัตรเครดิต แต่เราแข็งแรงด้านท่องเที่ยวนานแล้ว คอนเทนท์คือทำให้ลูกค้ามีความภักดี คือความเป็นบัตรเองเรามีฐานลูกค้า 2.5 ล้านคน เรามีกิจกรรมต่อเนื่อง ช่วยต่อยอดเชื่อมโยงผู้ประกอบการ ให้ไปถึงผู้บริโภคได้อย่างตรงที่สุด
นายศักดิ์ สมบุญโต ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า การท่องเที่ยวถือเป็นสิ่งสำคัญมากของจังหวัดกาญจนบุรี ออกจากกทม.เพียง100 กว่ากิโลเมตรก็ติดชายแดนแล้วที่นี่มีความหลากหลายของผู้คน พี่น้องติดชายแดน ชาวมอญ กะเหรี่ยง มีประเพณีวัฒนธรรมแปลกๆเหมาะที่จะไปเที่ยวเป็นประตูเชื่อมโยงสู่เออีซี ปัจจุบันรายได้ของกาญจนบุรี รวม 8 หมื่นล้าน เป็นกำไรเข้าสู่ธุรกิจและชุมชน 2 หมื่นล้าน ดังนั้นรายได้จากการท่องเที่ยวจึงเป็นสิ่งสำคัญ
นางสาวสาธิตา โสรัสสะ บรรณาธิการหนังสือและกรรมการผู้จัดการ บริษัทณัฐสุรงค์ จำกัด ผู้บริหารค่ายเลิฟสไตล์ แฮปปี้ กล่าวถึงกรเปิดตัวพ็อคเก็ตบุ๊คเรื่อง “ 100 ที่เที่ยว-กิน-พัก สุดฟิน” ว่า ได้ร่วมกับดร.สุรศักดิ์ จิรวัสตร์มงคล บรรณาธิการข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ จัดทำหนังสือเล่มดังกล่าวนี้ขึ้นมาเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยและอาเซียนโดยมี26 องค์กร ให้การสนับสนุนหวังร่วมชูไทยและอาเซียนสู่ “ฮับท่องเที่ยวโลก” โดย ได้รวมสถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร และที่พักจำนวน 100 แห่ง ที่น่าสนใจสำหรับเป็นคู่มือให้กับนักเดินทาง ในภูมิภาคนี้ที่ถือว่ามีอัตราการเติบโตมากของโลก
ในหนังสือเล่มนี้ประกอบด้วย 58 แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของไทย ,14 ร้านอาหารดังทั่วไทยแนะนำโดยหยั่นหว่อหยุ่นและสมาคมภัตตาคารไทย, 10 ที่พักแนะนำโดยไทยแลนด์ บูติค อวอร์ดส ,2 กลุ่มแหล่งท่องเที่ยวแบบซอฟท์ แอดเวนเจอร์โดยเคทีซีและมีเดีย แอนด์ บล็อกเกอร์ คลับ , 8 สวนสัตว์ และ 9 แหล่งท่องเที่ยวจากประเทศอาเซียน
เพิ่มเราเป็นเพื่อนได้แล้ววันนี้!....
ทีมงาน INN WHY? รายการเพื่อผู้บริโภค ร่วมปฏิวัติความคิด ปรับเปลี่ยนชีวิต ก้าวสู่ความมั่นคง หลังเกษียณ
ติดตามเราได้ที่ไลน์แอด @INNWHY.TV หรือ Facebook.com/INNWHY.TV และ Youtube.com/c/innwhy
Contact us : INNWHY31@gmail.com